'เปา-เปาวลี' ต่อสัญญา 6 ปี อบอุ่นบ้านหลังเดิม
"เปา" เปาวลี พรพิมล เผยเซ็นสัญญาต่อกับ "แกรมมี่โกลด์" อีก 6 ปี รับตกใจ "ใบเตย อาร์สยาม" คอมเม้นท์ชวนย้ายค่ายไป "อาร์เอสฯ" พร้อมบอกไม่มีพรีเวดดิ้ง
ทีมบันเทิง คมชัดลึก-หลังจากนักร้องเสียงดี "เปา" เปาวลี อยู่ภายใต้สังกัดแกรมมี่โกลด์มาถึง 12 ปี หลายคนก็ลุ้นว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ ล่าสุด สาวเปา มาร่วมงาน ยูทูบมอบโล่ ให้แกรมมี่โกลด์ ที่ ชั้น 33 ตึกแกรมมี่ ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า
เรื่องสัญญาตกลงต่อเป็นรอบที่ 3 แล้ว
"ก็รอบที่ 3 แล้วค่ะ รอบละ 6 ปี ก็ 18 ปีแล้วนะ (หัวเราะ) ต่อยาวไปเลยค่ะ ก็ต่อทีละ 6 ปีค่ะ ที่ผ่านมาก็ 12 ปีแล้วกับแกรมมี่โกลด์ค่ะ มันเร็วมากเลย ตกใจมากค่ะ (ยิ้ม)"
ที่ต่อสัญญาเพราะบ้านนี้ยังอบอุ่นเหมือนเดิมใช่ไหม
"อบอุ่นเหมือนเดิมนะคะ แต่ว่าวันนั้นที่หนูโพสต์ไปคือด้วยความที่เราดีใจ และหวนกลับมานึกถึงวันที่เรามาเซ็นสัญญาอีกครั้ง ก็เลยโพสต์ไปค่ะ แต่ก็มีปรึกษาผู้ใหญ่ว่าเดี๋ยวเราก็แต่งงานแล้วนะ การวางแผนก็ให้ผู้ใหญ่มีส่วนร่วมด้วยในชีวิตเราค่ะ"
แพลนชีวิตไว้ยังไงบ้าง
"ก็ปีนี้แต่งงานนะคะ แต่ปีหน้าก็มีงานเข้ามาค่อนข้างจะเยอะแล้ว ก็ช่วยๆ กันวางแผน แล้วเขาก็มีช่องว่างให้เราได้ไปท่องเที่ยวด้วยค่ะ"
เงื่อนไขในสัญญามีอะไรพิเศษไหม
"ไม่ปรับเปลี่ยนเลย เหมือนเดิมเลยค่ะ เราทำงานด้วยระบบบริษัท ซึ่งบริษัทเองก็น่ารักมีงานให้เราตลอดนะคะ และมีการช่วยเราคิด ช่วยเราวางแผนตลอดเลยค่ะ"
เห็นมีหลายคนมาทาบทามเราไปค่ายอื่นเหมือนอื่น
"(หัวเราะ) เพิ่งจะรู้ตอนที่เราโพสต์ไปนั่นแหละค่ะ เราก็แอบตกใจว่ามีคนอยากจะชวนไปเยอะเหมือนกันค่ะ"
ที่เราไม่ไปเพราะลังเลหรือยังไง
"ไม่ลังเลนะคะ คือวันที่เราจะเข้ามาเซ็นวันนั้นเราก็ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่เขาเตรียมเอกสารไว้ให้เราเซ็นวันนั้น แต่เราก็พอรู้มาว่ามันใกล้หมดสัญญาแล้วนะ ซึ่งเราก็พร้อมที่จะต่อสัญญาเพราะว่าทุกอย่างมันกำลังไปได้ดีค่ะ"
คิดไหมว่าฟีดแบ็คจะมีคนมาชวนเราเยอะขนาดนี้
"ก็แอบตกใจ (หัวเราะ) ก็มีพี่ใบเตย อาร์สยาม มีพี่หลายๆ ท่านยื่นข้อเสนอมาค่ะ ก็มีข้อเสนอมาหลายอย่างเลย อย่างพี่ใบเตยก็บอกว่าจะมีละครให้ด้วยนะอะไรอย่างเนี้ยค่ะ (หัวเราะ)"
แอบมีใจอ่อนบ้างไหม
"อยู่ที่นี่ก็แฮปปี้ดีแล้ว (หัวเราะ) มีความสุขดีค่ะ"
ใบเตยเขาดีลเรามาส่วนตัวเลยใช่ไหม
"ก็ตามที่เขาคอมเม้นท์มาใต้รูปในไอจีหนูเลยค่ะ แต่ก็มีส่งข้อความส่วนตัวมาก็หลายคนค่ะเรื่องทาบทาม"
เขาเสนออะไรบ้าง ตัวเงินหรืองาน
"ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่หลากหลาย เพราะเดี๋ยวนี้หลายๆ ท่านก็ไปเป็นฟรีแลนซ์นั่นนี่กัน"
เราเคยคิดอยากเป็นฟรีแลนซ์บ้างไหม
"ไม่นะคะ เพราะว่าค่อนข้างโอเคเลยกับชีวิตตอนนี้และที่ผ่านมา เพราะว่าเราเองถึงแม้จะไม่ดังเปรี้ยงปร้าง แต่ว่าเรามีงานตลอดเลย และมีงานใหม่ๆ เข้ามา อย่างปีหน้าก็มีงานที่เรายังไม่เคยทำ ผู้ใหญ่เขาก็คอยดูงานให้เราตลอด"
พอบอกผู้ใหญ่เรื่องจะแต่งงาน เขาให้เวลาเรายังไงบ้าง
