
สืบจิต ไขปริศนา 9
ตอน FLAME RED
ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 23.00 น. ทางช่อง NOW26
ตอน FLAME RED
โชเข้ามารายงานลิสบอน “สงสัยว่ามีคดีฆาตกรรมวางเพลิงที่ไร่ในมาร์เคซ่า อัยการเขตขอให้เราไปช่วยตรวจสอบ”
มาร์เคซ่า แคลิฟอร์เนีย ลิสบอนกับทีมมาถึง พิลเลอร์มารับแล้วบอกเล่ารายละเอียดถึงคนตาย คือริช การ์เชีย ที่ไหม้จนแทบไม่เหลือร่างให้ซูซานกับแมดเดอลีนภรรยาและลูกสาวฝังเลย แพททริกย้อนพิลเลอร์ว่าคงทำใจฝังเพื่อนรักยากเช่นกัน
พิลเลอร์งงที่แพททริกรู้ว่าเขาเป็นเพื่อน เขายอมรับว่าเคยเป็นทหารด้วยกัน สังกัดหน่วยยานเกราะ3192
ริกส์บีตรวจสอบแล้วบอกว่าเป็นการวางเพลิงแน่นอน และฆาตกรรม พบชิ้นส่วนที่ล็อคกุญแจไว้ด้านนอก มีคนขังการ์เชียไว้ข้างในแล้วจุดไฟเผา มีอุปกรณ์ตั้งเวลาอิเล็คทรอนิก..สวิทซ์ปรอท
ลิสบอนสั่งการ “งั้นพิมพ์รอยล้อรถที่ถนน ที่เหลือเข้าเมืองไปหาผู้ชายที่การ์เชียต้องไปพบในคืนนั้น..หัวหน้าเขาชื่ออะไรนะ”
พิลเลอร์ตอบ “มิทเชล รีส ทำงานอยู่ที่ปั๊มนํ้ามันตรงถนนเมน”
“มิทเชล รีส..ไปเลยครับ”
“งั้นคุณกับฉันไปคุยกับภรรยาม่ายเขา เจน!”
ลิสบอนกับแพททริกตามพิลเลอร์มาพบซูซานที่บ้าน แล้วยังพบมาชาโด้เพื่อนสนิทของริชที่มาช่วยดูแล มาชาโด้ขอตัวกลับว่าพรุ่งนี้จะมาใหม่ แพททริกสังเกตเห็นปฏิกิริยาของพิลเลอร์กับซูซานก็พอจะรู้
แพททริกมองสำรวจรอบๆ บ้าน ปล่อยให้ลิสบอนคุยกับซูซาน แพททริกเดินไปดูอีกด้าน ก็พบแมดเดอลีน เธอไม่ค่อยอยากคุยด้วย แต่แพททริกบอกว่าจะช่วยสืบหาคนที่ฆ่าพ่อเธอ เธอยอมคุยด้วย
“พ่อเธออยู่กองกำลังรักษาดินแดนตั้งนาน ทำไมถึงไม่มีรูปพ่อเธอกับเพื่อนๆ ในหน่วยเลย”
“พ่อเคยเอาข้าวของเกี่ยวกับทหารใส่กรอบติดไว้บนผนัง พวกเหรียญตรา รูปถ่ายพวกนั้นแล้วก็เอาลง”
“ทำไมล่ะ”
“ฉันจะรู้ได้ไง พ่อไม่ค่อยเล่าเรื่องตอนที่พ่ออยู่ที่นั่น ไม่เล่ากับฉันแน่”
“เล่าให้ใครฟัง แม่เธอเหรอ”
แมดเดอลีนทำเสียง “เชอะ ไม่”
“หมายความว่าไง ไอ้เชอะ..ไม่”
“ไม่มีอะไร ฉันหมายถึง..พ่อไม่ชอบเล่าเรื่องพวกนั้นไ
“ทำไมต้องโมโหแม่ด้วย”
แมดเดอลีนนิ่งไป “ฉัน... ฉันเปล่า”
