เลิกทำตัวบ้าๆ บอๆ คำสารภาพจาก ‘อ่ำ’ อัมรินทร์ | คมชัดลึก

        หลังจากผ่านมรสุมหนักหน่วงอย่างสาหัส สำหรับอดีตนักร้องหนุ่มชื่อดัง “อ่ำ”อัมรินทร์ จนเจ้าตัวต้องห่างหายไปจากวงการพักใหญ่ ล่าสุดสื่อมวลชนได้มีโอกาสพบกับ “อ่ำ” ในงานบวงสรวงละคร สิงหะ นาคะ ที่สตูดิโอ ทีวีธันเดอร์ จึงต้องขออัพเดทเรืื่องราวชีวิตและการกลับมาทำงานด้านการแสดงได้ความดังนี้

         “ก่อนที่จะมารับละครเรื่อง สิงหะ นาคะ ผมก็อยู่บ้าน ก็ไหว้พระ พาแม่ไปเที่ยวบ้าง แล้วก็เตรียมงานส่วนตัวที่จะทำอะไรหลายอย่างกับรายการทีวี แล้วผมรอคอยโอกาสจากใครที่จะให้โอกาสที่จะได้เล่นละคร ผมไม่สามารถไปบอกใครได้ว่าผมอยากเล่นละคร ด้วยภาระหน้าที่ต้องมีอยู่ ที่บ้านที่จะต้องดูแล แล้วทางทีวีธันเดอร์ติดต่อมาให้ผมเล่นละคร พอได้รับได้ข้อมูล เล่นกับใครบ้าง ก็ตกลงเล่น โดยเฉพาะมีรายชื่อของอาจารย์ต๊อก (ศุภกร) อยู่ด้วย ไม่ต้องตัดสินใจนานเลย กับงานละคร ผมไม่ได้เล่นละครมา 5 ปีเลยนะ (เป็นเพราะว่าอยู่ระหว่างการเลือกบทหรือเปล่า)ผมไม่ได้เลือกนะ ผมเล่นได้ อย่างในเรื่องนี้ผมเล่นเป็นหมานะ 3 ตอนแรกไม่เห็นหน้ากันเลย เพราะว่าเป็นอาจารย์เขาจะเป็นอาจารย์ที่ปรุงยา รักษาลูกศิษย์ ที่จะใช้อภินิหารเปลี่ยนแปลงตัวเป็นอะไรอืื่นๆได้ (ต้องเคาะสนิมไหม) โอ้โห งงเลยนะ เพราะว่าเป็นทีมงานใหม่และเป็นนักแสดงใหม่ด้วย มีอาจารย์ต๊อกคอยบอกว่าอะไรเป็นอะไร เพราะว่าผมไม่ค่อยได้อ่านบทนะ ไม่ใช่ว่าขี้เกียจนะ สายตาไม่ดี ใส่แว่นสายตาแล้วจะทำให้ปวดหัว มีปัญหาเรื่องการอ่าน”อ่ำบอก

         ถามต่อว่าช่วงที่ห่างหายไปวงการทำอะไรอยู่บ้าง นอกจากเตรียมตัวทำรายการโทรทัศน์

         “ที่ผมหายไป ผมไปทำธุระของตัวเองในเรื่องของส่วนตัว ที่จะพยายามคลี่คลายเรื่องราวของตัวเองให้ตัวเองเข้าใจที่สุด เรื่องของสถานะ ที่เปลี่ยนไปเรื่องของปัญหาที่จะเข้ามา ปัญหาที่เราไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา คลี่คลายปัญหาอะไรต่างๆ ด้วยเวลาผ่านพ้น และการที่เราทำความเข้าใจ พอตัวเองเข้าใจ แล้วเราก็หลุดพ้น จากห้วงความทุกข์ ก็อาจจะมีธรรมะที่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วย เข้าวัดเข้าวา ไม่ถึงกับปฎิบัติหรอก แค่เราไปร่วมบุญกับเขา มันสบายใจ เกิดความเข้าใจกับทุกอย่างที่อยู่รอบข้างเรา ไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียวมากนัก”อ่ำบอก

