บันเทิง

ฝันโคตรโคตร

ฝันโคตรโคตร

24 ก.ย. 2552

“เพราะความฝัน ไม่มีตีนกา” ‘พิง ลำพระเพลิง’ กล่าวประโยคนี้เอาไว้ระหว่างให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆหลายครั้งหลายครา ต่างกรรมต่างวาระกันไป จึงพออนุมานได้ว่า นี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งกระมัง ที่หนังเรื่อง “ฝันโคตรโคตร” นอกจากเขาจะเขียนบทและกำกับแล้ว ยังแต่งองค์ทรงเครื

 ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ‘พิง ลำพระเพลิง’ สูญเสียภรรยา คุณติ๋ว ชฎาพร พังสะอาด ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เหตุการณ์ครั้งนั้นถึงกับทำให้เจ้าตัวเสียศูนย์ ชีวิตง่อนแง่นไร้แก่นยึด ซวดเซไปพักใหญ่...“ผมมาจากครอบครัวแตกแยก ภรรยาคนนี้เหมือนเป็นทุกอย่าง พอขาดเขาไป เราไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาพูดคุยกับใคร ไม่มีใครมาคอยคุยเล่น คุยหัว ถามไถ่เหมือนแต่ก่อน”... ‘พิง’ บอกว่า เมื่อครั้งที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เขาไม่ค่อยจะใส่ใจความรู้สึกของภรรยาสักเท่าไหร่...“เราเคยทะเลาะกันครั้งหนึ่งในร้านเฟอร์นิเจอร์ กะอีแค่เรื่องเก้าอี้ตัวเดียว เธออยากได้แบบหนึ่งแต่ผมไม่เอา เพราะคิดว่ามันไม่เข้ากับห้องรับแขกของบ้าน”...เหตุการณ์ครั้งนั้น ‘พิง’ บันทึกเอาไว้ในหนังเรื่อง “โคตรรักเอ็งเลย” เมื่อ 3 ปีที่แล้ว พร้อมกับจำลองส่วนเสี้ยวชีวิตของตัวเองลงไป ไม่ว่าจะเป็นการให้ ‘แดง’ ตัวละครในหนังประสบอุบัติเหตุขับรถตกเหว จนทำให้ ‘รง’ ผู้เป็นสามีเกือบจะสูญเสียเธอไป ก่อนจะกลับมาไขว่คว้าหา ‘คุณค่าแห่งช่วงเวลาในการใช้ลมหายใจร่วมกับคนที่เรารัก’ ได้สำเร็จ

 ดูเหมือนว่า ‘ปมในใจ’ ของพิง จะยังไม่ถูกแก้ไขให้ลุล่วง...“ผมรู้สึกว่าเบื้องบน กำลังลงโทษผม ด้วยการทวงเวลาที่ใช้ไปอย่างฟุ่มเฟือยกลับคืนมา”...เขาสำทับประเด็นดังกล่าว ด้วยการนำเรื่องของ ‘เวลา’ มาใช้ในหนัง “ฝันโคตรโคตร” เพียงแต่ครั้งนี้ ‘เวลา’ ของเขาไม่เพียงแค่หวนกลับไปนึกถึงคืนวันเก่าๆ ด้วยการเล่าที่มา กว่าจะเป็นหนัง “โคตรรักเอ็งเลย” แต่ยังตั้งต้นจากพล็อตที่ว่าด้วยนักแสดงละครใบ้ข้างถนนจนๆ คนหนึ่ง (ที่มีชื่อว่า ‘พิง’) ที่ภรรยาตายจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ และดูเหมือนเธอจะยังอยู่ในความทรงจำของเขามิสร่างซา ตั้งแต่ภาพถ่ายที่ติดไว้ทั่วบ้าน (ซึ่งรูปใหญ่ที่สุดที่ติดอยู่ข้างผนัง ระบุว่าเธอชื่อ ‘ติ๋ว’ ชฎาพร พังสะอาด พร้อมวันเดือนปีที่เกิดและเสียชีวิต) ตุ๊กตาปลาโลมาที่เธอเป่าลมหายใจเข้าไปก่อนเสียชีวิต หรือกระทั่งโซฟาที่ทั้งคู่นั่งมองทะเลด้วยกัน

 ในช่วงเวลาที่หนังถึงเล่าชีวิต ความฝัน และความทะเยอทะยานของนักแสดงละครใบ้ ขณะเดียวกันก็บอกเล่าถึงเรื่องราวของ ‘เปิ้ล’ นางแบบและนักแสดงสาวชื่อดังที่เฝ้าฝันถึงผู้อุปการะเธอตั้งแต่เด็ก โดยไม่เคยได้เห็นหน้าค่าตากันมาก่อน มีเพียงภาพถ่ายหนึ่งใบที่เห็นหน้าไม่ค่อยชัดไว้ดูต่างหน้า และใช้เวลาว่างออกตามหาคนที่ดูเหมือนว่า น่าจะเป็นผู้อุปการะเธอ  

