เป็นคุ้งเป็นแคว อาทิตย์ 8 มกราคม 2560
ลูกทุ่งปี 60 ต้องเก่ง
โดย เคน สองแคว
ในรอบสองสามปีที่ผ่านมานี้ นักร้องลูกทุ่งรุ่นใหม่ๆ ที่เกิดขึ้และโด่งดัง มักจะมีลักษณะพิเศษที่ย้อนไปวันวานเหมือนรุ่นพี่รุ่นพ่อรุ่นลุงที่มีความสามารถรอบตัวสูง ในอดีตนักร้องหลายคนสามารถแต่งเพลงเองได้ จนพัฒนามาเป็นครูเพลงที่ประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน ครูลพ บุรีรัตน์ ครูชลธี ธารทอง สองศิลปินแห่งชาติก็มีที่มาจากการมาเป็นนักร้องก่อนที่จะประสบความสำเร็จเป็นนักแต่งเพลง นอกจากนี้ยังมีนักร้องนักแต่งเพลง อาทิ สุรพล สมบัติเจริญ ชาตรี ศรีชล คัมภีร์ แสงทอง สดใส รุ่งโพธิ์ทอง ฯลฯ ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งด้านการร้องและการแต่งเพลงร้องเอง และแต่งให้แก่นักร้องคนอื่นๆ
รุ่นใหม่ๆ ในรอบหลายปีมานี้ ที่น่าจับตามอง ได้แก่ เพชร สหรัตน์ ที่ทั้งร้องทั้งแต่งและเล่นดนตรี ก้อง ห้วยไร่ ที่เขียนเพลงและสามารถเล่นดนตรีได้เอง เบิ้ล ปทุมราช ที่แต่งเพลงร้องเอง และเล่นดนตรีได้ เสถียร ทำมือ ที่เก่งรอบตัว หนู มิเตอร์ ที่ทำได้รอบด้าน ไอดิน อภินันท์ ที่เริ่มก้าวมาเป็นคนเขียนเพลง เรียบเรียงเสียงประสาน บ่าววี ที่แต่งเพลงเองในระยะหลังๆ ส่วนฝ่ายหญิงก็มี เอเซียร์ อาร์สยาม อาม ชุติมา ฯลฯ
นักร้องที่ไม่ได้มีความสามารถรอบตัวแบบนี้ หาใช่ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะหากมีครูเพลงดีๆ และทีมทำดนตรีที่จับทางได้ถูก ก็ประสบความสำเร็จเป็นเบอร์ต้นๆ ได้เช่นกัน ซึ่งนักร้องเองก็ต้องพัฒนาความสามารถด้านการร้องการเต้น การแสดงหน้าเวทีให้เป็นที่ประจักษ์ประกอบกันไปด้วย
ล่าสุด มีนักร้องรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง ในแง่ของการลงมือทำหลายๆอย่าง ด้วยโอกาสที่เปิดให้ ยกตัวอย่างเห็นชัดๆ สักคน คือ "บิว" พงค์พิพัฒน์ คงนาค หนุ่มหนุ่มสุราษฎร์ธานี ที่เคยอยู่ในชายคาแกรมมี่โกลด์ ซึ่งเคยสร้างความประทับใจจากเพลง “นักเรียนหลังห้อง“ และเคยร้องเพลงเก่า “คนใต้ไม่หวาน“ ที่พี่เป้า สายัณห์ สัญญา เคยร้องไว้ ได้อย่างไพเราะเข้าปากยิ่งนัก และเขายังได้เล่นละครหลายเรื่อง เรียกว่าได้ทำงานหลายด้านสะสมประสบการณ์
ปีนี้ บิว ได้เข้าสังกัดบ้านหลังใหม่ อาร์สยาม โชคดีที่ได้มีโอกาสใช้ศักยภาพเขียนคำร้องทำนองเองในซิงเกิ้ลแรก “ไอ้หมูไอ้หมา” และได้ใช้ความรู้ที่จบมาร่วมทำมิวสิกสตอรี่ด้วยตัวเองในทุกขั้นตอนการผลิต พูดถึงความรู้ความสามารถแล้ว หนุ่มคนนี้เรียนจบนิเทศศาสตร์ เอกวิทยุโทรทัศน์เกียรตินิยมอันดับ 1 จากมหาวิทยาลัยรังสิต พอเข้าวงการเพลงก็ได้ใช้วิชาที่เรียนมาบ้าง แต่ยังไม่เต็มรูปแบบ หลายคนยังไม่คิดว่า เขาจะทำอะไรได้มากมายกว่าที่พบเห็นมา