“ถ้าไม่ได้โมโห ตอนนี้เธอควรอยู่กับแม่ แม่ต้องการเธอ สามีของแม่เพิ่งตาย”
“แม่จะต้องทำใจได้แน่”
ด้านซูซานก็กำลังให้ข้อมูลลิสบอนอยู่ ทอมมี่ก็เข้ามา บอกว่าเอาข้าวโพดอบกรอบมาให้ของคูลแร้นซ์ ซูซานบอกให้ทานอาหารก่อน แล้วหันมาบอกลิสบอนว่าทอมมี่เป็นเด็กพิเศษ แต่พึ่งตัวเองได้ แล้วทำงานจิปาถะในเมือง แมดเดอลีนสวนแม่ว่าปัญญาอ่อน ซูซานพยายามใจเย็นเอ่ยขอโทษแทนลูกสาว แพททริกเข้ามานั่งคุยด้วย
“รู้มั้ยทำไมเธอถึงโกรธจัด เธอสงสัยว่าชู้รักของคุณมีส่วนในการฆ่าพ่อ”
ซูซานปรี๊ด ต่อว่าแพททริก แต่พอแพททริกยืนยัน แล้วลิสบอนบอกว่าไม่นานความจริงจะปรากฎ เธอจึงยอมรับว่าจริง
ซูซานยอมบอกว่าหลังจากที่ริชกลับมาจากสงคราม เขาเหินห่าง ทำให้เธอมีความสัมพันธ์กับพิลเลอร์ แต่เธอรู้ว่าพิลเลอร์ไม่มีวันทำร้ายริช
ริกส์บีกับแวน เพ้ลท์ไปคุยกับมิทช์ที่กำลังซ่อมรถเก่าๆ ทำให้รู้ว่าก่อนหน้านี้สามปี ก่อนที่เขาจะมาอยู่ที่นี่ก็มีคนตายลักษณะนี้เหมือนกัน คือ เดวิด มาร์ติน ซึ่งอยู่หน่วยที่ 192 ด้วย
พวกลิสบอนได้รับโทรศัพท์ก็รีบออกไป ปรากฎว่าเกิดไฟไหม้ที่บ้านของพิลเลอร์ ริกส์บีตัดสินใจเข้าไปช่วยเขาออกมาได้ เขาได้รับบาดเจ็บที่แขน แวน เพ้ลท์รีบเข้ามาดู
ที่พักแวน เพ้ลท์ดูแลพันแผลให้ริกส์บี เขาถามถึงพิลเลอร์ แวน เพ้ลท์ว่าห้าสิบห้าสิบ ลิสบอนกับแพททริกเข้ามาทัก ริกส์บีว่าแบบนี้พิลเลอร์ก็ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย
โชเข้ามา “ไง พ่อมัมมี่ ไพ่ไหม้ที่บ้านพิลเลอร์รูปแบบเดียวกับที่ฆ่าริช การ์เชีย สารเร่งคือเอทธิลอีเธอร์ สัญลักษณ์ของคนร้าย ใช้อุปกรณ์ซับซ้อน ต้องมีทักษะและฝีมือ”
“คุณไปดูว่าซูซาน การ์เชียจะพูดว่าไงกับเรื่องนี้”
“โอเค”
“แล้วคุณกับฉันไปดูที่อัลตันส์โกรฟที่เดวิด มาร์ตินตายกันหน่อย”
โชกลับไปถามซูซานเรื่องเดฟ มาร์ติน เธอว่าเขาหลับไปทั้งที่จุดบุหรี่ เดฟทำธุรกิจกับริช เทรย์และเบ็น เกิดขึ้นเพื่อหาบ้านให้เดฟ เขาเป็นคนขี้เมาเจ้าอารมณ์ โชถามถึงที่ดิน ซูซานว่ากว่าจะได้ที่ดินมาก็นานมาก ตอนนี้มีทอมมี่ดูแล
