
'เพชร สหรัตน์'โล่ง'ตั๊กแตน ชลดา'หายจากเป็นมะเร็งแล้ว (คลิป)
“เพชร สหรัตน์” แย้มชีวิตครอบครัวแฮปปี้ เล็งแต่งปีหน้า โล่งใจ "ตั๊กแตน"ชลดา หายจากเป็นมะเร็งแล้ว หลังรักษาเกือบปี
เรียกว่าเป็นคู่รักต่างค่าย ที่คนให้ความสนใจอย่างมาก สำหรับ เพชร สหรัตน์ ท็อปไลน์ มิวสิค และ ตั๊กแตน ชลดา จากแกรมมี่โกลด์ เมื่อถามถึงเรื่องครอบครัวในตอนนี้ นักร้องหนุ่มแจง
“ปกติคบกันมาครบปีแล้ว พี่หม่ำเป็นคนแรกๆ ที่รู้ว่าผมกับตั๊กแตนคบกัน เพราะว่าสมัยก่อน ผมก็กินอยู่ที่บ้านพี่หม่ำตลอด หลังๆเริ่มมีครอบครัวก็เลยแยกตัวออกมา ตอนแรกที่ทราบข่าว ว่าตั๊กแตนป่วยเป็นมะเร็งก็ตกใจ แต่เขาเป็นมะเร็งที่มดลูกระยะแรก ซึ่งเราก็รักษาโดยการฉีดยาตอนนี้ก็หายแล้ว ล่าสุดเขาเพิ่งมีเพลงใหม่ออกมา ชื่อเพลง "ไหง่ง่อง" ซึ่งพี่ตี่ (กริช ทอมมัส) ให้ตั๊กแตนทำเพลงนี้ โดยเพลงนี้ผมเป็นโปรดิวเชอร์ และทำทุกอย่างให้ซึ่งตอนนี้ขึ้นชาร์ตเพลงลูกทุ่งทั่วประเทศเป็นอันดับ2 (เป็นมะเร็งที่มดลูกมีผลกับการมีน้องไหม) มีมาก ผมเป็นโสดเกือบปี โสดในที่นี้ คือไม่ได้ยุ่งอะไรกันเลย เราก็ต้องดูแลเขา เพราะมีหลายอย่างเข้ามา พอหมอบอกว่าเขาเป็นมะเร็ง คนที่เป็น ไม่ได้มานับหรอกว่าเขาเป็นระดับไหน พอรู้ว่าเป็น ก็เครียด ตั๊กแตนเขามีนิสัยและความคิดเหมือนเด็ก พอได้ยินว่าตัวเองป่วยด้วยโรคที่เป็นแล้วตาย เขาก็เลยปล่อยวาง ไม่มีจิตใจทำอะไร เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เราก็ต้องให้กำลังใจกัน จนสุดท้ายหมอบอกว่าหายแล้ว
(หายขาดไหม) หมอบอกว่ามีน้องได้ ก็น่าจะหายขาด (ตอนนี้ตั้งใจมีน้อง) ผมไม่โสดล่ะ (ตอนที่ตั๊กแตนปล่อยวางนั้นถึงขั้นไหน) คือเขาชวนผมไปอยู่ต่างจังหวัด ไม่รับคอนเสิร์ตแล้ว อยากลาชีวิตร้องเพลง เพราะเพลงตัวเอง ก็จำเนื้อไม่ได้ เพราะคิดเยอะ เวลาไปคอนเสิร์ตก็ไม่มีความสุข เวลาโชว์ก็เลยดร็อปลง เจ้าภาพเห็นโชว์ดร็อปลง ก็จะพูดปากต่อปาก ว่าโชว์ไม่ดีเขาก็ไม่จ้าง และด้วยเซ้นท์ของคนส่วนใหญ่จะคิดว่า ถ้าต้องจ้างคนป่วยมาคอนเสิร์ตไม่จ้างดีกว่า เพราะสงสารเขา แทนที่จะคิดว่าคนป่วย เราต้องจ้างเพราะเขาจะได้มีเงินรักษาตัว แต่คนส่วนใหญ่ไม่คิดแบบนั้น งานก็เลยน้อยลง ช่วงนั้นผมบอกเขาว่าไม่เป็นไร เพราะเรามีธุรกิจของตัวเองอยู่แล้ว เขาไม่ร้องเพลง ผมก็สามารถเลี้ยงเขาได้ (ตอนนั้นให้กำลังใจเขาอย่างไร) ผมบอกเขาว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากเรายังมีลมหายใจร่วมกันอยู่ เราก็จะดูแลให้ดีที่สุด และมีความสุขที่สุด ตอนนี้เขาหายขาดแล้ว เขาแฮปปี้ และเขาก็ได้ทำอัลบั้มใหม่ที่เขาอยากทำ เหมือนบริษัทให้รางวัลเขา นอกจากนี้เขายังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าหลายตัวถือว่าดีมาก” เพชรกล่าว