 นอกจาก ‘เวลา’ ใน “ฝันโคตรโคตร” จะถูกอุปมาอุปไมยในรูปของนามธรรมแล้ว พิง ลำพระเพลิง ยังนำ ‘เวลา’ กลับมาปรากฏเป็นรูปธรรมให้ได้เห็นกันอีกด้วย ในฉากที่เขาบังเอิญเดินเข้าไปในร้านขายของเก่า และเกิดต้องตาต้องใจกับ ‘นาฬิกาทราย’ อันหนึ่งจึงซื้อติดมือกลับไปที่บ้าน และสุดท้ายมันก็กลายเป็นตัวแปรนำเขาเข้าไปสู่ความฝันอันพิสดารพันลึกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
 
 ทุกครั้งที่ ‘พิง’ หลับ เขาจะเข้าไปอยู่ในความฝันของ ‘เปิ้ล’ ในฐานะแฟนหนุ่มของเธอ ผู้ร่ำรวยมีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กัน หากแต่ ‘พิง’ ผู้นี้คือเพลย์บอยหนุ่ม ที่ใช้ชีวิตผ่านไปในแต่ละวันอย่างไร้ค่า และในยามที่ ‘เปิ้ล’ หลับใหล เธอก็เดินทางเข้าไปอยู่ในความฝันของ ‘พิง’ นักแสดงละครใบ้ข้างถนนผู้มีความใฝ่ฝันมากมาย ทั้งชื่อเสียง เงินทอง และการได้เป็นผู้กำกับหนัง ซึ่งไม่ว่า ‘เปิ้ล’ จะเข้าไปในฝันของ ‘พิง’ ครั้งใด ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ความรักจากชายผู้มีปมในชีวิตคนนี้กลับมาสักที ทั้งคู่เดินหากันไปมาในความฝันของแต่ละคน...

 ‘พิง เพลย์บอย’ ที่หลงเข้าไปในความฝันของ ‘เปิ้ล’ ออกจะมัวเมากับความสุขสำราญ และไม่เคยเห็นคุณค่าของความรักแม้แต่น้อย เขาลุ่มหลงอยู่ในตัณหา และรูปลักษณ์ของตนเองอย่างหน้ามืดตามัว ขณะเดียวกัน ‘เปิ้ล สาวน้อยแสนหวาน’ ที่หลงเข้าไปในความฝันของ ‘พิง’ ก็ดูจะมีความสุขอย่างสมถะกับชีวิตเรียบง่ายแต่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ของ ‘พิง’ นักแสดงละครใบ้ข้างถนน ผู้จ่อมจ่มอยู่กับความทุกข์ที่ไม่สามารถสลัดความทรงจำอันเลวร้ายจากการสูญเสียภรรยาได้

 ‘เวลา’ ที่เดินคู่ขนานกันในความฝันของทั้ง ‘พิง’ และ ‘เปิ้ล’ ดูเหมือนจะหยุดลง เมื่อ ‘พิง เพลย์บอย’ กำลังจะสูญเสียแฟนสาวจากพฤติกรรมร้ายๆ ของเขา ในขณะที่ ‘พิง ผู้ยากไร้’ ก็กำลังจะสูญเสียหญิงสาวผู้ทุ่มเทและเชื่อในรักแท้ เพราะการไม่ยอมเปิดใจของเขา

 พิง ลำพระเพลิง ปฏิเสธที่จะบอกว่า “ฝันโคตรโคตร” เป็นเรื่องราวของเขา หากแต่เลี่ยงโดยอธิบายว่า ‘ไม่ว่าหนังเรื่องไหนๆ ในโลก สุดท้ายก็มีห้วงเวลาใด เวลาหนึ่ง ไปคล้ายคลึงกับชีวิตทั้งของคนดู หรือคนทำ’ และไม่ว่าเขาจะพยายามอ้างเหตุผลใดๆ ก็ตาม แต่การนำรูปหรือความทรงจำเกี่ยวกับภรรยาไปใส่ในหนัง จำลองช่วงชีวิตบางส่วนเสี้ยว หรือความรู้สึกในบางขณะ ลงไปในงานที่ทำ ก็พอจะสื่อความหมายได้ว่า “ฝันโคตรโคตร” คือหนังที่ส่งผ่านความประสบการณ์ความรัก ความรู้สึกที่คนทำหนังคนหนึ่งเคยผ่านพบ และพึงจะส่งต่อไปยังผู้คนให้รับรู้ร่วมกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากต่อการเข้าใจว่า เหตุใด ‘พิง ลำพระเพลิง’ จึงต้องพยายามขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ด้วยพลังทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ผ่านการผูกเรื่อง เขียนบท ควบคุมทุกองค์ประกอบจากการกำกับ และผลักดันผ่านการแสดงด้วยตัวเองออกไปในที่สุด...

 ‘เพราะความฝันไม่มีตีนกา’ ชายวัยสี่สิบกว่าๆ กล่าวยืนยันอย่างนั้นอีกครั้ง และดูเหมือนว่าความฝันของเขา เป็นจริงขึ้นมาแล้ว

ชื่อเรื่อง : ฝันโคตรโคตร
ผู้เขียนบท-กำกับ : พิง ลำพระเพลิง
นักแสดง : พิง ลำพระเพลิง, ภาวิณี วิริยะชัยกิจ, สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา
ประเภท : น. 15+ ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
ความยาว : 105 นาที
วันที่เข้าฉาย : 17 กันยายน 2552

"ณัฐพงษ์ โอฆะพนม"