ลิสบอนกับแพททริกไปหาทอมมี่ที่บ้าน ลิสบ้อนชวนคุย ขณะที่แพททริกสำรวจรอบๆ อีกห้องของทอมมี่ด้วย แล้วก็ไปนอนบ้าน เจอห้องที่เขาปลูกต้นเจราเนี่ยม ทอมมี่รีบบอกว่าอย่าบอกใคร แพททริกว่าใต้ดินมีชั้นหินอุ้มน้ำ ลิสบอนว่าต้องมีมูลค่าเป็นล้าน
ด้านริกส์บีบอกรักแวน เพ้ลท์ ที่เฝ้าเขาอยู่
“ผมอยากบอกอะไรคุณมานานแล้ว ผมคิดว่า ตอนนี้เหมาะที่สุด เพราะผมเกือบตาย ผมรักคุณเกรซ ผมรักคุณเต็มเปา” แวน เพ้ลท์ทำเสียง “เป็นอะไรรึเปล่า”
แวน เพ้ลท์เสียงสูง “เปล่า”
“ทำเสียงอย่างงั้นทำไม”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบคุณ ฉันชอบนะ แต่ว่า เราทำงานด้วยกัน และมันมีกฎ และถ้า..เกิดเราสองคนคบกัน เราคนนึงต้องออกจากหน่วย ฉันยังเป็นเจ้าหน้าที่รุ่นเล็ก ต้องเป็นฉันที่ออก และงานนี้มีความหมายกับฉันมาก”
โชเข้ามาชวนแวน เพ้ลท์ออกไปทำงาน แวน เพ้ลท์รีบลุกไปเลย
โชกับแวน เพ้ลท์ไปที่บ้านมาชาโด้ แต่มาชาโด้กลัวแล้วไม่รู้ว่าเป็นใครจึงยิง จนแวน เพ้ลท์โชว์ตราตำรวจ มาชาโด้ยอมทิ้งปืน เขาถูกจับตัวมาสอบสวน แถมโชพบสารเร่งที่ใช้ในเพลิงไหม้ 6 กระป๋อง
มาชาโด้ปฎิเสธว่าต้องมีคนใส่ร้ายเขาแน่ และที่ยิงตำรวจเพราะป้องกันตัวไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร และป้องกันตัวจากคนที่พยายามจะฆ่าเขาเหมือนริชกับพิลเลอร์ แพททริกเข้าไปขอคุยด้วย เมื่อโชถามเขาว่า
“เบ็น บอกตรงๆ ผมไม่เชื่อเลย ทำไมถึงมีคนอยากเห็นคุณ3คนตาย ใครจะได้รับผลประโยชน์”
“ฟังการเดาของผมมั้ย” แพททริกแค่เอ่ยชื่อ “เดฟ มาร์ติน”
มาชาโด้สวน “เดฟ มาร์ตินตายแล้ว”
แพททริกย้อนถาม “จริงเหรอ คุณเห็นศพกับตารึเปล่า”
“เปล่า แต่เขาตายแล้ว”
“คุณดูมั่นใจมาก อย่างกับคุณอยู่ด้วย”
“พูดเป็นนัยอะไร”
“เปล่านะ เปล่าซะหน่อย จะบอกว่าคุณ 3 คนพยายามฆ่าเขา เพื่อเอาอัลตันส์โกรฟเป็นของตัวเอง”
“ไม่จริงสักนิด”
“เดฟมาหาพวกคุณด้วยอาการตื่นเต้น เขาพบแหล่งนํ้ามีค่า บนที่ดินที่พวกคุณซื้อให้เขา จริงๆ เป็นที่ดินของพวกคุณ เดฟเป็นหนี้พวกคุณ แต่เขาไม่คิดจะเสนอให้คุณมีเอี่ยวด้วย ไอ้เพื่อนเนรคุณ”
“เหลวไหล เราไม่รู้ว่ามีอะไรจนกระทั่งเร็วๆ นี้”
แพททริกพูดสวน “คุณกับริชและเทรย์อยากได้ของของเดฟ เลยจุดไฟเผาบ้านเขา แล้วปล่อยให้เขาตายในกองเพลิง ลองคิดดู คิดถึงความรู้สึกที่โดนทรยศ แค้นจนหน้ามืด”
