(คลิป) 'เจมส์' ออกจาก 'นาดาว' ซบ 'โฟโนล็อก'
"เจมส์"ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ เปิดใจหลังออกจาก "นาดาวฯ" ว่ามาจากการอยากลองเป็นศิลปิน พร้อมเผยคุยกันกับอดีตต้นสังกัดด้วยเหตุผล รับเซ็นสัญญาเข้าสังกัด "โฟโนล็อก"
ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ทำเอาใครหลายคนประหลาดใจไปตามๆ กัน หลังค่าย "นาดาว บางกอก" ร่อนจดหมาย แจ้งว่า “เจมส์” ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ ได้หมดสัญญากับทางบริษัทแล้ว และนักแสดงหนุ่มได้ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาพร้อมหันหน้าทำงานเพลงร่วมกับการเป็นนักแสดง ในจดหมายของนาดาวฯ ได้มีการระบุว่าเจมมี่เจมส์กำลังจะไปอยู่ในสังกัดใหม่ ล่าสุด “บันเทิง คมชัดลึก” มีโอกาสเจอกับหนุ่มเจมส์ที่ไปร่วมงานของฟิชโช่ ในฐานะพรีเซนเตอร์จึงถามถึงเรื่องนี้
ถามถึงเรื่องจดหมายจาก “นาดาว” เรื่องการหมดสัญญาออกมา
“ใช่ จริงๆคุยกันมาก่อนหน้านั้นแล้วรู้สึกว่าผมอยากลองคือผมรู้สึกอยากลองไปทางศิลปินดู อย่างที่ผมพิมพ์ไปในไอจี พี่ย้ง (ทรงยศ สุขมากอนันต์) บอกว่าอยากลองอะไรให้ลองให้สุดเลย รู้สึกว่ามันเป็นโอกาสเพื่อที่จะไปลองอะไรใหม่ๆ ก็คุยกับพี่ย้งกันได้ดี ทางนาดาวเข้าใจ”
ตัดสินใจนานไหม
“คิดอยู่สักพักหนึ่งแต่เราก็รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เราอยากลองถ้าเราไม่ได้ลองตอนนี้ มันเหมือนไม่เสียดายถ้าทำตอนนี้แล้วไม่ดี แต่ว่าจะเสียดายถ้าไม่ได้ลองทำ”
ชั่งใจนานไหม มันเหมือนเป็นทางเลือกเพราะเกิดจากการแสดง
“คือด้านศิลปินผมก็เข้่าใจว่าทำได้ไม่ดี ต้องฝึกฝนอีกเยอะ เราเป็นนักแสดงมา 5 ปี ทุกอย่างเราเติบโตจากนาดาว ผมอยู่กับน้าดาวก็รู้สึกเป็นฟิวของเด็กที่อยู่โรงเรียนตลอดแล้ววันหนึ่งไปเรียนต่างประเทศอะไรอย่างนี้ ไปใช้ชีวิตอีกที่มันก็มีความแบบเป็นการตัดสินใจ ซึ่งไปก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงแต่แค่รู้สึกว่าเราอยากไป”
อะไรที่มำให้เรากล้าเสี่ยง
“พี่ย้ง ก็เขาบอกถ้าไปก็ต้องไปให้สุด ก็เลยรู้สึกว่าผมก็อยากลองมันเป็นความชอบของผมด้วยเวลาเราได้ออนเสตทที่นายบายนายเรารู้สึกว่าเราชอบฟิวในการฝึกซ้อมอย่างนี้”
ตอนตัดสินใจไปบอกต้นสังกัดใจหายไหม
“ใจหายครับ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะผูกพันกันมาก 5 ปี โตมาด้วยกัน นาดาว สอนอะไรหลายๆ อย่าง คือเราคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ได้คุยแล้วจะยื้ิอ คุยกันด้วยความเข้าใจ ทุกอย่างเคลียร์ด้วยกันหมด เราก็เลยคุยเรื่องอื่นเตลิดเปิดเปิงไปเรื่อย”
หลายคนจะบอกว่าเกิดมาจากนักแสดงค่อนข้างโอเค
“อันนี้ต้องขอบคุณนาดาว ถ้าผมไม่ได้รับการเรียนการแสดง ได้รับการเวิร์ช้อป ได้รับโอกาสได้บทที่ดี ทีมงานที่ดี ผมก็ไม่มีวันนี้ได้เลย”
เรากลัวจะไม่เปรี้ยงเหมือนตอนที่เป็นนักแสดงไหม
“ผมยังไม่ได้คิดถึงจุดนั้น ผมอยากทำให้มันออกมาดีที่สุด ทุกผลงานการแสดงเราเต็มที่กับมัน ลุยกับมันจริงๆ ผมรู้สึกว่าถ้าทำเต็มที่มันไม่มีจุดที่ทำให้เราเสียดายแล้ว มันจุดเดียวกับตอนทำซีรีส์ หนัง ถ้าทำทุกอย่างเรามั่นใจเต็มที่สุดแล้ว ต่อให้ผลลัพธ์ออกมายังไง แค่นั้นก็แฮปปี้”
ตอนนี้เรียกว่าจะหันมาโฟกัสการเป็นนักร้องเป็นหลัก
