'4 โพดำ' ไม่มีวันหมดอายุ | คมชัดลึก

    ทีมบันเทิงคมชัดลึก - หลังจากที่รายการ “สี่โพดำ” ประกาศพักเบรกรายการทางช่องวัน 31 ไปอย่างไม่มีกำหนด ทำเอาแฟนๆ ใจหายว่าแก๊ง “4 โพดำ” จะแตกแล้วหรืออย่างไร และมิตรภาพของ “แก้ม” วิชญาณี เปียกลิ่น “กัน” นภัทร อินทร์ใจเอื้อ “โดม” จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม และ “ตั้ม” วราวุธ โพธิ์ยิ้ม จะไปอย่างไรต่อ โดยแฟนๆ ต่างตั้งตารอการกลับมาของ 4 คนนี้ในคอนเสิร์ตใหญ่ปี 2019 ที่ “เอไทม์ โชว์บิส" ร่วมกับ "ซีเนริโอ” ร่วมกันจัดขึ้นในชื่อคอนเสิร์ต “4 โพดำ Oh My God Concert” วันเสาร์ที่ 26 และวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม 2562 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ห้างสยามพารากอน แต่คอนเสิร์ตนี้ก็มาพร้อมกับคำถามที่ว่าเป็นคอนเสิร์ตสั่งลาปิดตำนาน “4 โพดำ” หรือเปล่า
 

    “บันเทิง คมชัดลึก” ได้มีโอกาสพูดคุยกับทั้ง “แก้ม-กัน-โดม-ตั้ม” จึงได้เปิดใจพวกเขาถึงเรื่องนี้
    โดม : คนดูรู้จัก 4 โพดำจากหลากหลายทาง บางคนอาจรู้จักจากคอนเสิร์ตครั้งแรก ครั้งที่สอง หรืออาจจะรู้จักจากความสนุกสนานจากรายการ หรือตามอีเวนต์ต่างๆ แต่ว่าอันนี้ผมว่าเราจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่งของ 4 โพดำจริงๆ เริ่มต้นมาจากคอนเสิร์ต เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรามาเจอกัน ครั้งนี้ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่เราแต่ละคนก็ใฝ่ฝัน ชื่นชอบและอยากทำ ถวิลหามันมาตลอด
    ตั้ม : สิ่งที่คนคาดหวังเราคิดว่าเขาก็คงเห็นแหละ เพราะมันคือตัวตนเราจริงๆ จากสิ่งที่ผ่านมาเขาจะเห็นว่าเราสนุกสนานยังไง ได้เห็นแน่ๆ แต่สิ่งที่เอไทม์โชว์บิสมอง
    กัน : เราเพิ่งจัดคอนเสิร์ตไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเราเองก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อไป ถ้าทำอีกเราจะทำอะไร แต่พอวันหนึ่งเอไทม์โชว์บิสมาทำสิ่งนี้ให้เรา เราก็เลยรู้สึกว่าเราได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่เราทำกับเขามา เราเคยไปร่วมคอนเสิร์ตกับเขามา เราเลยเชื่อใจเขา และคิดว่าไอ้ความไม่มั่นใจว่าเราจะทำอะไรดี มันน่าจะคุยกับเขาได้ น่าจะแชร์กับเขาได้ ว่าสิ่งที่เขามองเห็นเรา อยากให้เกิดภาพนี้บนคอนเสิร์ตของเขา กับการทำงานของเรา 4 คนบนนั้น มันน่าจะทำอะไรให้คนดูว้าวได้ มีความสุขได้ เราก็เลยตอบรับว่าอยากทำ
    แก้ม : พี่เขามองว่าเราเป็นนักร้องคุณภาพ พูดตรงๆ ว่าคนมองเราสนุกสนาน แต่พี่เขาอยากให้คนเห็นเราอีกมุมว่า 4 โพดำ จุดเริ่มต้นคือการเป็นนักร้องคุณภาพ ความคุณภาพมีแน่นอน

 

 

 

