'นาย' ปลื้มเป็นตัวแทนไปมิลาน
"นาย" ณภัทร เสียงสมบุญ ปลื้มเป็นตัวแทนนิตยสารเดินทางไปชมแฟชั่นโชว์ที่อิตาลี ยันคุณแม่ไปด้วยในฐานะผู้จัดการ เผยเทิดทูน ตูน บอดี้สแลม ยกให้เป็นไอดอล
บันเทิง คมชัดลึก - เรียกว่าความหล่อกระแทกตาจนนิตยสาร GQ ขอให้เป็นตัวแทนไปดูแฟชั่นโชว์ถึงมิลาน ประเทศอิตาลี ได้สอบถามกับ "นาย" ณภัทร เสียงสมบุญ ว่าพร้อมแค่ไหน ในงาน “เปิดวิกบิ๊ก 3 “THE NEW E.R.A.” ครึ่งปีหลัง 2019”ณ ห้องไทยจิตรลดา แกรนด์บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมแบงค็อก ได้ความว่า
“ใช่ ไปร่วมงานที่มิลานกับทางนิตยสาร GQ ดีใจมาก เป็นตัวแทนของ GQ ประเทศไทยไปที่มิลาน เป็นการดูแฟชั่นของผมครั้งแรก ตื่นเต้นและดีใจมากเพราะว่าเราเคยติดตามในอินเตอร์เน็ตจะได้เห็นตลอดเลยว่าที่นั่นเมืองเขาจะเป็นศูนย์รวมของแฟชั่นเลย ส่วนชุดที่จะใส่ที่มิลานนั้นต้องรอติดตามกันในอินสตาแกรมของผม เดี๋ยวผมนำมาลงให้ดูกันว่าทางผมกับGQ ไปเป็นอย่างไร
(เราต้องไปทำอะไรอย่างไรบ้าง) เดี๋ยวจะแจ้งเร็วๆ นี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นนี่แหละ ก็เป็นแฟชั่นที่เป็นไลฟ์สไตล์ของผู้ชายด้วย ผมขึ้นปกนิตยสารไปแล้ว ยังหาซื้อได้อยู่นะ ถามว่าตื่นเต้นไหม ตื่นเต้แน่นอน ก็เป็นงานแรกที่เราได้มีโอกาสไป และเราก็รู้ว่างานนี้ทันอินเตอร์เนชั่นแนลมาก คือทั่วประเทศ สื่อทุกที่มาอยู่ที่นี่หมดเลย ซึ่งคุณแม่ก็จะไปด้วย คือท่านไปทำหน้าที่ผู้จัดการ เดี๋ยวต้องไปดูแล หลังเสร็จงานก็ไม่ได้เที่ยวต่อ เพราะผมอยากรีบกลับมาไปช่วยพี่ตูนวิ่งกับมูลนิธิก้าวคนละก้าวต่อ เพราะว่าวันที่ 16 จะมีมินิมาราธอนตอนเย็น ซึ่งพี่ตูนตั้งใจอยากจะให้เป็นมินิมาราธอนที่มีคนมาร่วมวิ่งเยอะที่สุดในประเทศไทยและทำเป็นกินเนสเร็คคอร์ด ผมก็อยากเป็นหนึ่งเสียงในพลังเล็กๆที่เราไปช่วยพี่เขา”
เมื่อถามต่อว่าตอนนี้สภาพร่างกายพร้อมแค่ไหน นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า
“ผมก็วิ่งออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว วิ่งบนลู่ ถ่ายงานเสร็จก็พยายามวิ่ง เพราะเดี๋ยวเป็นลมต่อหน้าพี่ตูน ผมอายเขา (หัวเราะ) ถามว่าวิ่งกี่กิโล คือเขาไม่ได้บังคับ ตอนที่พี่ตูนโทรมาเขาก็แยากให้ไปร่วมช่วยกัน คือคอนเซ็ปของปีนี้คือพลังเล็กๆรวมกันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ครับ ก็เลยโอเค ผมขอเป็นหนึ่งเสียงที่ช่วยพี่ตูนแล้วกัน วิ่งเท่าที่ไหว แต่จิตใจของเราคืออยากไปช่วยพี่เขาจริงๆ
(ก่อนหน้านี้พี่ตูนเองก็เจอดราม่าเยอะ เราให้กำลังใจอย่างไรบ้าง) ก็คือผมรู้สึกว่า ผมได้มีโอกาสคุยกับพี่ตูน ได้เห็นเบื้องหลังพี่ตูนที่คนหลายคนไม่ได้เห็นเวลาเขาพัก จากปีที่แล้วระหว่างที่พี่เขาวิ่งอยู่ และเขาก็อดทน เขามีกำลังใจเป็นโรงพยาบาลอยู่ทุกที่ แล้วผมบอกเลยว่าทุกคน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา เพราะสุขภาพในอนาคตต้องดูแล และพี่ตูนให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเจตนาของพี่เขา เพราะฉะนั้นสิ่งที่พี่เขาทำ เจตนาของพี่เขาบริสุทธิ์มาก ผมรักพี่เขามาก และผมเทิดทูนพี่เขามาก อยากเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้ หรือให้ได้แม้แต่เสี้ยวของพี่เขาด้วยซ้ำ เพราะว่าพี่เขาทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศมามากแค่ไหน ผมยังไม่ได้คุยกับพี่เขาเลย แต่ว่าผมรู้อยู่แก่ใจครับว่าสิ่งที่พี่ตูนทำ เจตนาเขาคืออะไร เขาคือต้องการช่วยเหลือทุกคนจริงๆ เขาทำด้วยการเอาร่างกายเข้าแลก เขาไม่หวังผลประโยชน์อะไรเลยทั้งนั้น และเอาจริงๆการเตรียมตัววิ่งในครั้งนั้นและครั้งนี้ เขาเสียสละเวลาชีวิตส่วนตัวไปเยอะมาก เขาต้องเตรียมซ้อม เขามีจัดเป้าหมายและเขาต้องซ้อมๆ เพราะว่าเขาอยากจะเรียกให้คนไทยทุกคนมาช่วยกันให้ได้มากที่สุด”