"เรื่องการแต่งงานผู้ใหญ่บอกว่าเป็นเรื่องปกติของคน ซึ่งเขาก็เข้าใจ และอย่างการวางแผนเรื่องจะมีน้องเราก็จะรู้ชีวิตเราว่ามีงานอะไรเข้ามาบ้างแล้ว ก็วางแผนกันว่าสามารถมีได้ช่วงไหน ก็ช่วยกันดู ต้องวางแผนไว้ล่วงหน้าค่ะ เพราะว่างานเราก็เข้ามาเรื่อยๆ ปีหน้างานก็เข้ามาแล้ว เพราะถ้าเรามีน้องปุบปับก็อาจจะกระทบเรื่องงานได้"
เหตุผลนี้ด้วยหรือเปล่าที่ทำให้เราตัดสินใจต่อสัญญา
"รักอยู่แล้วด้วยค่ะ (หัวเราะ) ก็ต่ออยู่ที่นี่แหละค่ะ ที่นี่เป็นมากกว่าบริษัทนะคะ ส่วนใหญ่พี่ๆ จะดูแลกันแบบครอบครัวมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มีอะไรก็คุยกันปรึกษากัน ซึ่งเป็นมากกว่าที่ทำงานค่ะ (ยิ้ม)"
อีกไม่กี่เดือนก็จะแต่งแล้ว
"เรื่องความพร้อมเนี่ยเราเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีรายละเอียดอะไรบ้าง แต่ก็ดีที่ว่ามีพี่ที่เป็นแพลนเนอร์ เป็นออร์แกไนซ์เขาช่วยวางแผนค่ะ"
หนักใจหรือกังวลอะไรเป็นพิเศษไหม
"เรื่องน้ำหนักค่ะ (หัวเราะ) ทำงานด้วยค่ะ แล้วเราเองก็เพลิดเพลินไปกับการกิน เวลาอยู่ด้วยกันก็จะพาไปกินนั่นนี่ด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็จะลืมนึกถึงว่าเราจะต้องตัดชุดใหม่นะ ตัดชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่จริงเราวัดไว้ตั้งแต่เดือนมกราคมเลยค่ะ แล้วก็เพิ่งไปวัดใหม่ว่ามันขยายขึ้น (หัวเราะ)"
เรากังวลเองหรือฝ่ายชายติงมา
"ทั้งคู่ค่ะ ก็ดูกันเองว่าอ้วนขึ้นนะ (หัวเราะ) แต่ก็คงได้ออกกำลังกายกันมากกว่านี่ค่ะ"
ตื่นเต้นหรือยัง
"ยังไม่ตื่นเต้นเลย ยังอีกหลายเดือน แต่ใกล้ๆ คงตื่นเต้นค่ะ"
ตอนนี้ไปได้กี่เปอร์เซ็นแล้ว
"ล่าสุดเพิ่งไปทำการ์ด แล้วก็มีไปดูสถานที่ที่สุพรรณบุรีค่ะ แล้วก็มีคุยกับพี่แพลนเนอร์ว่าจะต้องเตรียมของอะไรบ้างในการใช้งานขันหมาก"
จัดใหญ่เลยไหม
"ไม่ใหญ่ (หัวเราะ) เรียบง่ายค่ะ ไม่มีพรีเซ็นเทชั่น ไม่มีพรีเว็ดดิ้ง เอาเรียบง่าย แต่ให้พิธีการครบแล้วกันค่ะ"
จัดที่สุพรรณอย่างเดียวหรือที่กรุงเทพฯ ด้วย
"ที่สุพรรณจะเป็นแบบพุทธค่ะ แล้วมาจัดอีกทีที่โบสถ์อัสสัมชัญ คาทอลิกค่ะ"
เราต้องเปลี่ยนศาสนาด้วยไหม
"เปลี่ยนแล้วค่ะ ไปเรียนมาแล้วช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งคำสอน การวางตัว การใช้ชีวิต หนูว่าเหมือนกับศาสนาพุทธที่หนูได้เรียนและได้ศึกษามาตั้งแต่เด็ก หนูว่าการใช้ชีวิตคือให้เราเป็นคนดีแค่นั้นแหละค่ะ"
ต้องปรับตัวใหม่ไหมกับการเปลี่ยนศาสนา
"ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงค่ะ นอกจากวันอาทิตย์ที่ไปโบสถ์พร้อมกัน และถ้าเกิดเราอยากจะไปทำบุญในศาสนาพุทธก็สามารถทำได้ เพราะว่าในยุคนี้ไม่ได้เคร่งขนาดนั้น"
กังวลไหมว่าชีวิตเราจะเปลี่ยนไปหลังแต่งงาน
"ก็ขอให้ไม่เปลี่ยนแปลงแล้วกัน (หัวเราะ) แล้วก็ช่วยอุ้มชูกันแบบนี้ตลอดไปค่ะ"
ปีหน้าก็คงยังไม่ต้องลุ้นเรื่องมีน้องใช่มั้ย เพราะงานแน่นมาก
"ใช่ค่ะ ก็คงเลื่อนไปปลายปีหน้าแล้วกันค่ะ แต่ก็อยากมีนะ (ยิ้ม)"
ป๋ากิ๊กยอมใช่ไหม
"ก็คงต้องยอมค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่างานก็เข้ามาแล้วค่ะ แต่เราก็อยากให้เป็นไปตามธรรมขาติ ก็มีคุยกันว่าช่วงต้นปีถึงกลางปีค่อนข้างจะแน่นเลย ก็ต้องปล่อยธรรมขาติปลายปีแล้วกัน ยังไม่รีบเท่าไหร่ค่ะ (ยิ้ม)"