สุชาติกับวันสุดท้าย
คอลัมน์ เป็นคุ้งเป็นแคว โดย... เคน สองแคว
ก่อนหน้าวันที่ 23 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ไม่ทราบว่า มีอะไรดลใจให้หยิบพอคเก็ตบุ๊คชื่อ “ไอ้พวกสุพรรณ” โดย วานิช จุงกิจอนันต์ ขึ้นมาอ่าน หลังจากที่ซื้อมาเก็บไว้นานสองนาน
หน้า 83 วาณิช เขียนถึงว่า อัสนี โชติกุล ได้มาถามเขาว่า เพลงอะไรนะที่ร้องว่า “แดงเอย โธ่เอ๋ยน้องแดงของพี่...” อัสนีบอกว่า ตอนอยู่บ้านนอกเคยได้ยินเพลงนี้ตอนเช้ามืด ฝังใจจำ ...วาณิช เขียนถึงเนื้อเพลงจนจบ4 ท่อน และบอกว่า เพลงที่อัสนีถาม ชื่อเพลง”วันสุดท้าย”แต่งเนื้อร้อง ทำนองและขับร้องโดย สุชาติ เทียนทอง เป็นเพลงที่ผม(วาณิช) ยกให้ว่า เป็นเพลงที่เศร้าที่สุด โศกที่สุด ในบรรดาเพลงทั้งหลายอันเคยมีมาในประเทศนี้ เศร้าที่สุดทั้งทำนอง โศกที่สุดทั้งเนื้อร้อง
บังเอิญเหลือเกินที่ วันรุ่งขึ้น ผมก็ได้ฟังเพลงนี้ จาก สุนทร บัวกลิ่น นายกสมาคมวงดนตรีแห่งประเทศไทย ที่ได้ไปร่วมในงานทำบุญรำลึกครบรอบ ปีที่ 31 ของการจากไป สุชาติ เทียนทอง นักร้องนักแต่งเพลงชาวกรุงเก่าผู้มากความสามารถ ที่วัดบางกะจะ ต.สำเภาร่ม พระนครศรีอยุธยา
งานทำบุญที่วัดบางกะจะ ปีนี้ แม้ว่า จะมีคนไปร่วมงานไม่มากมายอย่างปีที่ผ่านมาที่มีการตั้งวงดนตรีถ่ายทอดสด แต่ก็เป็นไปด้วยความอบอุ่น เพราะได้เห็นหน้าและคุยกันทั่วถึง หลายคนที่มาก็ไม่ได้เร่งรีบหรือแย่งคิวกันร้องเพลง ตั้งใจมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ครูสุชาติกันอย่างจริงจัง
เฉลียว สุขโชค นักแต่งเพลง เจ้าของเพลงหวาน” ถอนคำสาบาน” ที่นิยมนำไปประกวดร้องเพลงกัน ได้หอบเครื่องเสียงชุดเล็กแต่คุณภาพดี มาให้ได้ร้องเพลงคาราโอเกะกันหลังจากพระฉันเพล
หมู กิตติศักดิ์ สายน้ำทิพย์ นักเรียบเรียงเสียงประสานฝีมือดี จีระพันธ์ วีระพงษ์ นักร้องชาวอยุธยา เดินทางมาเล่าเรื่องราวเก่าๆให้น้องๆได้ฟังกัน หมู คันไถ ขึ้นร้องเพลง “โทน” ที่สุชาติ แต่งให้สังข์ทอง สีใส ร้อง โดยมี วิลลี่ บัวงาม มายืนประกอบ ชวนให้นึกถึงสังข์ทอง และยังมีนักร้องเงาเสียงของชาย เมืองสิงห์ ศรเพชร ศรสุพรรณ ที่เคยออกรายการโทรทัศน์มาร่วมโชว์เสียง รวมไปถึงนักร้องรุ่นใหม่ๆเสียงดีอย่าง โรส สวรส หยก รณพร และ ปู รำมะนา ฝ่ายชายมี กานต์ การันต์ อภิชาติ เทียนทอง ศิษย์คนล่าที่จะนำเพลงของสุชาติมาขับร้องใหม่
งานนี้ สุมน เทียนทอง ภรรยาสุชาติ ได้ขึ้นร้องเพลง “คอยพี่กลับนา” กับ หยก รณพร เพลงนี้แปลงมาจากเพลงของสุชาติ เสียงเธอยังหวานไม่แพ้นักร้องสาวๆเลยทีเดียว เพราะในอดีตเธอเคยเป็นนักร้องวงสุชาติ ใช้ชื่อว่า แก้ว กัลยา และอีกชื่อ คือ ตันหยง นงลักษณ์
สิ่งที่น่าตื่นเต้น คือ วัดบางกะจะแห่งนี้ หลวงอาพร ภิรมย์ สมัยที่บวช มักจะนั่งเรือ จากวัดจีนมาที่วัดนี้บ่อยๆ เนื่องจากเป็นเพื่อนกับเจ้าอาวาส จึงมีมุมรำลึกถึงพร ภิรมย์ อยู่ด้วย
แฟนเพลง ส่วนใหญ่จะรู้จักเพลงสุชาติ เทียนทอง จากเพลงแนวสนุกสนาน หรือเพลงแนวขี้เมา เสียเป็นส่วนใหญ่ ทั้งเพลง เหล้าจ๋า เพราะคุณคนเดียว รักกันบ่ได้
แว่นวิเศษ รำวงกลางทุ่ง ฯลฯ แต่ถ้าหากลองฟังเพลง ในยุคแรกๆของเขาก่อนที่ผ่าตัดกล่องเสียง ยังมีเพลง วิวาห์อาดูร ครวญหาแม่ ซึ่งเป็นเพลงอิงมาจากตำนานเรื่อง”ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่” ปักษ์ใต้วิปโยค ซึ่งเป็นเพลงแหล่แนวพร ภิรมย์ ซึ่งมี 2 ภาคให้พลิกหน้าหลังฟังกันต่อ เหมือนเพลง”ดาวลูกไก่” กองทัพขอทาน น้ำตานางลอย (ใช้นามว่า ป. เทียนสุวรรณ ในการแต่ง ) ฯลฯ เพลงไพเราะเหล่านี้ สะท้อนถึงความเป็นอัจฉริยะของ สุชาติ เทียนทอง ในอีกหลายแง่มุม
และยังมีเพลงที่สุชาติแต่งให้นักร้องคนอื่นอีก อาทิ คนสวยใจดำ ชุมทางเขาชุมทอง อีแมะ หลอกพี่ให้พอ (ระพิน ภูไท) รักคนชื่อน้อย (เพชร โพธาราม) หนิงหน่อง โทน(สังข์ทอง สีใส) หนูไม่ยอม (หฤทัย หิรัญญา) ฉันทนาที่รัก รักข้ามคลอง(รักชาติ ศิริชัย) รวมแล้วกว่า 400 เพลงเลยทีเดียว
น่าดีใจที่ มีคนกระซิบบอกว่า ปีหน้าจะมีการพยายามรวมตัวผู้ที่นำเพลงสุชาติไปขับร้องใหม่ให้ได้มากที่สุด พวกเราจึงนัดหมายพบกันอีกในปีหน้า โดยมีจุดให้จำกันง่ายๆว่า วันครบรอบจากไปของสุชาติ เทียนทอง คือวันที่ 23 มิถุนายนของทุกปี ซึ่งถัดวันที่ไวพจน์ ลาบวช (21 มิถุนายน) มาเพียงสองวัน !