ถามต่อว่าจะจัดงานแต่งไหม ซึ่งนักร้องหนุ่มแจงว่า
“ตอนแรกผมเตรียมไว้แล้ว แต่ตั๊กแตนมาป่วย ผมก็เลยเฟดทุกอย่างไป มุ่งทำธุรกิจอย่างโครงการหมู่บ้าน ชลดาปาร์ค และโรงงานผลิตช็อคโกแลตมอลต์ ที่ผมทิ้งไม่ได้ เพราะทำมานานก่อนเป็นนักร้องคือเราเพิ่งเพิ่มประเทศส่งออก เราก็เลยลงทุนตรงนั้นหมด งานแต่งของผมมีแน่ แต่อาจเป็นชวนเพื่อนๆ มาสนุกสนานกันมากกว่า เพราะงานแต่ง ผมมองว่าไม่ได้มีสาระอะไร ถามว่าได้คุยเรื่องงานแต่งกับแตนไหม ได้คุยนะ แต่ผมว่าตอนนี้ เขาน่าจะมีความสุขกับธุรกิจที่ทำอยู่ กับเงินที่เขาถืออยู่ แต่ถ้าถึงจุดหนึ่งที่เขาและเราพร้อมก็น่าจะจัด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นปีหน้า
ส่วนเรื่องทายาท ตอนนี้เราก็ปล่อยไปเรื่อยๆ ตามธรรมชาติ ด้วยความที่ผมทำงานหนักมาก ทั้งค่ายท็อปไลน์ที่เราดูแล ช่วงหลังๆก็มาช่วยงานพี่หม่ำบ้าง เท่าที่ผมช่วยได้ (เราอยู่ท็อปไลน์แล้วมาเขียนเพลงให้แกรมมี่ได้เหรอ) คือผมเซ็นสัญญานักร้องท็อปไลน์ แต่ผมไม่ได้เซ็นสัญญางานแต่งเพลง ดังนั้นผมจะแต่งเพลงให้ใครร้องก็ได้ แต่ผมไม่สามารถไปร้องเพลงให้กับใครได้ แต่โดยมารยาท เวลาผมจะแต่งเพลงให้ใคร ผมจะต้องขออนุญาตท็อปไลน์ก่อน แม้เราจะไม่มีสัญญา แต่เขาเป็นผู้ปกครองเรา ก็ต้องบอกกล่าวว่า ผมทำเพลงให้ตั๊กแตนนะ พอทำเพลงเสร็จ ก็จะเอาไปให้ค่ายฟังก่อน ทางค่ายก็โอเค เพลงของแตนตอนนี้ยังปล่อยไม่หมดเลย ส่วนเพลงของผมเองก็เพิ่งปล่อยไปเหมือนกัน
(เป็นคู่รักข้ามค่ายต้องปรับตัวปรับจูนอย่างไร) สมัยก่อนแตนเขาจะเป็นคนเอาแต่ใจ ผมก็จะดุเขาตลอดว่าไม่ได้ คือเราต้องอาศัยนักข่าว คือถ้าไม่มีนักข่าว เวลาเราทำเพลงดีๆออกมา ก็จะไม่มีใครมาต่อยอดเพลงเรา ก็ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ตอนนี้เขาดีขึ้นมากๆ (หลายคนสงสัยว่าลูกทุ่งมีแฟนทำไมต้องเก็บเป็นความลับ) ผมน่าจะเป็นคนแรกๆ ที่ไม่เก็บ ผมมีผมก็บอกเลย บอกด้วยความรู้สึกที่ว่า เดี๋ยวนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเยอะ คนที่มีครอบครัวผมมองว่าเท่ห์ เพราะมีทุกอย่างครบ” เพชรสหรัตน์กล่าวปิดท้าย