บันเทิง

'Descendants of the Sun (1)'

'Descendants of the Sun (1)'

12 พ.ค. 2559

'Descendants of the Sun (1)' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม

 
          สร้างปรากฏการณ์ข้ามชาติเลยทีเดียว สำหรับซีรีส์เกาหลีเรื่อง Descendants of the Sun เพราะไม่เพียงได้รับความนิยมถล่มทลายในบ้านเกิดเท่านั้นแต่ยังข้ามน้ำข้ามทะเลมาโด่งดังในไทย โดยเฉพาะนักแสดงนำชาย ซงจุงกิ พระเอกของเรื่อง ที่เพิ่งเดินทางมาพบปะแฟนคลับชาวไทยเมื่อสัปดาห์ก่อน (ความเป็นขวัญใจสาวไทยของหนุ่มคนนี้ ถึงกับมีการตั้งแฮชแท็กกันเล่นๆ ว่า #สามีแห่งชาติ เลยทีเดียว) ความสำเร็จของซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เพราะได้นักแสดงหน้าตาดี หล่อ สวย หากแต่เมื่อมานั่งพินิจพิเคราะห์อย่างจริงจัง (ถึงขั้นเรียกว่าดูจน ‘ติด’) ก็พบว่าองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ “ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ” (ชื่อภาษาไทยของ Descendants of the Sun ที่ช่อง 7 ซื้อมาออกอากาศบ้านเราไปเมื่อ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา) กลายเป็นซีรีส์ฮิตติดลมบน จนถูกบันทึกไว้บนหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ทีวีเกาหลีใต้ มาจากสองส่วนใหญ่ๆ ด้วยกัน
 
          เริ่มตั้งแต่ ‘บท’ ซึ่งจะว่าไปแล้ว พล็อตของซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าเชยเอามากๆ การจับเอาแนวทางเรื่องรักโรแมนติกประเภทพ่อแง่ แม่งอน หรือคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน ที่ถูกหยิบมาเล่าซ้ำแล้ว ซ้ำอีก นับครั้งไม่ถ้วน แต่ความเก๋ของ Descendants of the Sun คือการเล่าใหม่ในหลายๆรสชาติ เพราะท่ามกลางความเก่า ซ้ำซาก ของหนัง – ละครแนวนี้ คิม วอน ซิกและคิม อึน ซุก คนเขียนบท โดยเฉพาะคนหลังนี่ถือได้ว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากในวงการทีวีเกาหลีใต้ เพราะเธอเขียนบทซีรีส์เกาหลีดังๆ ในระดับปรากฏการณ์มาแล้วหลายเรื่อง อาทิ Secret Garden (เสกฉันให้เป็นเธอ) The Heirs (หยุดหัวใจ..นายไฮโซ) City Hall (วุ่นรักนักการเมือง) Lovers in Prague (ปราก...ฝันรักแรงอธิษฐาน) A Gentleman's Dignity (โสดกะล่อนปลิ้นปล้อนคูณ 4) และLovers in Paris (ฝันรักปารีส) เจ้าของสถิติ ในปี พ.ศ. 2547 เมื่อตอนจบของเรื่องมีเรตติ้งสูงถึง 56.3 เปอร์เซ็นต์
 
          บนความเฉิ่มเชยของพล็อต Descendants of the Sun แต่ทว่าเรื่องราวในทุกๆ ตอน กลับเต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย เหมือนคนเขียนบทจะรู้ตัวตลอดเวลาว่า เขากำลังเขียนซีรีส์รักโรแมนติก หัวใจของซีรีส์จึงไม่หลุดออกไปไหนไกล ยังพยายามกุมธีมว่าด้วยความรักของกัปตันยูชีจิน และหมอคังโมยอน อย่างเหนียวแน่น ความฉลาดของคนเขียนบทในการเพิ่มสีสันให้กับพล็อตหลัก ไม่ให้หวานเลี่ยน เอียนกับเรื่องรักมากไป คือการสร้างพล็อตรองแบบขั้วตรงข้ามเกือบจะสิ้นเชิง ทั้งเพื่อสร้างความหลากหลาย ทั้งเพื่อเล่นกับอารมณ์ ความรู้สึก ที่สำคัญเป็นการสร้างไคลแมกซ์ใหม่ๆ ให้กับเรื่อง เมื่อเกิดจุดพลิกผันในแต่ละตอน ก็เชื้อชวนให้ผู้ชมเฝ้าติดตาม เอพิโซดต่อๆ ไปอย่างใจจดใจจ่อ (ซึ่งซีรีส์อเมริกันนั้นถนัดนักกับวิธีการแบบนี้) ในเมื่อธีมหลักว่าด้วยความรัก ทว่า ‘อึน ซุก’ กับ ‘วอน ซิก’ คู่หูเขียนบทเรื่องนี้ กลับใช้วิธีการบอกเล่าที่ต่างออกไป แทนที่จะเน้นฉากความรักหวานซึ้ง (ซึ่งก็มีปรากฏในแต่ละตอนอยู่แล้ว) แต่พวกเขากลับเล่ามันบนสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปอย่างสุดขั้ว ผ่านฉากแอ็กชั่นที่ออกแบบมาอย่างแตกต่างและสร้างสรรค์
 
