ไม่ปฏิเสธ!!'แต๊งค์' ยอมรับผิดไม่คืนเงินแฟนเก่าจนถูกแฉ (คลิป)
"แต๊งค์" พงศกร มหาเปารยะ อดีตแฟนหนุ่มของ "แตงโม" นิดา เปิดใจครั้งแรก หลังแฟนสาวนอกวงการออกมาแฉสนั่นโซเชียลว่าเอาเงินไป แต่ไม่ยอมคืน
เป็นประเด็นร้อนระอุ เมื่อ "มิ้นท์" มนิษา อดีตแฟนสาวนอกวงการของ "แต๊งค์" พงศกร ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @mintmanisa ซึ่งในรูปภาพได้ระบุข้อความว่า “เงินไม่คืน บัตรกดเงินสดคนอื่น แอบเอาไปใช้ ติดต่อไม่ได้เลย รบกวนติดต่อกลับด้วยนะคะ อยากเคลียร์ค่ะ” พร้อมกับแท็กไปหาหนุ่มแต๊งค์ @thankpm หลังจากนั้นสาวมิ้นต์ปล่อยแชทไลน์ออกมา ซึ่งระบุว่าได้โทรหาหนุ่มแต๊งค์แต่ถูกตัดสายทิ้งมา 2 วันแล้ว ล่าสุดในงานแถลงข่าว The Launch of LAUFENN Thailand กับการ เปิดตัว Laufenn ล๊อปเฟน ยางพรีเมียม หนุ่มแต๊งค์ก็ได้เปิดใจครั้งแรกถึงเรื่องนี้
"จริงๆ มีแต่คนบอกผมว่าอย่าเพิ่งไปเสพเสื่อ อย่าเพิ่งเข้าไปดู เพราะกลัวเราจะคิดมาก แต่เขาก็ส่งมาให้เลยเพื่อนอีกประมาณ70กว่าคนก็แคปแล้วส่งมาให้ดู ถ้าถามว่าเรื่องมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง เอาเรื่องราวจริงๆ ใช่ไหม คือมันมีที่มาที่ไป ว่าทำไมเขาถึงโพสต์ มันเกิดจากที่ว่าผมไม่รับสายเขาเป็นเวลา 2 วัน คนเคยคบกันเป็นแฟนกันบางทีก็มีเหวี่ยงใส่กันเล็กน้อย ผสมกับมีอารมณ์ด้วยนิดหนึ่ง จริงๆ แล้วมีการเจรจาผ่านการพูดคุยมาเยอะ ตั้งแต่สมัยที่ยังคบกัน อาจจะแยกทางกันมาได้ประมาณสัก7เดือนแล้ว ช่วงก่อนหน้านั้นคือเราคบกันมาได้ประมาณ4ปีแล้ว อยู่ในระดับที่ว่าเราค่อนข้างจริงจัง เพราะเราก็อายุมากแล้ว และมีการตกลงกันเรื่องหลายๆ เรื่อง มีการลงทุนของเงินรวมกัน อาจจะไม่ใช่กระเป๋าเดียวกันเลยซะทีเดียว แต่มีบางอย่่างที่แชร์กัน เรามีการพูดคุยกันอยู่แล้วในเรื่องของการลงทุน อาจจะมีธุรกิจที่เกี่ยวพัน ความที่เป็นผู้ชายก็เคยพูดออกจากปากว่าจะรับผิดชอบให้ในส่วนนี้ มันก็ดึงรั้งกันมาจนถึงทุกวันนี้ ยอมรับว่ามันมีส่วยที่เป็นความจริงไหม มันมีส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่เป็นอารมณ์ที่เขาสาดใส่เราแรงไป อย่างเช่นบางเรื่อง อย่างเรื่องของบัตรด้วย ถ้าใฟ้พูดตรงๆ เลยคือมันใช้ร่วมกัน ส่วนที่ผมใช้ของเขา สัญญาว่าจะคืนให้ มันก็คือส่วนที่ใช้ด้วยกัน
จำนวนเงินมันมากน้อยแค่ไหน?
"เรื่องตรงนี้ผมขออนุญาต เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวที่จะมาพูดว่าเราเป็นหนี้กันเท่าไหร่"
หลังจากที่ต่างคนต่างโพสต์ไอจีโต้ตอบกัน มีการเคลียร์กันหรือยัง?
