
ชีวิตดนตรีกับ 50 ปีของ ‘ป้าง-นครินทร์’
ศิลปินร็อกรุ่นเก๋า “ป้าง” นครินทร์ กิ่งศักดิ์ เปิดใจถึงชีวิตบนเส้นทางสายดนตรี
โค้งสุดท้ายแล้วก่อนที่จะได้ไปสนุกกับคอนเสิร์ต “50 ปี พรี แซยิด” ของศิลปินร็อกรุ่นเก๋า “ป้าง” นครินทร์ กิ่งศักดิ์ ในวันเสาร์ที่ 30 กันยายนนี้ ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้ "ป้าง" นครินทร์ ประกาศฉลองวัยหนุ่ม(ใหญ่) ด้วยการดวลกับซุปตาร์ตลกตัวพ่อจากรายการ “บริษัทฮาไม่จำกัด” ทั้ง "แจ๊ส ชวนชื่น/ค่อม ชวนชื่น / บอล เชิญยิ้ม / นุ้ย เชิญยิ้ม / ตั๊ก บริบูรณ์ / โรเบิร์ต สายควัน" และพร้อมแขกรับเชิญ “ปอนด์” ธนา ลวสุต อดีตคู่หูวงไฮดร้า ที่จะมาช่วยรื้อฟื้นความหลังกันในคอนเสิร์ต ก่อนจะถึงวันคอนเสิร์ต “บันเทิง คมชัดลึก” วบโอกาสได้เจอกับร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ที่คว่ำวอดในวงการเพลงมานาน เลยพูดคุยกับการอยู่ในวงการเพลงนี้มามากกว่าครึ่งชีิวตของผู้ชายคนนี้กันสักหน่อย
@@ ที่มาที่ไปของคอนเสิร์ต “50 ปี พรี แซยิด” กันก่อน
“เริ่มจากการที่ว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราจัดคอนเสิร์ตบรรลุนิติภาวะ ทางที่บริษัทและแฟนเพลงก็ถามกันมาว่าเมื่อไหร่จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่อีก จนกระทั่งมาถึงอายุ 50 ปีของเรา และเรารู้สึกว่ามันเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ เลยได้คุยกับทางบริษัท เลยมีการคิดมาเป็นชื่อ “50 ปี พรี แซยิด” อะไรกันไป มันเป็นการเล่นคำ พรี แซยิด โดยเราวางธีมงานว่าอยากที่จะให้เป็นแบบที่เราสนิทกันกับแฟนเพลง ถึงได้เล่นอะไรที่ค่อนข้างจะผ่อนคลาย อย่างคำว่าพรีแซยิด ก็เป็นอะไรที่มีอารมณ์ขันอยู่ในตัว อย่างแขกรับเชิญที่เราเชิญมาก็มีอารมณ์ขัน เหมือนกับว่าเมื่อเราสนิทกันขนาดนี้แล้ว ก็จะมีแง่มุมที่ไม่เคยเห็นเราทำมาก่อน เลยอยากเล่นให้เพื่อนสนิทดูบ้างแล้ว เพราะถ้าคนที่สนิทจริงๆ จะรู้ว่าเราเป็นคนตลกพอสมควร (หัวเราะ) อย่างในคอนเสิร์ตครั้งนี้เรายกแก๊งตลกมา เพราะฉะนัั้นก็ควรจะได้เห็นมุมตลกของเราบ้าง ในส่วนของแก๊งแขกรับเชิญที่เราชวนมา เราเลือกเอง เพระาเราเป็นแฟนคลับตัวยงของเขา เลยเลือกคนที่เราชื่นชอบมาเป็นแขกรับเชิญของเราดีกว่า”
@@ อยู่ในวงการเพลงมานาน ดูแลแฟนคลับของตัวเองยังไง
“แฟนเคลับของเราส่วนใหญ่จะทำงานกันแล้ว และมีครอบครัว มีลูกมีเต้ากันแล้ว สมมติเรามีคอนเสิร์ตที่ร้านไหนในกทม. เขาก็จะนัดรวมตัวกัน มาเช็คชื่อ บางทีก็รวมตัวกันไปทำบุญ อย่างไปทำบุญกับเด็กด้อยโอกาส โดยใช้ชื่อเพลงของเราเป็นธีมในการไปทำบุญ บางทีก็รวมตัวไปทำบุญในวันเกิดผม เขาก็เฮฮาในกลุ่มของเขากัน โดยเราก็ตระเวนเล่นคอนเสิร์ต ไม่ได้ไปกับพวกเขา เขารู้ว่าคิวเราไม่ค่อยมีอยู่แล้ว แต่บางครั้งที่เราไปเล่นคอนเสิร์ตแล้วเขารวมตัวกันมาดู เขาก็จะอินบ็อกมาบอกในโซเชียลของเราว่าอย่าเพิ่งรีบวิ่งขึ้นรถตู้นะ แล้วก็นัดรวมตัวกันถ่ายรูปกัน ก็เป็นการดูแลกันแบบนี้มาตลอด ซึ่งพวกเขานี่แหละที่เป็นแรงผลักดันทำให้ผมทำคอนเสิร์ตบรรลุนิติภาวะเมื่อ 4 ปีก่อน ลากยาวมาจนถึงวันนี้ วันที่มีคอนเสิร์ต 50 ปี พรี แซยิด”