“เป็นศิลปิน แต่ไม่ได้ทิ้งเรื่องการแสดง ตอนนี้เราอยากลองไปทางศิลปินดู แต่ไม่ทิ้งการแสดงอยู่แล้ว เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีวันนี้ ผมยังรักและสนุกทุกครั้งที่ได้ทำการแสดง”
เซ็นสัญญาโฟร์โนล็อคจริงไหม
“จริงครับ อันนี้ยังอยู่ในช่วงการคุยกัน ดีเทลยังอยู่ในช่วงการคุย”
รายละเอียดเซ็นแล้วจะต้องทำอะไรบ้าง เป็นนักร้อง หรือว่าอะไร
“อันนี้อยู่ในช่วงการคุยเหมือนกันครับ ยังเจาะดีเทลอะไรมากไม่ได้”
อยากทำอะไรบ้าง
“ผมว่าถ้าเลือกทางศิลปินแล้ว เราก็อยากทำเพลง แต่ผมก็ไม่ทิ้งการแสดง คือถ้าสมมุติการอยู่แล้ว ถ้าผมไม่มีการแสดงก็ต้องมีการคุยกันอยู่แล้ว คือผมว่าคำว่าศิลปินในรูปแบบของผม หลายๆ คนที่เราคุยกัน คือ ศิลปินคือคนทำงานศิลปะ เราอาจจะไม่โฟกัสคำเดียวแค่การแสดง นักร้อง เพอร์ฟอร์มานซ์ แต่รวมคำนั้นเข้ากับศิลปิน ศิลปินของผมมันจะไม่ใช่แค่อย่างเดียว แต่เราจะทำงานอาร์ตออกมาให้คนดู”
กับเพื่อนๆ "ไนน์บายนาย" ได้คุยกันไหม
“ได้คุยก่อน ที่จะปล่อยแถลงการณ์ออกมา”
เราโพสต์ถึง “เจเจ” กฤษณภูมิ ด้วย
“เราค่อนข้างสนิทกัน แฮปปี้ กับ พี่ตุ๊กตา ก็สนิทกันผ่านอะไรกันมาเยอะ ปีที่ผ่านมามันทำให้เราโตขึ้นหลายๆ อย่าง เป็นพาสที่ได้ลองสิ่งใหม่ ได้ลองแทบทุกอย่างเลยครับ”
ครูเงาะโพสต์เสียดาย เพราะเจมส์อินเนอร์ในการแสดงที่ดี
“ผมเห็นและได่อ่านแล้ว อยากจะย้ำอีกทีว่าไม่ได้ทิ้งการแสดงนะครับ ติดต่องานแสดงได้ยังยินดีรับอยู่ ผมยังรับงานแสดงอยู่จริงๆ นะครับ อยากเล่นบทบาทใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ได้ทิ้งการแสดงแน่นอน (เราร้อนเงินหรือเปล่า ?) ช่วงนี้ไปเที่ยวกลับมาก็ร้อนๆ อากาศไม่ได้ร้อนนะ แต่ร้อนเงิน ไม่ใช่(หัวเราะ) รู้สึกว่าเป็นช่วงที่อยากทำงานมากกว่า ไม่ใช่เรื่องเงินหรอก”
พี่ย้งพูดถึงว่านาดาวคือบ้านของเราเสมอ
“ผมเพิ่งเห็นเมื่อเช้านี้ รูปวันนั้นเป็นรูปวันที่คุยกัน อย่างที่บอกเหมือนบ้านอยู่เสมอ ทุกวันนี้ผมก็แวะไปนาดาวได้ ของหลายๆ อย่างก็ยังอยู่นาดาว มันไม่ใช่ว่าการที่เราย้ายออก เราไม่ได้ย้ายออกด้วยการแตกหัก เราย้ายออกด้วยความเข้าใจกันว่า เราอยากไปลองสิ่งใหม่ พอเราเข้าใจกันยังไงมันก็เหมือนบ้านอีกหลังนึง ที่เราเติบโตมาจากที่นั่น วันไหนที่รู้สึกอยากกลับไปเจอเพื่อนๆ ทีมงาน เราก็จะไปครับ (โมเมนต์ที่กอดกันพี่ย้งพูดว่าอะไรบ้าง ?) จำไม่ได้วันนั้นค่อยข้างเบลอหนัก แต่ก็พูดประมาณว่า พี่ย้งเคารพการตัดสินใจของผม และก็อยากให้ผมไปให้สุดทาง”
อยากบอกอะไรกับแฟนคลับ
“ผมอยากขอบคุณแฟนคลับทุกคน ที่เข้าใจการตัดสินใจของผม ก็ได้อ่านคอมเมนต์ ขอบคุณมากจริงๆ ที่เข้าใจกัน ไม่ได้รู้สึกแอนตี้การตัดสินใจของผม ผมค่อนข้างรักพวกเขามากๆ เลย เขาเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้ทิ้งเราไปไหน ส่วนคนที่ไม่เข้าใจบอกว่าเราคิดผิด มันเป็นการตัดสินใจของเราเนอะ อันนั้นอาจจะเป็นความคิดของเขา ซึ่งเราควบคุมความคิดเขาไม่ได้ สิ่งที่เราเลือกเสพสิ่งที่เราเลือกฟังก็จะเป็น คอมเมนต์กับสิ่งที่เขาพูดไม่ดี มันคนละอย่างกันจะพาร์ตของเราที่ต้องจัดการตัวเองว่า เราจะเลือกเสพสิ่งไหนหรือรับฟังสิ่งไหน เรารับฟังทุกคอมเมนต์ แต่สิ่งไหนที่เป็นคำพูดไม่ดี เราก็ตัดปัญหาตัวเองอาจจะไม่ฟัง แล้วมองผ่านไป”