"ผมลงเบาจะตาย (หัวเราะ) เราไม่ได้จะแข็งใส่เขาหรืออะไร เรื่องจริงๆ จะเกิดขึ้นจากอารมณ์มากกว่า ผมเองก็ผิด ที่ช่วงนั้นติดพันมีปัญหาอยู่ก็ไม่ได้อยากจะรับ ก็คือคนมันทวงอ่ะ (หัวเราะ) ไอ้เราก็ติดต่อรับสายเขามาตลอด ก็มีการพูดคุยกันมาตลอด จากข้อตกลงในสมัยที่คบกันมันไม่สามารถทำได้แล้ว มันก็ต้องมีข้อตกลงใหม่ เพราะเราก็แยกทางกันแล้ว ต้องใจเย็นๆค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ว่าอยากจะได้เดี๋ยวนั้นเดี๋ยวนี้เลย"
แล้วสรุปตอนนี้เคลียร์กันหรือยัง?
"มันเขียนมาตั้งแต่แรกแล้วเพียงแต่ว่าผมไม่ได้รับสายมา 2 วันเขาก็เลยโกรธ"
ก่อนที่เขาจะโพสได้ตกลงว่าเราจะชดใช้ให้เขาใช่ไหม?
"แน่นอนครับ ชัวร์ มิฉะนั้นเขาคงไม่รอมานานถึงขนาดนี้ประมาณ 7 เดือนแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าตกลงกันยังไงบ้างมันเป็นเรื่องของข้อตกลงส่วนตัวจริงๆ มันเป็นเรื่องของการลงทุน เป็นเรื่องของการใช้เงินร่วมกันในตอนแรก บางทีมันอาจจะมีผลกระทบไปถึงตัวน้องเขา ผมขอไม่พูดในรายละเอียดนะแต่ว่า ถ้าถามผมว่าผมจะรับผิดชอบไหมผมรับผิดชอบในส่วนของผมแน่นอน"
สิ่งที่เขาไม่พอใจเพราะมันเลยเวลา ที่จะต้องชำระเงินแล้วหรือเปล่า?
"ไอ้กำหนดเวลามันเลยมานานแล้ว แล้วจริงๆแล้วเขาก็ไม่เคยกำหนดมาว่าจะต้องเมื่อไหร่ แต่เขาถามมาเรื่อยๆ ว่าได้หรือยัง ได้หรือยัง ได้หรือยัง เราก็มันยังไม่พร้อมอ่ะ"
ส่วนตัวแต๊งค์คือยังไม่พร้อมจ่ายเงินก้อนนั้นใช่ไหม?
"ถูกต้องครับ ประเด็นคือมันมีหลายปัจจัยที่มันซับซ้อน มีเรื่องของครอบครัวด้วย และเรื่องของอะไรอีกหลายๆอย่าง เรียกว่ายังตกลงกันคือหมายถึงตัวเราตัวเด็กเอง คือผมกับแฟนเก่า คือพูดคุยกันบางทีก็รู้เรื่องแล้วแต่ว่า อะไรหลายๆอย่างเราก็ต้องขออนุญาตผู้ใหญ่ด้วย"
ถ้าถามว่า ณ ตอนนี้คุยกันแล้วเคลียร์กันหรือยัง?
"คุยกันแล้วครับผมเคลียร์กัน ว่าเราจะต้องช่วยกันแก้ปัญหาไป มันเหมือนกับว่าเพราะเขาติดต่อมา 2 วันนั้น ที่เขาต้องการที่จะตามผมจริงๆ แล้วผมดันไม่ได้ไปรับสายเขา ซึ่งหลังจากที่เค้าโพสก็ได้เคลียร์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องบอกก่อนว่าอย่างแรกเลยคือผมไม่พอใจมากเลยที่เขาทำไมต้องเหวี่ยงขนาดนี้ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต มันเป็นข่าวที่ไปไกลมากเลย ผมเองก็เกรงใจทางครอบครัวผม และก็อีกหลายๆอย่างด้วย ผมก็คิดว่ามันก็แรงไป ตัวเขาเองก็ได้ขอโทษ ผมเองก็ไม่ได้อยากที่จะพูดในส่วนของเขามาก เพราะเขาเองก็ไม่ใช่คนในวงการเป็นคนนอกวงการเขาก็อาจจะไม่ได้มีสื่อ ในการใช้สื่อตรงนี้ ผมเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรในเรื่องนี้เพราะว่า มันเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้ต้องการให้ใครมาเข้าใจเรา แต่เรื่องเดียวเลย คือผมไม่อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในฝ่ายของผม ต้องมาเป็นกังวลหรือคิดมาก ในความประพฤติของเรา หรือความรับผิดชอบของเรา ตรงนี้ผมกับน้องเขาก็ยังคุยกัน เหลือรอแค่ว่าเราจะต้องช่วยกันหาทางออก ให้มันเหมาะสมที่สุด"
จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วใช่ไหม ?