@@ ช่วงที่ผ่านมากระแสเพลงของ “ป้าง” ฟีเวอร์มาก
“การที่เพลงของเราที่ผ่านมาได้รับการตอบรับดี ทำให้เราได้กลุ่มแฟนเพลงกลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น ตอนนี้เราได้เห็นแฟนคลับอายุน้อยๆ เป็นกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น อย่างล่าสุดที่ได้เจอคือมีแฟนคลับที่อายุประมาณ 4 ขวบ คุณพ่อพามารอเราที่ร้านที่เราไปเล่น เพื่อถ่ายรูปกับลุงป้าง (หัวเราะ) ซึ่งทางร้านไม่อนุญาตให้เด็กเข้า ร้องไห้กระจองอแง เพื่อมาถ่ายรูปกับเรา ถ้าให้คิดก็เดาว่าเพลงคนมีเสน่ห์ลงไปสู่โรงเรียนอนุบาลเยอะมาก (หัวเราะ) ลุงป้างเลยเป็นขวัญใจเด็กอนุบาลไป”
@@ “ป้าง” อยู่ในยุคที่วงการเพลงรุ่งเรือง จนมาถึงวันนี้ สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน
"การเปลี่ยนแปลงของวงการเพลงมันกระโชกโฮกฮากมาก เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ แต่ผมโชคดีที่มีแฟนคลับตัวยงและมีเพลงที่เราอยู่วงการมานาน ซึ่งเรามีแคทตาล็อกที่เฉพาะตัวที่ส่งให้แฟนเพลงได้ร้องอยู่เสมอๆ เราเชื่อว่าการที่เรามีเพลงในคลังอยู่ เพลงของเราเคยทำให้ช่วงเวลาวัยรุ่นของแต่ละคนมันน่าจดจำ ทำให้เรามีโชว์อยู่เรื่อยๆ ถึงเราจะอายุ 50 ปีแล้วแต่เรายังโอเคกับการอยู่ตรงนี้ เราพยายามทำให้มันผ่อนคลายสบายมากขึ้น มีการปรับตัวบ้าง แต่ไม่ได้ปรับอะไรมากจนเกินไป อย่างเรื่องที่ปรับก็เช่นการมาเล่นโซเชียลทั้งที่เมื่อก่อนเราไม่เล่นเลย แต่พอมาเล่นเราก็ได้รู้ว่าแฟนเพลงของเรารู้สึกยังไงกับเราบ้าง เรารู้สึกว่าโซเชียลก็มีข้อดีของมัน เราก็เล่นในแบบที่รู้สึกดีกับมัน นี่คือการปรับตัวเล็กๆ น้อยๆ
@@ มีข้อคิดถึงรุ่นน้องอย่างไง ที่จะให้อยู่วงการเพลงได้ยาวนานแบบ “ป้าง”
“อื้อ (คิดนิดหน่อย) ด้วยยุคสมัยที่มันเปลี่ยนไป เหตุการณ์สมัยนั้นของเรา ถ้าเอามาบอกรุ่นน้องในตอนนี้มันก็คงไม่ตรงมั้ง ถ้าจะบอกเอาเรื่องหลักๆ ที่เรามักจะพูดอยู่เสมอคือ ความซื่อสัตย์ ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง และตัวเพลง การทำเพลงต้องเริ่มจากการชอบการรักก่อน ไม่ใช่ว่าโดนบังคับทำมา อย่างยุคสมัยบอกว่าแบบนี้กำลังฮิตลองทำดูไหม ตัวเราไม่ได้อิน แต่เห็นว่ามันฮิตแล้วลองทำ ผมว่าไม่ควร แต่ถ้าเพลงยุคสมัยมันฮิตแล้วเราชอบในสิ่งนั้น ทำเลย ต้องทำด้วยความรู้สึกรักมันจริงๆ ก่อนแล้วค่อยปล่อยเพลงออกมาให้แฟนเพลงที่เขารักเราฟัง ความรัก ความจริงใจ ความรู้สึกลึกๆ จะได้ไปกระทบคนฟัง ให้รู้สึกดีเหมือนที่เรารู้สึก”
นี่แหละ!!! คนดนตรีตัวจริงที่ชื่อ “ป้าง” นครินทร์