          แค่ตอนแรกที่ออกอากาศ ใครเลยจะนึกว่าฉากเปิดเรื่องความยาวเกือบ 10 นาที ที่ว่าด้วยการเผชิญหน้าของทหารเกาหลีเหนือ-ใต้ บนตะเข็บชายแดน รวมถึงชั้นเชิงต่อสู้ด้วยมือเปล่าปราศจากอาวุธ ใช้เพียงมีดพกเพื่อพิสูจน์ศักดิ์ศรีนักรบของนายทหารหนุ่มสองคน คือการเปิดตัวละครสำคัญของซีรีส์รักโรแมนติกเรื่องนี้ จะว่าไปแล้ว เป็นความสุ่มเสี่ยงอย่างมากที่จะสร้างความเข้าใจผิดให้กับแฟนละครแนวโรแมนติกดราม่า ว่า Descendants of the Sun เป็นซีรีส์บู๊แอ็กชั่น และปฏิเสธที่จะติดตามเรื่องราวตอนต่อไป แต่ขณะเดียวกันกลับเป็นการเรียกผู้ชมกลุ่มผู้ชายให้มาสนใจสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ 15 นาทีแรก ที่ให้ผู้ชมทำความรู้จักตัวละครหลักฝ่ายชาย ทั้ง ‘ผู้กองยู’หรือบิ๊กบอส และ จ่าซอ แด ยอง สร้างโลกของพระเอกในอุดมคติที่ทั้งหล่อ เก่ง มีอารมณ์ขัน สถานะทางสังคมน่ายกย่องนับถือ (ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานในฐานะนายทหารแห่งกองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติ) เป็น 15 นาที ที่พยายามอธิบายว่า พระเอกของเรื่องมีความสามารถขนาดไหน มีอุปนิสัยใจคออย่างไร ทุ่มเทกับหน้าที่การงานมากแค่ไหน...เมื่อ 10 นาทีแรก แทบไม่ได้เอาใจคนดูผู้หญิงสักเท่าไหร่ แต่ในนาทีถัดมา โทนของเรื่องก็เปลี่ยนไป เมื่อเหล่านายทหารได้รับอนุญาตให้หยุดพักผ่อน พักจากเหตุการณ์ระทึกขวัญจากปฏิบัติการของนายทหาร คนเขียนบทก็เปลี่ยนมาบรรยากาศมาเล่าความสัมพันธ์ของสองเพื่อนรัก ที่ไม่เพียงอธิบายลักษณะตัวละครเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นภาพอีกด้านจากฉากแรก เน้นความหล่อใสมีชีวิตชีวาของ กัปตันยู ยามไม่อยู่ในสนามรบ ความเคร่งขรึมแบบเท่ๆ ของจ่าซอคู่หูนอกจากนี้บทละครที่เพิ่มสถานการณ์ชวนหัวเล็กๆ เข้ามานอกจากนำไปสู่เหตุการณ์และเรื่องราวใหม่ๆ พบกับตัวละครใหม่ๆ แล้ว ยังลดอารมณ์ความเคร่งเครียดจริงจังในฉากเปิดเรื่องด้วยการแนะนำตัวละครชายให้คนดูได้รู้จักมากขึ้นในฉากเหล่านี้ ได้กลายเป็นแรงดึงดูดสาวน้อยสาวใหญ่ไปในตัว ถือเป็นการบาลานซ์เนื้อหาและอารมณ์ของละครได้อย่างสมดุลย์ลงตัว
 
          กว่าที่พระ-นาง จะมาเจอกัน เวลาก็ล่วงเลยปาเข้าไปเกือบครึ่งเรื่อง แม้จะใช้เวลาไม่กี่นาทีแนะนำหมอคังโมยอน แต่เกือบตลอดครึ่งเรื่องหลัง(ในเอพิโซด 1 และต้นเอพิโซด 2) บทละครก็ให้เวลากับหมอคัง และรายละเอียดหน้าที่การทำงานของเธอ จนทำให้คนดูรู้จักและเข้าถึงอุปนิสัยใจคอของคุณหมอที่ไม่เพียงแค่สวยที่หน้าตาหากแต่ยังงามไปถึงจิตใจ คนนี้ได้เป็นอย่างดี
 
          แม้จะพล็อตของ Descendants of the Sun เป็นเรื่องดาษๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ทว่าคนเขียนบทกลับใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น บทสนทนา ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์สำคัญที่ทำให้คนดูหลงรักตัวละคร กัปตันยูและหมอคัง อย่างหัวปักหัวปำ ไม่เพียงคำพูดคมๆ ที่ตระหนักต่อหน้าที่ ความรับผิดชอบท่ามกลางสถานการณ์คับขันแล้ว การแทรกอารมณ์ขัน และความยียวนกวนใจกันไปมาในฉากที่ผ่อนคลาย ทำให้คนดูอมยิ้มไปกับความน่ารักน่าชังของพ่อแง่แม่งอนคู่นี้ ที่ทำให้ต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่องตลอดทุกตอน...ความสำเร็จของเรื่องรักระหว่างรบ ในซีรีส์ระดับปรากฏการณ์ ยังมีเรื่องน่าพูดถึง ซึ่งไม่เพียงแค่บทเท่านั้น การกำกับที่ทำได้ ‘ถึง’ ในทุกระดับ ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ Descendants of the Sun ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล