ฤกษ์09-09-09"เปิ้ล"ควงเจ้าสาวจดทะเบียน"แซน"วิวาห์ | คมชัดลึก

เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 9 กันยายน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ในกิจกรรม “๙ ในดวงใจ” โดยมีคณะรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ผู้บริหารหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งข้าราชการ ลูกจ้าง สังกัดหน่วยงานภายในทำเนียบรัฐบาล เข้าร่วมพิธี ประมาณ 1,000 คน

 นายกรัฐมนตรีกล่าวในนามของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าว่า ขอถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย สรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพไททุกพิมานสถาน รวมทั้งพระมหากุศลที่ทรงบำเพ็ญเป็นเอกอดุลย์ โปรดอภิบาลบำรุงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเจริญสมบูรณ์ด้วยพระพลานามัย ทรงพระเกษมสุขทุกสมัย ทรงไพบูลย์ด้วยพระบุญญาธิการ ทรงเจริญพระชนมายุสิริสวัสดิ์ เสด็จดำรงในมไหสูรย์สมบัติสืบสถาวร พระเกียรติคุณเจิดจำรัสขจรจบภูมิภพไตร มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา ทรงแผ่พระบรมเดชานุภาพและพระบุญญาบารมีคุ้มเศียรเกล้า เหล่าพสกนิกรตราบจิรัฐิติกาล เทอญ

 จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญชวนผู้เข้าร่วมพิธีที่มาชุมนุมกันภายในตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งจัดงานพร้อมกันทั่วประเทศ ร่วมกันขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงความจงรักภักดีและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ได้ถ่ายทอดสดพิธีให้ประชาชนได้รับชมและร่วมถวายพระพรชัยมงคลโดยพร้อมเพรียงกันด้วย

 ส่วนที่สวนลุมพินี กรุงเทพฯ มูลนิธิพัฒนาผู้นำเยาวชน ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน จัดโครงการ "๙ ในดวงใจ" ด้วยการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชา โดยมีประชาชนจากสาขาอาชีพต่างๆ นับหมื่นคนเข้าร่วมกิจกรรม

 ดร.วงษ์ภูมิ วนาสิน ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงาน โครงการ ๙ ในดวงใจ และประธานมูลนิธิพัฒนาผู้นำเยาวชน กล่าวว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางความศรัทธาของคนในชาติ ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชนให้อยู่ดีมีสุข

 "งานนี้ประชาชนได้แสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ผ่านการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชา ไม่ใช่เฉพาะในกรุงเทพฯ แต่เป็นทั่วประเทศ และทุกมุมโลก โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อไปยังสถานทูตทั่วโลก เพื่อประชาสัมพันธ์งานนี้ให้คนไทยได้รับทราบอย่างทั่วถึง" ด.ร.วงษ์ภูมิกล่าว

 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดงาน "๙ ในดวงใจ" ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ภายหลัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และลูกจ้าง กทม. ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป มีผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลจากสี่แยกคอกวัวนำสลากหมายเลข 999999 จำนวน 6 ใบ ราคา 480 บาท มาจำหน่ายให้แก่ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์รับซื้อไว้ พร้อมถามว่า สลากที่มีตัวเลข 999999 เป็นของจริงหรือไม่ และหากถูกรางวัลสามารถนำไปขึ้นเงินได้จริงหรือไม่ ซึ่งผู้ค้าที่นำมาจำหน่ายตอบว่าเป็นสลากของจริง หากถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินได้ ซึ่งสลากดังกล่าวเป็นสลากที่หายากพอสมควร เมื่อได้มาจึงมาขายให้ผู้ว่าฯ กทม. เนื่องในวันมหามงคล

"เปิ้ล" นาคร แต่งงาน

 หลังจากดูใจกันมานาน 7 ปี ในที่สุด นายนาคร ศิลาชัย หรือ “เปิ้ล” อายุ 44 ปี พิธีกรชื่อดัง กับ น.ส.กษมา มยุรมาศ หรือ “จูน” อายุ 27 ปี ได้จัดพิธีหมั้น และจดทะเบียนสมรส ที่โรงละครโจหลุยส์ โดยมีญาติผู้ใหญ่และเพื่อนในวงการมาร่วมงานคับคั่ง เช่น วิลลี่-เยลหลี แมคอินทอช, คัทลียา แมคอินทอช, เกียรติศักดิ์ อุดมนาค หรือ "เสนาหอย", เจริญพร อ่อนละม้าย หรือ โก๊ะตี๋ อารามบอย และมาริโอ เมาเร่อ

 พิธีแห่ขันหมากเริ่มเมื่อเวลา 07.45 น. จากนั้นเข้าสู่พิธีการตามประเพณีไทย เปิดสินสอด ประกอบด้วย ทองคำ เงินสด และเช็คไม่ลงจำนวนตัวเลข ที่มอบให้ นางวิมล มยุรมาศ แม่ของเจ้าสาว โดยมีฤกษ์สวมแหวนหมั้นในเวลา 09.09 น. จากนั้นคู่บ่าวสาว พร้อมกับแขกในงาน ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวจดทะเบียนสมรส โดยมีนายทะเบียนจากสำนักงานเขตบางรักร่วมเป็นสักขีพยาน

 นายนาคร และ น.ส.กษมา กล่าวว่า พร้อมจะมีทายาททันที ส่วนพิธีฉลองสมรสจะจัดหลังจากลูกอายุ 2 ขวบ ส่วนเรือนหออยู่ที่ย่านเรียบทางด่วนรามอินทรา ราคาประมาณ 20 ล้านบาท

 ส่วนที่เลือกจดทะเบียนวันนี้ (9 ก.ย.) นายนาคร กล่าวว่า ถือเป็นฤกษ์มงคลมาก เพราะวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 รัชกาลที่ 9 เวลา 9 โมง 9 นาที

"แซน"วิวาห์สาวนอกวงการ

 เช่นเดียวกับ นายพนมกร ตังทัตสวัสดิ์ หรือ "แซน" นักแสดงวัย 32 ปี จูงมือเจ้าสาว น.ส.สิรกันย์ ปิยไกรวุฒิ หรือ "เก๋" อายุ 31 ปี เข้าพิธีวิวาห์ที่โรงแรมสวิสโซเทล ปาร์คนายเลิศ ย่านเพลินจิต กทม. ส่วนสินสอดบอกเพียงแค่ว่าไม่ถึง 7 หลัก เรือนหอเป็นคอนโดมิเนียม แถวทองหล่อ และเตรียมไปฮันนีมูนที่ จ.ภูเก็ต ก่อนไปที่เกาะมัลดีฟ

 "วันที่ 9 เป็นเลขมงคล โรงแรมแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เราเจอกันครั้งแรก เมื่อ 16 ปีก่อน ส่วนเรื่องลูกต้องถามเจ้าสาว แต่ไม่รีบ ปล่อยตามธรรมชาติ" นายพนมกรกล่าว

แห่จดทะเบียน-เปลี่ยนชื่อเพียบ

 สอดคล้องคู่รักจำนวนมากทั่วประเทศ ที่ถือฤกษ์ดีเกี่ยวก้อยกันไปจดทะเบียนสมรส น.ส.วิภาวี พงศ์พิริยะวนิช ผู้อำนวยการเขตบางรัก กล่าวว่า ในวันมหามงคลนี้ มีคู่รักมาจดทะเบียนสมรสมากถึง 300 คู่ โดยก่อนที่เขตจะเปิดทำการมีคู่รักมารอคิวจดทะเบียนกว่า 100 คู่ ส่วนใหญ่อยากจดทะเบียนในเวลา 09.09 น. ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเขตสามารถจดทะเบียนให้ได้เพียง 50 คู่ โดยคู่รักที่มาจดทะเบียนในวันนี้มีความเชื่อว่าจะทำให้รักกันยืนยาว เนื่องจากเป็นวันมหามงคล

 ที่เขตบางซื่อ มีคู่สมรสมาจดทะเบียนกว่า 100 คู่ ส่วนใหญ่เป็นคู่รักหนุ่มสาว อายุตั้งแต่ 25-35 ปี เขตสายไหม มีคู่รักมาจดทะเบียนกว่า 50 คู่ ซึ่งปกติมีไม่เกินวันละ 10 คู่ เขตบางแค 53 คู่ แม้แต่เขตบางพลัดยังมีถึง 19 คู่ จากปกติมีเพียง 1-2 คู่เท่านั้น

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนส่วนหนึ่งยังถือฤกษ์เปลี่ยนชื่อและนามสกุลด้วย เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในชื่อและสกุลใหม่ด้วย