"คงไม่กล้าแล้วล่ะครับไม่รับสาย ครับผมก็ไม่คิดจริงๆว่าแค่ผมไม่รับสาย 2 วันแล้วเขาจะโพสต์ขนาดนั้น มันก็ลำบากกันมาทั้งคู่ เราก็ช่วยเหลือกันมา มันก็มีเรื่องที่ว่าเราก็พลาดด้วยกัน อะไรด้วยกันแล้วก็ ดันมามีปัญหาเรื่องความรัก แล้วก็หลายอย่างครับขาลง"
คือเราไม่ได้ตั้งใจที่จะหนีหน้าเขาใช่ไหม?
"ผมจะหนีได้ยังไง ผมก็อยู่ที่เดิมบ้านผมก็อยู่ที่เดิม ซึ่งก็เดินไปถึงบ้านเขาได้ด้วย ซึ่งหลังจากที่ไม่รับสายเค้า 2 วันผมก็ไลน์ไปหาเขาว่าผมจะหนีไปไหนผมอยู่ที่เดิมแล้วทำไมถึงไม่กล้ามาที่บ้าน แล้วเขาก็มาเลยบ่ายวันนั้น"
ณ ตอนนี้คือทางออกของเรื่องอยู่ตรงไหน?
"เป็นหนี้ก็ต้องใช้สิครับ แต่ว่าถ้ามันไม่มีถ้าเป็นเพื่อนกันก็ไม่ฟ้อง แต่ถ้าเกิดเกลียดกันไม่ชอบกัน อยากทำร้ายกัน หรือคุณถูกเขาทำร้ายหรือโกงจริงๆแล้วเขาไม่มีคุณก็ไปฟ้อง แต่อันนี้คือเราไม่ได้โกงกัน"
แฟนเก่าเขามีข้อกำหนดไหมว่าครั้งนี้จะต้องคืนเมื่อไหร่ยังไง ?
"ส่วนก้อนที่ผมมีและพร้อมจะคืนเขามันมีอยู่แล้ว แต่คงต้องขออนุญาตผู้ใหญ่"
ทางคุณพ่อคุณแม่แตงว่ายังไงบ้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะค่อนข้างมีผลกระทบ?
" มันค่อนข้างซับซ้อนบางทีผมก็ไม่กล้า พูดออกไปเหมือนกัน เพราะอาจจะเข้าบ้านไม่ได้นะครับ (ยิ้ม)"
มีบทสัมภาษณ์ของคุณแม่ออกมาว่าให้แต๊งค์กะแฟนเก่าไปคุยกันเอง?
"ก็ตามนั้นแหละครับก็เข้าใจแล้วหนิ ผมเองก็ไปทำตามที่คุณแม่บอก (แปลว่าคุณแม่รับทราบเรื่องนี้มาตลอด) พูดยากจังเลย บางทีคุณแม่เขาตอบแบบนั้นแต่ยังไงเราก็ต้องขอเขาอยู่ดี ซึ่งบางทีเขาก็ยังไม่พร้อมที่จะไฟเขียวให้เรา"
อย่างนี้มันทำให้รู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์ของเรากับแฟนเก่านั้นจบกันไม่ดี?
"ถ้าเรียกว่าแฟนเก่า ความสัมพันมันก็ไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่านั้นแล้ว (ยังเฮิร์ตอยู่ไหม) ไม่บอก"
แต๊งค์เสียใจไหมที่อดีตคนเคยรักกันมาโพสต์ข้อความ แบบนั้น ?
" อย่างที่เขาพบว่าเราขาลงหรืออะไรก็ตาม ถามว่ามันกระทบจิตใจไหมมันก็กระทบแต่มันคือเรื่องจริง เรื่องจริงมันกระทบอยู่แล้ว ใครจะมาพูดใส่หูเรามันก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่านั้นแล้ว อย่างเรื่องของขาลงจริงๆแล้วก็ ผมคิดว่ามันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เราโดนคนอื่นรังแก หรือมรสุมชีวิตอะไร แต่มันเป็นอะไรที่เราต้องสู้ เราเองเข้าวงการมาตั้งแต่เด็กมันก็ต้องมีเวลาว่างงานบ้าง เราก็ต้องลองทำมาหากินอย่างอื่นบ้าง"
มั่นใจไหมว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก?
"ก่อนหน้านี้ผมก็มั่นใจว่าไม่มีนะ มันอยู่ที่ตัวเรา ข่าวนี้ผมก็ยอมรับผิดไง"