เณร ศุภชัย ผู้บริหารอาร์สยาม ได้ให้โอกาสเขาได้แสดงฝีมือแต่งเนื้อร้องทำนองเอง และยังพ่วงด้วยการทำมิวสิกวิดีโอเป็นหนังสั้น มิวสิกสตอรี่ โดยใช้กล้อง DSLR ถ่าย งานนี้บิวเขียนสคริปท์เอง วาดเป็นสตอรี่บอร์ดออกมา ลงมือแสดงเองระดมทีมงานรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยมาช่วยกันกำกับ และขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตคือ ควบคุมการตัดต่อด้วยตัวเองในมิวสิกสตอรี่ เพลง “ไอ้หมูไอ้หมา” เขาบอกว่า เพลงนี้มีความคล้ายคลึงชีวิตของเขา สมัยที่ฝึกเล่นดนตรีตอนอยู่มัธยมปลาย ที่โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งในมิวสิกวิดีโอจะเห็นว่า ชุดนักเรียนจะปักหน้าอกตัวย่อ ส.ร. ด้วย
ลักษณะการทำงานของบิวในวันนี้ จะคล้ายๆ กับ บิทเติ้ล อาร์สยาม บัณฑิตหนุ่มจากรั้ว มศว ประสานมิตร ที่เข้าวงการมาแบบที่ทำงานเองเกือบทุกขั้นตอน และประสบความสำเร็จจากเพลง “ห้านาทีบรรลุธรรม” ที่มียอดวิวในยูทูบกว่า 60 ล้านวิว และเพลงล่าสุดเพลง “ไอ้โจ๋ในตำนาน” ก็ทำได้ถึงกว่า 6 ล้านวิว
บิวเล่าให้ฟังว่า ตอนสมัยเรียนได้คุยกับเพื่อนๆ ที่มีความฝันแบบเดียวกันที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง ทุกคนห่วงว่าอาชีพในวงการนี้จะมั่นคงแค่ไหน ซึ่งเขาเองอยากจะพิสูจน์ให้เห็นว่า อาชีพนักร้องนักดนตรีสามารถดูแลครอบครัวได้เหมือนกัน ไม่ได้ต่างจากอาชีพอื่นๆ ถ้ามีความตั้งใจและอดทนมากพอ นอกจากความตั้งใจเรียนรู้และสะสมประสบการณ์แล้ว บิวถือว่า เป็นคนที่อดทนเป็นเยี่ยม เขารอคอยการทำงานเพลงและคลุกคลีมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ไม่ใจร้อน ยอมแพ้ ยกธงขาวไปเสียก่อน บิวจึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งนักร้องที่จะพิสูจน์ตัวเองว่า ถ้าเป็น "ตัวจริง” แล้ว ความสำเร็จไม่ไกลเกินเอื้อม หรือหากยังไปไม่ถึงเป้าหมาย อย่างน้อยเขาก็จะได้ภาคภูมิใจว่า ได้ใช้ความสามารถที่มีอย่างเต็มที่แล้ว ไม่เสียแรงที่เข้าวงการมาและได้ทำทุกอย่างที่หลายคนใฝ่ฝันจะทำ
ขอให้กำลังใจนักร้องใหม่ๆ ที่จะเข้ามาสู่วงการเพลง ซึ่งโอกาสง่ายขึ้นกว่าคนรุ่นก่อนๆ และขอให้รักษามาตรฐานการทำงานอย่าทำงานแบบสุกเอาเผากิน ตีหัวเข้าบ้าน หรือหลงละเลิงกับชื่อเสียง ไม่เคารพครูบาอาจารย์ ซึ่งครูหลายคนบ่นมาว่า เด็กสมัยนี้ ดังขึ้นมานิดหนึ่งก็ลืมตัว หลงใหลกับยอดไลค์และชื่อเสียง เงินทองที่ไหลมา วางตัวกันไม่ถูก ไม่เคยช่วยงานการกุศล เอาแต่เงินลูกเดียว ซึ่งในระยะยาวชื่อเสียงก็จะเลือนหายไปจากวงการ และวันหนึ่งเกิดเจ็บป่วยหรือตกยากก็ไม่ควรมาโวยวายว่า วงการเพลงไม่หันมาดูแลก็แล้วกัน เพราะจะรุ่งหรือจะร่วงอยู่ที่การทำตัวของตัวเองทั้งนั้น