    ถ้าให้พูดถึงนิยาม "4 โพดำ" ณ วันนี้
    แก้ม : เราไม่เคยคิดนิยามของพวกเราเลย มันเป็นอินฟินิตี้ เราสามารถอยู่ด้วยกันได้
    โดม : กลุ่มดาวลูกไก่เหรอ
    แก้ม : ดาวอินฟินิตี้ เพราะไม่มีวันสิ้นสุด พวกเราเหมือนคลื่นวิทยุ ถ้าไม่ฟังวิทยุก็ไม่ได้เจอ แต่พอเปิดฟังก็จูนติดเสมอ มันมีโมเมนต์ที่เราต้องทำงานกับตัวเอง มีไทม์ของตัวเองกัน แต่กลับมาเราก็ทำงานด้วยกันได้จริงๆ
    เหนื่อยมั้ยกับการต้องรักษาคำว่า "4 โพดำ" ไว้
    (พูดพร้อมกัน) : ไม่เคยเหนื่อยเลย
    แก้ม : เพราะการเริ่มต้นของเรามาจากการที่เราอยากทำด้วยใจจริงๆ มันเหมือนเป็นอีกครอบครัว
    กัน : เวลาเรารู้ว่าจะมีงานด้วยกันทีไร มันรู้สึกปลอดภัย บรรยากาศบางงาน เราไม่เคยเจอหน้างานแบบนี้ อย่างบรรยากาศเหมือนร้องในโรงหนัง พอเราอยู่ด้วยกันปุ๊บ มันจะผ่านไปด้วยกัน
    โดม : ใช่ สบายใจ สองวันที่เราไปร้องเพลงด้วยกัน เรารู้สึกปลอดภัยจริงๆ เลย หันมามองหน้ากันจังหวะสบตากันปิ๊ง มันเข้ากันว่ะ เอาจริงๆ การทำงานหลายคนมันยากกว่าทำงานคนเดียวอยู่แล้ว แต่อันนี้กลับรู้สึกว่า เราทำงานเป็นกลุ่มมันเข้าใจกันแล้ว จูนกันติด ช่วยกันได้ มันเลยง่ายมาก
    ตั้ม: แล้วมันสนุกด้วยนะ ดีด้วย ง่ายๆ เราไปคนเดียว เราเดตแอร์ไม่ได้เลยนะ แต่เราไปกับอีกคน ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว อีกคนก็ช่วยๆ ส่งๆ 
 

 

    เคยคิดมั้ยว่า 4 โพดำจะอยู่กันนานถึงวันนี้
    (พูดพร้อมกัน) : ไม่เคย
    กัน : วันแรกที่พี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) มานั่งคุยว่าจะมี 4 โพดำ ตั้มเพิ่งประกวดเสร็จ เพิ่งได้ตำแหน่ง แล้วก็แบบ เดี๋ยวจะมีรายการ 4 คนนะ มาทำคอนเสิร์ตด้วยกัน 4 คน ตอนแรกได้ชื่อ 4 โพดำ ก็ถามว่ามีใครบ้างครับ มีเรา มีพี่แก้ม มีโดม มีตั้ม ก็ยังนึกไม่ออกว่าเป็นยังไง
    ตั้ม : ผมยังนึกภาพไม่ออกเลย เราจะอยู่กันได้ยังไง เป็นไปไม่ได้ ผมไม่มั่นใจตัวเองเลย 
    แก้ม : หนูเป็นชะนีคนเดียว ก็มีความกังวลใจว่าเราจะอยู่กับเด็กพวกนี้ หมายถึงว่าโอเค เคยทำงานด้วยกัน แต่คอนเสิร์ตด้วยกันจะเป็นยังไง
    โดม : เป็นสี่ดาวมหาประลัยมันไม่ใช่จับทีมไปแข่ง 4:4 มันจับทีมเพื่อคอนเสิร์ต มันใหญ่ มันยาก มันต้องรับผิดชอบ ถ้าไม่รอดก็คือ... ถ้ารอดก็...ฟลุก คือหลังจบคอนเสิร์ตกว่าจะได้ทำงานด้วยกันจริงๆ คือนาฏราช ขึ้นไปร้องเปิดงานด้วยกัน หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนแบบ เฮ้ย พวกนี้มันคือใคร ก็เลยมาเกิดเป็นรายการ จะบอกว่ามีความลับด้วยว่า รายการถ่ายไป 1 ครั้งแล้วไม่ได้ออนด้วยนะ เหมือนมีช่วงเวลา แขกไม่ได้ หรือยังออนแอร์ไม่ได้ เรื่องสปอนเซอร์ด้วย เราก็ใจแป้วกันไปเลย
    กัน : พอมาถึงรายการตอนแรกยากมาก เพราะเราไม่เคยเป็นพิธีกร เราต้องดำเนินรายการกันเอง ร้องเพลงโอเค เหมือนเป็นเซฟโซนเราเพราะเราชอบอยู่แล้ว แต่พอมามีอีกหน้าที่ที่มันยาก เราจะไปยังไงวะ 4 คนจะพูดกันยังไง เรื่องนอยด์ใน 4 โพดำเยอะ มีการเว้นวรรค กลับมา แล้วมีการปรับเปลี่ยนโน่นนี่นั่น โอ้โห หนัก คือบางทีเสียน้ำตาก็มี
    แก้ม : ถ่ายไปมั่นใจว่าได้ออนแต่กลายเป็นว่าเลื่อนไปก่อน เพราะเป็นช่วงปลายปี สปอนเซอร์ใช้เงินไปแล้ว มันก็ไม่ทัน เราก็ตกใจมากกว่า

