เงิน 30 ล. 'บอดี้สแลม' สละเพื่อ ‘ก้าวคนละก้าว 11 รพ.’  | คมชัดลึก

 

    "ตูน" อาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องหนุ่มชื่อดังของวง "บอดี้สแลม" กำลังสร้างพลังความเสียสละกับการออกวิ่งในโครงการ  "ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" แต่ไม่ใช่แรงกาย แรงใจเท่านั้น เพราะว่า "ตูน" และสมาชิกวง "บอดี้สแลม" ได้แก่ "ชัช" สุชัฒติ จั่นอี๊ด "ปิ๊ด" ธนดล ช้างเสวก "ยอด" ธนชัย ตันตระกูล และ โอม เปล่งขำ ยังยอมเสียสละทรัพย์ที่ควรจะได้จากการโชว์คอนเสิร์ตในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ "ตูน" ร่วมในโครงการนี้ไป
    โดยวง "บอดี้สแลม" ปฏิเสธรับงานในช่วงตั้งแต่เดือน ตุลาคม-ธันวาม 2560 เพื่อให้นักร้องนำของวงได้ทำตามเจตนารมณ์ที่ตั้งใจ ซึ่งสมาชิกทั้งหมดต่างร่วมยินดีและสนับสนุนในสิ่งนี้ การพักงานกว่า 3 เดือนเต็ม ทำให้วงชื่อดังอย่าง "บอดี้สแลม" สูญเสียรายได้ไปมากกว่า 30 ล้านบาท เพราะโดยปกติ "บอดี้สแลม" จะมีงานต่อเดือนประมาณ 20 งาน มีรายได้จากการโชว์คิดเป็นเงินประมาณ 450,000-500,000 บาทต่อหนึ่งโชว์  
    ทั้งนี้ "บันเทิง คมชัดลึก" ได้พูดคุยกับ "นิค" วิเชียร ฤกษ์ไพศาล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานมิวสิค โปรดักชั่น จีเอ็มเอ็ม มิวสิค และผู้บริหารค่าย "จีนี่ เรคคอร์ด" ต้นสังกัดของ "ตูน" และวง "บอดี้สแลม" จึงได้พูดคุยถึงเรื่องนี้

 

"นิค" วิเชียร ฤกษ์ไพศาล

 

 