 ส่วนหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองนครสวรรค์ คึกคักตั้งแต่เช้า คู่รักหลายคู่จูงมือกันมาจดทะเบียนสมรสอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าการจดทะเบียนกันวันนี้ (9 ก.ย.) จะทำให้ความรักมีความเจริญก้าวหน้า น.ส.คุณณัฐวรรณ คล่องถนอมสัตย์ และนายวิฑูรย์ เกตุทนงค์ กล่าวว่า รอจดทะเบียนสมรสมานานแล้ว จนถึงฤกษ์ดีวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เพราะชีวิตคู่จะได้มีแต่ความก้าวหน้า นอกจากนี้ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งเปลี่ยนชื่อให้เป็นมงคลชีวิตด้วย

 ด้าน นายธนินทร์ อินทรักษ์ ปลัดอำเภอเมืองนครราชสีมา กล่าวว่า มีคู่รักเดินทางมาจดทะเบียนสมรสกว่า 200 คู่ ซึ่งใกล้เคียงกับการจดทะเบียนในช่วงวันวาเลนไทน์ (14 ก.พ.) ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้องเป็นระยะๆ ส่วนหญิงที่จดทะเบียนสมรสส่วนใหญ่ยังเลือกใช้คำนำหน้าว่า นางสาว เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อการสมัครงานตามสถานประกอบการต่างๆ

ปลื้มลูกลืมตาดูโลกวันที่ 9

 ส่วนหญิงตั้งครรภ์นับร้อยรายต่างมีความยินดีที่คลอดวันนี้เช่นกัน นพ.พีระพงษ์ สายเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า นับตั้งแต่เข้าสู่วินาทีแรกของวันที่ 9 กันยายน จนถึงเวลา 15.00 น. มีเด็กที่คลอดออกมาลืมตาดูโลกในวันมหามงคลทั้งสิ้น 63 คน ในจำนวนนี้มีเด็กแรกเกิด 2 คน ที่เกิดในช่วงเวลา 09.09 น. โดยวิธีผ่าตัด และช่วงเวลา 09.00-09.59 น. มีเด็กคลอดโดยวิธีธรรมชาติ 5 คน

 พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ได้รับรายงานจากฝ่ายสูตินรีเวชของโรงพยาบาลว่า มีหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดที่ต้องการให้ลูกเกิดในวันมงคลนี้ นัดแพทย์ผ่าท้องคลอดเพื่อให้คลอดในวันดังกล่าว 9 ราย แต่ไม่ได้ระบุว่าจะต้องทำคลอดในเวลา 09.09 น. เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุเวลาเช่นนั้น แต่เป็นการคลอดในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 และบังเอิญว่ามีการนัดผ่าคลอด 9 รายพอดี

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ จ.ส.ต.พิเชษฐ วิเศษโชค ผบ.หมู่งาน 1 จร.โครงการพระราชดำริ รหัส 105 จ.ส.ต.ไกรสร บำรุงศิลป์ ผบ.หมู่งาน 1 จร.โครงการพระราชดำริ รหัส 133 และ ส.ต.ท.เฉลิมพล สุขสาร ผบ.หมู่งาน 1 จร.โครงการพระราชดำริ รหัส 162 กำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรอยู่บริเวณแยกใต้ด่วนดินแดง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ บก.02 ว่า มีหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดอยู่ภายในรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขียว ทะเบียน ปค 1702 กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณแยกภาวนา กำลังมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จึงรุดไปตรวจสอบ พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณด่านเก็บเงินดินแดง ถนนวิภาวดีรังสิต ด้านในพบหญิงท้องแก่ใกล้คลอด ทราบชื่อคือ นางวัฒนา อั้งหุน อายุ 37 ปี ซึ่ง จ.ส.ต.พิเชษฐ ช่วยทำคลอดให้ เป็นทารกเพศชาย อาการปลอดภัย โดย จ.ส.ต.พิเชษฐ ทำคลอดฉุกเฉินเป็นรายที่ 21 แล้ว

 ด้าน นพ.ทรงวุฒิ ทรัพย์ทวีสิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ลำปาง กล่าวว่า น.ส.บุญนิ่ง อินยา อายุ 28 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง คลอดทารกเพศชาย น้ำหนักตัว 2,460 กรัม ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี ที่สำคัญคลอดตรงกับฤกษ์มงคลคือ วันที่ 9 เดือน 9 เวลา 09.09 น. โดย น.ส.บุญนิ่ง ตั้งชื่อลูกชายว่า ด.ช.สุริยา ธรรมศิลป หมายถึงพระอาทิตย์ ทั้งนี้ รวมแล้ววันนี้ที่โรงพยาบาลมีทารกคลอดทั้งหมด 7 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 2 คน