 

 

    เหมือนเส้นทางที่ผ่านมา ก็มีท้อ  มีร้องไห้ จับมือผ่านกันมายังไง
    กัน : มีคำถามเกิดขึ้นตลอด แล้วเป็นโรคพารานอยด์หมู่ (หัวเราะ) เป็นบ่อยมาก  พอนอยด์ทีเราก็ประชุมกันแล้ว ไปกินข้าว แล้วก็ระบายกัน
    โดม : สมาคมลับ (หัวเราะ) เวลารวมกันก็ให้กำลังใจกัน มาชาร์จแบตกัน ต่างคนต่างมีความรู้สึกในใจ ไม่รู้จะไประบายกับใคร จะไปเล่าให้แม่ฟัง ให้เพื่อนฟัง ก็ไม่เก็ตเท่ากับเราทำงานกันเอง ก็ต้องอธิบายกันเอง
    แก้ม : นอยด์ยกแผง แล้วก็จะบอกว่าเฮ้ย ไม่เป็นไร สู้ต่อนะ ไม่มีใครบอกว่าเพราะแกนะ ไม่มี อันนี้โชคดีนะ เราทำงานเป็นกลุ่มแต่ไม่เคยอิจฉากัน
    มีแอบอิจฉากันเองไหม เพราะเป็นที่หนึ่งเหมือนกันหมดเลยนะ
    แก้ม : เชื่อมั้ยไม่เคยคิดกันเลยนะ คิดว่าเป็นเด็กตลอด หมายถึงต้องเรียนรู้  มันเก่งกันคนละทาง ก็ต้องทำให้สุดของแต่ละคน มันคือความสามัคคี เอาจริงๆ เรื่องการโชว์หรืออะไรไม่ค่อยมีปัญหาหรอก มีปัญหาเรื่องการพูดคุยกันมากกว่า
    โดม : เรามองว่าเป็นเด็กคนหนึ่งที่เข้ามาทำงาน และต้องรับเงินจากเขา เราทำให้เต็มที่ แค่นั้น
    ตั้ม : มีคนถามว่า 4 โพดำ หมดอายุแล้วใช่ไหม บอกเลยไม่มีวันหมดอายุ แต่ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง เราเชื่อว่ายังมีคนจดจำชื่อพวกเราว่าเป็น 4 โพดำ
    คอนเสิร์ตนี้จะเป็นคอนเสิร์ตปิด “4 โพดำ” ไหม
    กัน-ตั้ม: ไม่รู้
    แก้ม : ถามว่าคิดมั้ย พูดตรงๆ ก็คิด
    ตั้ม: เดี๋ยวหลังคอนเสิร์ตเราจะหาอะไรทำ ดูสามแยก เขาไม่ได้มีรายการ เขาก็มีคอนเสิร์ต กว่าเขาจะมีรายการ เขามีคอนเสิร์ตมาแล้วกี่รอบ มีปีละครั้ง สองปีครั้ง เพราะเขาเป็นเพื่อนกันไง เขาเป็นเพื่อนกันจริงๆ พอเขาจับกลุ่มกันปั๊บ คนดูรู้ว่าเขาจะได้ดูอะไร มันเหมือนกัน เราสร้างตรงนี้ให้แข็งแรง ทำคอนเสิร์ตเราให้ดี พอคนดูเห็นว่า 4 คนนี้รวมกันแล้วจะเป็นยังไง ผมว่าต่อๆ ไปมันก็จะมีงานที่เป็น 4 คนนี้ขึ้นมาเอง
    โดม : เราจะเป็นตำนานที่มีลมหายใจ (หัวเราะ)
    กัน : จำใครมา (หัวเราะ)
    พวกเขา คือ “4 โพดำ”