‘เอี๊ยง’เตรียมตัวรับใช้ชาติยิ้มเป็นแรงบันดาลใจคนอยากเป็นทหาร | คมชัดลึก

 

          แอบเห็นพระเอกหนุ่ม “เอี๊ยง” สิทธา สภานุชาติ  ไปไหว้พระขอพรกับหลวงพ่อทันใจ ที่ จ.เชียงใหม่ พอได้เจอกับเอี๊ยงในงาน “ช่อง 8 พบเพื่อนเฟสติวัล” จึงต้องถามไถ่เสียหน่อยว่าขอพรอะไรเป็นพิเศษ เจ้าตัวเผย

 

          “ขอเรื่องงาน อยากได้โปรเจกท์ใหญ่ๆ สักโปรเจกท์หนึ่ง จริงๆ ผมไม่ได้ขอแบบเจาะจงมาก ขอใหญ่ๆ ก้อนๆ สักอันหนึ่งแล้วกัน ภายในปีนี้ ไม่ก็ปีหน้าจริงๆ เวลาของผมที่เหลือ จะว่าน้อยก็น้อย จะว่าเยอะก็เยอะ ก็ขอเป็นไปตามดวงแล้วกัน ถ้าได้ก็ดี ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร รอไปเรื่อยๆ ผมเป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ ตั้งแต่ทำงานมา เราเลยรู้สึกว่า ถ้ามันได้สักก้อนหนึ่ง เราก็อยากเอาไปซื้อบ้านใหม่ให้แม่ด้วย หวังใจว่าถ้าได้ขึ้นมาก็จะดี อย่างบ้านที่ผมอยู่ อยู่กันหลายคน มีทั้งครอบครัวผม และครอบครัวคุณน้าอยู่ด้วยกัน ค่อนข้างคนเยอะหน่อย ผมโตขึ้นทุกวัน อาจจะอยากมีความส่วนตัวขึ้นมา อาจจะย้ายแล้วพาแม่ไปอยู่ 2 คน อะไรแบบนี้ ก็ต้องรอดู” เอี๊ยงตอบ

 

          ถามต่อถึงการเตรียมตัวเป็นทหารเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นอย่างไร เอี๊ยงเผยว่า มีโอกาสจะวิ่งทุกวัน 

 

          “ปกติเกลียดการวิ่งมาก มันน่าเบื่อ ไม่เร้าใจ แต่เพื่อนๆ ที่เป็นทหารบอกว่า ถ้าไม่ฝึกวิ่ง เสร็จเลยนะ เพราะเข้าไปไม่ได้วิ่งอย่างเดียว ต้องวิ่งไป แหกปากร้องเพลงด้วย ยิ่งทำให้เราเหนื่อย ก็เลยทำให้ร่างกายพร้อมมากว่า อีกอย่างที่ทำตอนนี้ คือ เพื่อนชวนไปไหน ไปหมดเลย พยายามไปเจอเพื่อนเก่าๆ รู้สึกดี ที่ช่วงชีวิตเราคนหนึ่ง พอมันมีเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมา คนที่หายไปจากชีวิตเรานานมาก ก็ยังส่งข้อความมาหา ได้เจอเพื่อนเก่าๆ เจอคนที่เคยห่วงใหญ่กัน ก็รู้สึกดี ส่วนงานละคร เหลือเรื่องเดียว บ่วงรักหักสวาท น่าจะทันสบายๆอยู่แล้ว (หลายคนชมสมัครทหาร) รู้สึกดีนะ อาจจะส่งผลให้คนที่มองเราอยู่ หรือดูละคร ดูช่อง 8 อาจมีความคิดที่ดีกับการอยากให้ลูกเป็นทหารมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นหน้าที่ของชายไทยอยู่แล้ว รู้สึกดีที่เป็นแรงบันดาลใจของใครบางคนที่อยากจะสมัครทหาร (กลัวฝึกหนักมั้ย) นั่นคือสิ่งที่ผมอยากเจอนะ ผมรู้สึกว่า ผมทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ หางินได้ตั้งแต่ 18 ทุกอย่างมันง่ายไปหมด ไม่ได้บอกว่าผมรวยนะ แต่ว่าเงินขนาดนี้กับเด็กอายุขนาดนี้ มันก็เยอะ มันสบายไปหมด อยากกินอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ บางทีรู้สึกว่าเราทำอะไรอยู่ ดูชีวิตไม่ค่อยมีประโยชน์เลย ถ้าเกิดเราลองไปลำบากดู ขาดอิสรภาพ ขาดทุกอย่าง เป็นคนธรรมดา ถ้าไม่มีอะไรติดตัวมา เราจะใช้ชีวิตอยู่ได้มั้ย แล้วถ้าได้กลับมาเจอสิ่งปกติ อาจจะรู้สึกแฮปปี้กับอาหารที่กินมากขึ้น แฮปปี้กับเตียงนอนมากขึ้น ทุกอย่างก็จะมีคุณค่ากับชีวิตเรามากขึ้นกว่าที่เราเป็นอยู่” พระเอกหนุ่มกล่าว