“ไฟไหม้นั่นเป็นอุบัติ เหตุ และคุณก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ด้วย”
“มีใครบางคนไม่ต้องการหลักฐาน เขาต้องการแก้แค้น ใครคนนั้นฉลาด และมุ่งมั่นมากๆ เพราะงี้เขาถึงกลัวจนยิงใส่ตำรวจ คุณควรจะกลัวอยู่หรอก ขอให้มอดไหม้เหมือนเทียนไอ้เลวน่าสมเพช”
“ไม่มีสิทธิ์พูดกับฉันแบบนี้ ฉันมีสิทธิ์”
แพททริกว่า “ใช่คุณมี ปล่อยไอ้อุบาทว์นี่ไป เราไม่มีหลักฐานเอาผิดเขา”
แพททริกออกมาก็เจอลิสบอน ที่บ่นว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะสั่งปล่อยใคร
เรามีหลักฐานเอาผิดเขาแล้ว หนึ่ง ใช้อาวุธทำรายโชและแวน เพ้ลท์และสองในโรงนาของเขามีสารเร่ง
“คุณโมโห ใจเย็นก่อน ยอดเลย ลองใช้นี้วแบบโกรธจัดแบบนี้ ผมเป็นคนบอกว่าใครอยู่ใครไป ไม่ใช่คุณ”
“ฉันพูดจริง”
แพททริกพูดสวน “ผมก็เหมือนกัน ถ้าเขาอยู่นี่ ฆาตกรจะมาจัดการเขาได้ไง”
“เขาอาจเป็นฆาตกรก็ได้ แต่ถ้าเขาไม่ใช่ ก็ไม่อยากให้ฆาตกรเล่นงานเขาได้”
“เราต้องอยากสิ มาชาโด้เป็นเหยื่อล่อที่ดี เขาเป็นแพะที่เราล่ามไว้”
“ถ้าเหยื่อถูกฆ่าก็แค่น่าเสียดายเหรอ”
“ใช่ เพราะงี้เราถึงใช้แพะ ไม่ใช่เด็กทารกหรือสาวพรหมจรรย์ไง”
“มาซาโด้ไม่ใช่แพะ”
“คุณพูดถูก เขาไม่ใช่แพะแค่ไว้เคราแพะ..เขาสมควรทนทุกข์ซะบ้าง”
“ไม่มีใครสมควรโดนฆ่า”
“มาชาโด้ช่วยพวกนั้นเผาเดฟ มาร์ติน ซึ่งเป็นเพราะความโลภ”
“เจน เราเป็นผู้พิทักษ์กฎหมายนะ”
“คุณเป็น แต่ผมไม่สนกฎหมาย ผมสนแค่ความยุติธรรม ความยุติธรรมบอกว่ามาชาโด้สมควรต้องทนทุกข์”
“ไม่ใช่ความยุติธรรม มันคือการแก้แค้น”
“ต่างกันตรงไหน”
“ให้เราทำไงกับมาชาโด้” โชโผล่หน้ามาถาม
“ปล่อยเขาไป”
“จริงเหรอ ปล่อยแล้วปล่อยเลยนะ”
ลิสบอนยืนยัน แพททริกมองลิสบอน “ใช้จิตวิทยาย้อนกลับเหรอ”
“คุณทำพูดดี อาจถึงเวลาได้บทเรียนถ้ามันเกิดผลตามมา ถ้ามาชาโด้รับบาดเจ็บคุณต้องรับผิดชอบ”
“ได้อยู่แล้วเราไม่เคยคุยเรื่องนี้ นึกว่าคงไม่ต้องพูด แต่ผมจับเร้ด จอห์นได้เมื่อไหร่ ผมจะเชือดเขาแล้วปล่อยให้ตายช้าๆ เหมือนที่เขาทำกับลูกเมียผม ถ้าคุณมีปัญหาเราคงต้องคุยกัน”