     “โดยปกติ ต่อเดือน บอดี้สแลมรับงานไม่เกิน 20 งานต่อเดือน เราพยายามให้อยู่ประมาณ 15-20 งานเพื่อ ให้เขาได้พัก การที่ตูนไปทำกิจกรรมก้าวคนละก้าว ก็ยกเลิกงานทั้งหมด จริงๆ เรียกว่ายกเลิกก็ไม่ได้ เพราะว่าเราไม่รับมาตั้งแต่แรก ประมาณเวลาที่ไม่รับงานของบอดี้สแลมก็ประมาณ 3 เดือน ถามว่างานที่ไม่รับเยอะไหมในช่วง 3 เดือนก็เยอะ แต่ตูนเขามองว่า โครงการนี้มันเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจอยากที่จะทำ และเป็นการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งตรงนี้เพื่อนๆ ในวง ก็เห็นด้วย รวมถึงทีมงานของวงเองก็เห็นด้วย และช่วยกันสนับสนุน ในส่วนของค่ายจีนี่ฯ ในส่วนที่ทำงานปกติ ก็ทำไป แต่บางคนเราจัดสรรคนเข้าช่วยสนับสนุนในเรื่องต่างๆ ซึ่งคนเหล่านี้ก็จะไปอยู่ด้วยตลอด ถามว่ามันสูญเสียรายได้ไปเยอะไหม ก็เสียไปเยอะ แต่มองว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันเป็นรายได้ที่หาได้ต่อไปในอนาคต ถ้าให้ประมาณมูลค่าของรายได้ที่บอดี้สแลมหายไปในช่วงนี้ ผมไม่แน่ใจว่าค่าตัวของวงเขาเท่าไหร่ เรียกว่าหลายแสนต่อครั้ง (เห็นว่าประมาณ 450,000-500,000บาท) อันนี้ก็ต้องไปประเมินเอาเอง”
     มูลค่ารายได้ที่หายไปมีผลกระทบต่อค่ายหรือต้นสังกัดไหม
     “เรามองว่าสิ่งที่ตูนทำมันได้คุณค่ามาก เราอาจจะสูญเสียมูลค่าเรื่องของตัวเลขไป แต่คุณค่าที่ได้กลับมา ลองคิดนะว่าเราต้องใช้มูลค่าแค่ไหนที่ได้คุณค่าแบบนี้กลับมา มันเป็นมูลค่าที่มหาศาลเลยนะ ที่จะสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมแบบนี้ การที่ตูนทำแบบนี้ ในทางกลับกันเขาได้สร้างประโยชน์ให้กับชื่อของวง และตัวค่ายเองก็ได้อานิสงส์ไปด้วย ทางบริษัทแกรมมี่ฯ เองก็ได้ส่วนรวมไปโดยปริยาย ถือว่าเป็นเรื่องราวที่ดีที่เราควรสนับสนุน ถามว่าการที่เราส่งคนภายใต้บริษัทไป ไม่ได้เป็นการหนีงาน แต่เป็นการไปรับภาระงานที่หนักขึ้น นี่คือการสร้างชื่อเสียงอย่างหนี่ง ถ้าคิดในเชิงธุรกิจ แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่า ทั้งตูนและทางค่ายไม่เคยคิดถึงตรงจุดนี้เลย ความตั้งใจของตูนในการทำโครงการนี้ มาด้วยความบริสุทธิ์ใจของเขา ที่เขาเอาตัวเองมาทำเพื่อสังคม จากที่ถามว่าเราสูญเสียอะไรจากการที่ตูนพักงานมาทำโครงการนี้ เราไม่มีคำว่าสูญเสีย เรามีแต่ได้ กับได้”
     คนมองว่าถ้า “ตูน” เลือกเปิดคอนเสิร์ตเพื่อหาเงิน อาจจะไม่ต้องลำบากขนาดนี้หรือเปล่า
     “ผมว่ามันลำบากกว่านะ เพราะถ้าทำแบบนั้นคิดดูซิคุณค่าจากความตั้งใจทำของเขามันจะเปลี่ยนไป ตอนนี้ทุกย่อมหญ้ารู้จัก ”พี่ตูน“ เวลาที่ตูนไปไหนต่อจากนี้ เขาจะได้รับการต้อนรับมากขึ้น จากวงกว้าง แต่อย่างที่บอกสิ่งที่ตูนทำ เขาทำมาจากใจของเขา เขาไม่ได้คิดว่าจะได้ผลประโยชน์อะไรกลับมา อย่างที่เมื่อกี้ว่ามันอาจจะง่ายกว่ากับการที่จัดคอนเสิร์ต แต่คุณค่าทางใจที่ได้กลับมา มันน้อยกว่า สิ่งที่เขาทำไม่ได้เป็นการโปรโมทให้ตัวเองดัง แต่เป็นการที่เขาเอาชีวิตของเขาเข้าไปแลก ผลที่กลับมาคือ ยิ่งให้ยิ่งได้”
     ถ้ามองในเรื่องของมูลค่า “ตูน บอดี้สแลม” เขามีมูลค่ามากสำหรับต้นสังกัด การที่เขาเอาชีวิตตัวเองเขาไปแลกแบบนี้ ต้นสังกัดต้องมีแผนสำรองยังไง
     “เรื่องนี้มันเป็นความชอบส่วนตัวของเขา มันเป็นสิ่งที่เราสั่งเขาไม่ได้ มันเป็นความต้องการของเขาเอง เรื่องแบบนี้เราต้องขีดเส้นว่านี่คือเรื่องส่วนตัวของเขา มองกลับกันถ้าเราจะสั่งให้เขาเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเพื่อทำแบบนี้ ทำได้ไหม มันไม่ได้ ชีวิตเป็นของเขา การที่จะมาคิดว่าเราเป็นต้นสังกัดเขา เราจะไปจำกัดให้เขาทำอะไรมันไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาทำมันเป็นสิ่งที่ดี ที่น่าสนับสนุน สิ่งที่เราทำคือสนับสนุนเขา ถามว่ามีการทำประกันชีวิตเขาไหม เขาคงมีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปห่วงเขา ส่วนเรื่องที่ว่าเขาคือบุคลากรที่มีมูลค่าของเรา อันนี้ก็ต้องยอมรับว่าใช่ เขาคือบุคลากรที่มูลค่า แต่เราไม่เคยมองว่าเขาคือสินค้า เราไม่ได้คิดแบบฝรั่งที่แบบว่า ศิลปิน นักฟุตบอล หรือบุคลลที่มีชื่อเสียง มูลค่าของเขาทางธุรกิจจะเป็นเท่าไหร่ ยังไง แต่เรามองเขาคือคนไทยคนหนึ่งที่เสียสละตัวเอง สิ่งที่เขาทำ เราในฐานะที่เป็นต้นสังกัดเราควรยินดี ไม่ใช่มาคิดว่าเราจะเสียมูลค่าเท่าไหร่ จากเขาในเชิงธุรกิจ สิ่งที่เราคิดคือ เขาไปทำงานหนักขนาดนี้ เขาควรจะได้รับการดูแลอย่างดี และการสนับสนุนอย่างดี เราเชื่อว่าตูนเขารู้ตัวเองดี และเขาก็มองว่านี่คือโครงการส่วนตัวของเขา เขาก็ไปดิ้นรนทำของเขาส่วนหนึ่ง ไม่ได้เป็นภาระของค่ายทั้งหมด ค่ายแค่อยู่ในส่วนของการช่วยสนับสนุนเท่านั้น”

