‘ดิว’ เปรียบ ‘ไผ่’ เหมือนเสือที่ยังเหลือเขี้ยวเล็บ | คมชัดลึก

          ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเรื่องราวความรักของนักแสดงสาว “ดิว” อริสรา และ “ไผ่ วันพ้อยท์” ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับมีมือที่สามเกิดขึ้น และมาถึงปัจจุบันนี้หลายคนก็ยังคงอยากทราบว่า เรื่องความรักของคนทั้งสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ ได้เจอสาวดิวเลยถามไถ่ถึงประเด็นนี้ โดยเจ้าตัวเปิดใจว่า

 

 

          “คือเราต้องทำความเข้าใจ ว่าผู้ชายโดยธรรมชาติแล้วเขาเกิดมาเพื่อจะสืบพันธุ์ เพราะฉะนั้นมันคือเรื่องปกติ วันนี้ไม่เกิดวันหน้าก็ต้องเกิด เราต้องมองกันที่ว่าความรู้สึกดี แล้วเราก็ต้องถามตัวเองว่าเราจะอยู่กับคนคนนี้ไปถึงไหนแค่ผิวเผินหรือจะอยู่กับเขาไปจนตายด้วยกัน ถ้ามองแค่เป็นเรื่องผิวเผิน บางทีเราก็อาจจะเลิกกันไปเลยก็ได้ แต่ถ้ามองไกลกว่านั้น หากมีเรื่องไหนเกิดขึ้นมาก็มองข้ามๆ ไปบ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือทำให้ดิวได้รู้ว่าโลกใบนี้น่ากลัวนะไม่ใช่แค่ผู้ชาย แต่ผู้หญิงต่างหากที่ร้าย ถามว่ามีวิธีการรับมือกับเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับพี่ไผ่ยังไงบ้าง คือหนูก็ไม่ได้ไปฟาดฟันอะไรเลยนะ แต่เหนื่อยจริงๆ กับการที่ต้องมานั่งตอบคำถามแทนไง คือหนึ่งเราต้องเข้มแข็ง สองคือนี่ไม่ใช่ของเราคือถ้าจะเหนื่อยก็คงจะเหนื่อยแค่นี้ เพราะพี่ไผ่ไม่ได้หล่อเกินที่จะต้องไปแย่งกับใคร(ยิ้ม) ดิวเป็นคนที่เต็มที่กับเรื่องความรักอยู่แล้ว (มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าดิวพยายามทำร้ายตัวเองคิดฆ่าตัวตาย) คือถ้าเรื่องฆ่าตัวตายน่ะเหรอ ถ้าจะฆ่าตัวตายเพราะเหตุผลแค่ว่าเขาไม่ได้รักเรา อันนั้นคงไม่ใช่หรอกนะ” ดิวกล่าว

 

 

          ส่วนที่ถูกยกให้เป็นสุดยอดแฟนสุดแกร่งนั้น ดิวเปิดเผยว่า “ไม่สิ ไม่เอาอย่างนั้นสิ เพราะถ้ารับตำแหน่งมา ก็หมายความว่าคู่ดิวยังเจอเรื่องมือที่สามอยู่สิ คือถ้ายังมีคงต้องตายกันไปข้างอย่างนั้นเหรอไม่ใช่ๆ(ยิ้ม) แต่ในมุมดิวนะ คือต้องพยายามมองข้าม ต้องอยู่ที่ว่าเราจะควบคุมสถานการณ์ได้หรือเปล่า และมีคนอื่นๆ รู้เรื่องคู่ของคุณไหมแค่นั้น (มีคำสัญญาจากปากไผ่บ้างมั้ย) ดิวถามจริงนะ เวลาเกิดเรื่องอะไรแบบนี้มีใครบ้างที่จะไม่พูดคำนี้ออกมา คือเขาพูดนะคำคำนี้ แต่ดิวไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลย เพราะว่าคนเราพูดได้ง่าย แต่การกระทำสิจะทำได้หรือเปล่าเท่านั้นคือรอบที่แล้วที่เกิดเรื่องก็ทำไม่ได้ แต่คือตอนนี้ เขาก็โอเคขึ้นแล้ว คนเราก็ต้องมีพลั้งเผลอบ้าง เสือมันก็ยังคงต้องมีเขี้ยวเล็บจะให้เราไปถอดออกหมดเลยก็ไม่ใช่ ก็ปล่อยเสือเข้าป่าไปบ้าง แต่ก็อย่าให้มากเกิน ให้มีลิมิตหน่อย คือถามว่าดิวจะสามารถให้อภัยเขาได้มากแค่ไหนบอกเลยว่าแค่ไหนแค่นั้น และพยายามทำให้ตัวเองมั่นคงมากที่สุด” ดิวกล่าวทิ้งท้าย