 ส่วน นพ.สมนึก เชื้อทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง กล่าวว่า สั่งให้เจ้าหน้าที่ห้องคลอดจดบันทึกการคลอดของเด็กในวันนี้ชั่วโมงต่อชั่วโมง เพื่อจัดเตรียมของขวัญมอบเป็นของที่ระลึกให้แก่คุณแม่และเด็กทุกคน โดยเวลา 08.58 น. นางปรางทิพย์ พราหมเภทย์ คลอดลูกสาว น้ำหนัก 2,740 กรัม เวลา 09.20 น. นางสุดา เทพสุด คลอดลูกชาย น้ำหนัก 2,980 กรัม นอกจากนี้ยังมีหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดกว่า 20 คน รอคลอดวันฤกษ์ดี

 ที่โรงพยาบาลตรังรวมแพทย์ เมื่อเวลา 09.09 น. น.ส.ชุติมา พรายพรรณ อายุ 38 ปี คลอดลูกชาย น้ำหนัก 2,990 กรัม มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง เนื่องจากครบกำหนดคลอดตามกำหนด

 เช่นเดียวกับที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ คุณแม่ถือฤกษ์เลขมงคลแห่คลอดลูกทั้งแบบธรรมชาติและผ่าคลอดจำนวนมาก โดยเป็นผู้ชายล้วน 3 ราย

 นพ.สมปอง เจริญวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลทำคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ 2 ราย รายแรกทำคลอดเวลา 00.19 น. น้ำหนักตัว 3,140 กรัม รายที่ 2 คลอดเวลา 06.02 น. น้ำหนัก 3,400 กรัม และผ่าคลอด 1 ราย เมื่อเวลา 10.09 น. น้ำหนัก 3,900 กรัม โดยทารกทั้งหมดเป็นเพศชาย

 ด้าน นางกรณิกา พลเยี่ยม คุณแม่มือใหม่วัย 25 ปี กล่าวว่า ตั้งใจคลอดลูกในวันนี้ เพราะเป็นวันดี จะได้มีแต่ความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง และตั้งชื่อเล่นให้ลูกว่า "น้องตองเก้า" ตามวันปีเกิด ส่วนชื่อจริงชื่อคือ "ด.ช.ปรเมศร์"

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ มีหญิงตั้งครรภ์คลอดบุตรจำนวน 12 ราย

ทอ.เตรียมน้อมเกล้าฯ ถวายเครื่องบินพระที่นั่ง

 วันเดียวกัน ที่กองทัพอากาศ ภายหลัง พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในพิธี "๙ ในดวงใจ" จากนั้นได้เป็นประธานในพิธีต้อนรับเครื่องบินพระราชพาหนะแบบ เอทีอาร์ 72-500 ที่ลานจอดอากาศยาน ท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยเวลา 09.19 น. เครื่องบินลำดังกล่าวพร้อมนักบิน 8 นาย ได้ร่อนลงที่รันเวย์ทิศเหนือ ในเที่ยวบินแรก ที่ถือเป็นเที่ยวบินนำส่งเครื่องพระราชทาน หลังจากมีการส่งมอบจากบริษัทผู้ผลิตของประเทศฝรั่งเศสมาก่อนหน้านี้ ตามที่กองทัพอากาศได้เสนอโครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงขนาดกลาง 4 เครื่อง เพื่อบรรจุเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะ 1 เครื่อง เครื่องบินสำรองพระราชพาหนะ 1 เครื่อง และเครื่องบินสำหรับรับ-ส่งบุคคลสำคัญหรือวีไอพี 2 เครื่อง

 พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า กองทัพอากาศเตรียมพร้อมในการคัดเลือกนักบินไปฝึกเป็นอย่างดีตามแผนยุทธการ 999 และมีคุณสมบัติที่ครบถ้วนที่จะเป็นนักบินพระราชพาหนะ เพื่อถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้นจะเตรียมน้อมเกล้าฯ ถวายเครื่องบินพระที่นั่งขนาดกลางทั้ง 4 ลำต่อไป