 

     การที่ “ตูน” มาวิ่งครั้งนี้ เสียงชื่นชมเยอะ แต่เสียงวิจารณ์ก็มีตามมาด้วย
     “คือ...ต่อให้เราพูดยังไง ก็ยังมีคนแบบนี้อยู่ สิ่งที่ทำได้คือการนิ่งเฉย ตูนเองเขาก็เช่นกัน เขาก็นิ่ง คนฉลาดก็จะนิ่งกับสิ่งเหล่านี้ ไม่ควรไปให้ค่ากับคนที่พูดจาแบบนี้ การที่เราไปตอบรับไปอะไรกัน เท่ากับเราไปให้คุณค่า สิ่งที่เราทำคือเราอย่าไปให้คุณค่ากับเขาเลย เขาไม่มีตัวตนสำหรับเรา ไม่ว่าจะไปพูดอะไร สถานการณ์แบบนี้เราควรให้กำลังใจกัน พูดในเชิงบวกมากกว่าที่จะมาวิจารณ์ มาพูดดับกำลังใจ คนทำดีไม่ควรพูดให้หมดกำลังใจหรือเปล่า มันไม่มีประโยชน์กับการพูดแบบนั้น คุณไม่บริจาคก็อยู่เฉยๆ คนไม่ทำก็อยู่เฉยๆ คนจะทำดีควรอนุโมทนาบุญกับเขามากกว่า ซึ่งก็อย่างว่าแหละนะ คนเราก็อยากจะมีซีน อยากมีตัวตนขึ้่นมา มันเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ เอาเป็นว่าเราอย่าไปใส่ใจดีกว่า”
     ในส่วนที่ได้รับรู้โครงการนี้และใกล้ชิดกับ “ตูน” รู้สึกโกรธไหมที่มีคนมองแบบนี้ใส่เขา
     “ผมว่าผมกับตูนคล้ายๆ กัน คือเข้าใจและก็เฉยๆ ทุกข์ก็รู้ว่าทุกข์ สุขก็รู้ว่าสุข เราสายธรรมะอยู่แล้ว มีแบบนี้ก็ให้รู้ว่ามี ไม่ว่าจะสูงส่งขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นใครก็จะเจอแบบนี้หมด พระพุทธเจ้าก็มีพระเทวทัต คอยมาสะกิดสะเกาเพราะว่าเขาทำแบบนี้ไม่ได้ มารไม่มีบารมีไม่เกิด ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เขาทำให้โครงการดีๆ แบบนี้เป็นที่รับรู้มากขึ้น เพราะเขายิ่งทำแบบนี้คนยิ่งจะช่วยกันสนับสนุนในเรื่องดีๆ พิสูจน์ไปเลยว่าสิ่งดีๆ แบบนี้จะเดินต่อไป”
     แพลนของ “บอดี้สแลม” ต่อจากนี้ยังไง
     “จริงๆ จะมีเพลงปล่อยในช่วงนี้ แต่ไม่เป็นไรก็เลื่อนออกไปประมาณมกราคมปีหน้า เอ็มวีอะไรก็ถ่ายเสร็จไปแล้ว ไม่ต้องห่วงเขาเลย ผมจะบอกเลยว่าเหนือกว่าศิลปินก็คือมืออาชีพ ตูนคือคนหนึ่งที่เป็นมืออาชีพ เขามีโรดแมปของเขา ตูนและวงบอดี้สแลมเขามีแนวทางของเขา ค่ายแทบไม่ต้องวางอะไรให้เลย ค่ายมีหน้าที่แค่สนับสนุนเขา” ผู้บริหารจีนี่เรคอร์ดกล่าว