“งั้นคุยเลย เพราะถ้าเราจับเร้ด จอห์นได้ เราจะควบคุมตัวเขา เขาจะต้องพิจารณาในศาล”
“ถ้าเขาไม่หายใจแล้วล่ะ”
“ถ้าคุณคิดจะทำร้ายเขา ฉันจะหยุดยั้งคุณแน่นอน และถ้าคุณทำร้ายเขาสำเร็จ ฉันก็ต้องจับคุณ”
แพททริกพูดสวน “ผมเข้าใจ”
“ขอให้จริงเถอะ”
“ดีใจที่เราคุยกัน ไม่คิดว่าคุณจะหัวโบราณ อยู่ในกรอบขนาดนี้”
ริกส์บีกับโชนั่งรถเฝ้าอยู่หน้าบ้านของมาชาโด้ แต่ริกส์บีคิดว่ามิทช์ รีสน่าสงสัย จึงชวนโชไปหา แต่ก็ไม่มีไรให้จับผิด
ขณะที่มาชาโด้เข้าไปในโรงนา ทั้งที่มืด แล้วโดนปิดประตูจากด้านนอก เขาเขย่าประตูก็ไม่มีใครช่วยจึงเดินเข้าไป จนพบกับแพททริกที่ปลอมตัวและเสียงเป็นเดฟ มาร์ติน ทักเขา จนมาชาโด้หลอนแล้วเผลอสารภาพที่พวกเขาฆ่าเดฟ แพททริกจึงแสดงตัวว่าปลอมตัวมา มาชาโด้โมโห แต่แล้วทั้งสองก็ต้องช่วยกัน เพราะจู่ๆ เกิดมีไฟจุดจากข้างนอกแล้วลามมาอย่างไว ทั้งสองพยายามวิ่งหนี
โชกับริกส์บีกลับมาก็เห็นไฟลุกแล้ว พยายามร้องเรียกแพททริก ก็พอดีแพททริกพามาชาโด้ออกมาได้ เขาบอกให้จับตัวไว้พร้อมส่งที่อัดเสียงให้ว่ามาชาโด้สารภาพแล้วว่าฆ่าเดฟ
โชเห็นคน แพททริกรีบบอกให้จับกุมไว้ ซึ่งคือทอมมี่
ทอมมี่ถูกนำตัวเข้าห้องสอบสวน เขายังทำตัวเป็นเด็กพิเศษ สุดท้ายแพททริกขอคุยเอง เขาเข้ามาพร้อมหนังสือเล่มหนึ่งที่เอามาจากบ้านของทอมมี่
“การแก้แค้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เหมือนตอนกัปตันเอแฮบตามล่าโมบี้ ดิ๊กสุดท้ายวาฬก็ตาย แต่เรือพีพ็อดก็จมด้วย
ทอมมี่ตอบว่า “พีคว็อด เรือของเอแฮบคือพีคว็อดต่างหาก”
“ถูกต้องแล้ว เรือพีคว็อด ผมนี่โง่จริง นี่คือหนังสือของคุณต้องขอบอกว่าผมทึ่งมาก อาจารย์สอนวรรณคดีบางคนยังไม่อ่านเรื่องโมบี้ ดิ๊กเลย”
“ผมชอบวาฬ พวกมันกินปลาหมึก”
“พอมานึกแล้วผมน่าจะรู้ว่าเป็นคุณตั้งแต่ครั้งแรกมีแต่คนโง่ที่ใส่เสื้อยืดแบบนั้นไปบ้านที่มีงานศพคนโง่ ไม่ก็ฆาตกรบ้าบิ่นที่มีอารมณ์ขันวิตถารคุณต้องติดคุกเพราะสิ่งที่ทำ น่าจะติดด้วยตัวตนที่แท้จริงนะคุณทำอะไรได้น่าทึ่งมาก คุณควรภูมิใจ ในแง่นึงนะ”
“รู้ทเบียร์จะมารึยัง” ทอมมี่ถาม
“ไม่พูดกับผมล่ะโธมัส ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังอีกต่อไป ผมดูคุณออก”