         นอกจากนี้อดีตนักร้องชื่อดังกล่าวเสริม “ผมรู้ว่าตัวเองเกรงกลัวต่อบาป เพราะที่ผ่านมา กรรมทีี่ผ่่านมาทำให้เราทุกข์ ที่เราไปทำอะไรไว้ ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ แล้วเราก็ผ่านพ้นมาด้วยเรื่องอะไร คือการที่เราทำใจให้สงบๆ และสงบกับสิ่งที่เราศรัทธา นำไปสู่สติ (เรียกว่านิวอ่ำไหม) ผมก็ยังเหมือนเดิมนะ ถ้าหยาบก็หยาบเหมือนเดิม ถ้าดีก็ดีเหมือนเดิมนะ (ยิ้ม) แต่พวกอารมณ์ที่ทำให้ขัดแย้งกับคนอื่นผมคงไม่ทำอะนะ (ถามถึงเรื่องรายการโทรทัศน์หน่อยออกอากาศช่องไหน) ผมได้โอกาสจากทางช่อง 5 แล้วจะออกอากาศวันที่ 22 ก.ค.นี้ ชื่อรายการ ต้องแวะ คือเรามีเป้าหมายอยู่ที่ หนึ่งระหว่างทางมีเรื่องน่าสนใจมากมาย เราเลยต้องแวะๆ รายการเดินทางนั่นแหล่ะ (ยิ้ม) เกี่ยวเก็บประสบการณ์ข้างทาง” อ่ำบอก

         ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากช่วงดราม่ามากมายที่เข้ามาในชีวิต ณ วันนี้ยังได้เจอกับลูกสาวบ้างไหม

         “ตอนนี้น้องอยู่อเมริกา คุณจอยพาไปเที่ยว แอลลี่เคยไปตอน 6 เดือน ตอนนั้นเขาไม่รู้เรื่องอะไร แล้วเขามีความหวังอยากจะไป แล้วพอดีว่าเขาเรียนดีมาก ก็ไปกันเกือบเดือน จะกลับมาวันที่ 13 ก.ค.นี้ เขาส่งรูปภาพมาให้ดู เขามีความสุขมากนะ (คนแชร์รูปน้องเยอะมากโตเป็นสาวแล้วหวงน้องไหม) ไม่หวงนะ เราจะดูแลในหน้าที่เรามี เราพยายามสร้างโอกาสให้ตัวเองเพื่อที่จะได้มา แล้วก็ให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูก ผมไว้ใจคุณจอย ว่าเขารักแอลลี่มากที่สุด ผมมีหน้าที่ทำ เรื่องเข้าวงการ ผมว่าเดี๋ยวเขาก็มา เพราะว่าเขาก็ชอบอยู่นะ ถามว่ามีแววไหม เขาเป็นศิลปินแต่เด็กเลยนะ ตั้งแต่เล็กมา เราปล่อยให้เขาเป็น ถ้าไม่ถูกไม่ควรเดี๋ยวคุณจอยเขาจะตักเตือน แต่ตอนนี้เขาโตแล้ว ที่ผ่านมา ผมไม่มีโอกาสเจอเขาเองมากกว่า เพราะว่าตัวของผม คือคุณจอยเข้าใจผม คือบ้านที่ผมอยู่ตรงนี้จะไปรับเขาที่สาธรแล้วไปโรงเรียน ผมก็จะเหนื่อย เมื่อไหร่ก็มาหากันได้ แล้วจอยรับรู้เรื่องราวของผมทุกอย่างเลยนะ มันผ่านเรื่องราวที่ไม่เข้าใจ จนตอนนี้เข้าใจกันจริงๆแล้ว ว่าอะไรคือในเหตุนั้นและสิ่งที่เราสบายใจคือเรายังได้เห็นไม่ได้ตายหายไปไหน และสิ่งที่ต้องทำ คือทำให้เขาสบายใจมากที่สุด เราก็จะไม่ทำตัวบ้าๆ บอๆ เหมือนก่อน ตอนนี้เราก็กลับมาคิด ว่าเราเหมาะสมที่จะทำไหม (จอยเป็นที่ปรึกษา) เรียกว่าเป็นคนวางบิลอะนะ(ยิ้ม) เขาเป็นคนเก็บตัง เรื่องจะพาน้องมาอยู่ด้วยไหม บ้านผมเปลี่ยนไปเยอะ ถ้าน้องมาอยู่ คงจะงงเพราะว่าบ้านผมออกไปทางจิตรกรรม ผมว่าเขาอยู่กับแม่ดีที่สุดนะ ด้วยความที่เป็นผู้หญิงด้วย ตอนนี้เราดูอยู่และเขารู้ว่าผมรักเขาแค่ไหน”อ่ำบอก