ทอมมี่พูดเสียงเป็นคนปกติ “อยากรู้อะไรล่ะ”
“หวัดดี ดีใจที่ได้พบคุณ ผมอยากรู้คุณมี 2บุคลิกจริงหรือทอมมี่เป็นแค่ละครที่คุณเล่นตบตา”
“น้อยหน่อย ผมไม่ใช่คนโรคจิต ทอมมี่เป็นแค่ละคร เป็นการแสดง”
“ที่คุณไม่เคยเลิกสวมบท”
“เขาทำให้ผมสนุก เขาปกป้องผม ตอนอายุ18ผมลักรถ แล้วถูกจับได้แต่พอแกล้งเป็นทอมมี่ ตำรวจก็ปล่อยผม ตั้งแต่นั้นมาผมก็เล่นเก่งขึ้น”
“พอที่จะแก้แค้นให้กับการตายของเดฟ มาร์ติน”
“3เดือนก่อน บริษัทได้รับอนุญาตให้สำรวจชั้นหินอุ้มนํ้า แหล่งเงินมหาศาล เลยปะติดปะต่อเรื่อง รู้ว่าพวกเขาทำอะไรกับเดฟ ขอบคุณ”
“ขอสารภาพ ผมไม่เคยอ่านเรื่องนี้จนจบ เอแฮบตายใช่มั้ย”
“ใช่ รวมทั้งวาฬด้วย”
“ที่ผมจะบอก การแก้แค้นไม่ได้มาถูกๆ”
ทอมมี่สวน “ไม่ต้องมาเทศนาสอนผมหรอก ผมรู้ว่าการแก้แค้นต้องเสียอะไรบ้าง แต่มันก็คุ้มค่าเดวิด มาร์ตินมีข้อเสียเยอะ ไม่เถียง แต่เขาก็เป็นเพื่อนผม เพื่อนผม! พวกสัตว์นรกนั่นสมควรโดนแล้ว ยุติธรรมดีแล้ว”
“ยอมรับว่าฆ่าริช การ์เชีย..และพยายามฆ่าเทรย์ พิลเลอร์ใช่มั้ย”
“ผมดูพวกมันโหยหวน ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด เป็นภาพที่สวยงามมาก มันสาสมกันแล้ว คุณไม่มีวันเข้าใจหรอก”
“เจ้าหน้าที่โชจะทำหน้าที่ตำรวจ เราคุยกันจบแล้ว โซคดีนะโธมัส”
“ทำอะไรให้ผมอย่างได้มั้ย”
“ลองขอมาสิ”
“ช่วยบอกแมดดิ้ การ์เชีย ผมเสียใจที่ทำให้เธอเจ็บ”
แมดเดอลีนโมโหมากบอกว่าถ้าทอมมี่ออกมาจะจุดไฟเผาเขา ซูซานกับแพททริกช่วยกันกล่อมให้ใจเย็น ซูซานจะพูดถึงพ่อเธอก็ตวาดให้เงียบบอกว่าไม่มีสิทธิ์
“พ่อเธอฆ่าเพื่อน และทอมมี่ฆ่าเขาเพื่อแก้แค้นแทนชายคนนั้น การแก้แค้นคือยาพิษ การแก้แค้นเป็นเรื่องของคนโง่และคนบ้า” แพททริกว่า
“ฉันไม่สน”
“ต้องสนสิ เธอสน ลงมา ลงมาสิ” แมดเดอลีนยอมลงมา “เราต้องไปแล้ว แต่ทำอะไรให้อย่างได้มั้ย คุณสองคนเลย กอดกันได้มั้ยทำเป็นว่ารักกันก็ได้ ขอร้อง” สองแม่ลูกกอดกัน “นั่นแหละ อย่างนั้น ดีมาก ทีนี้กอดกันจนกว่าเราจะไป มันช่วยให้เรารู้สึกว่าเราทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ขอบคุณ”
The End 9