คิดถึง "โอ๋ ภัทรียา" ลูกเกดสอง สร้างชื่อไทยคว้ารางวัล ''กะเทยโลก'' อีกคนที่จากไป | คมชัดลึก

 

แม้ "โอ๋ ภัทรียา" ศิริงามวงศ์ Miss Tiffany 1999 ''ลูกเกดสอง'' จะเป็นมิสทิฟฟานี่คนที่สองของประเทศไทย แต่เธอเคยสร้างชื่อให้ประเทศไทยในระดับโลก ด้วยการเป็น "มิสทิฟฟานี่คนแรกของประเทศไทย" ที่คว้าตำแหน่ง ''กะเทยโลก'' หรือ ''มิส ควีน ออฟ เดอะ ยูนิเวิร์ส 1999'' ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานยิ่งใหญ่ของสาวประเภทสองชาวไทย

 

 

 

โดย "โอ๋ ภัทรียา'' หรือ ''ลูกเกดสอง'' มิสทิฟฟานี่ ปี 1999 คนที่สองของประเทศไทย และเป็นสาวประเภทสองคนแรก ที่เคยคว้ารางวัล ''กะเทยโลก'' ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 14 ปีก่อน ด้วยสาเหตุการใช้ฮอร์โมนมากจนเกินไป และพักผ่อนไม่เพียงพอ

ซึ่ง "โอ๋ ภัทรียา'' เป็นมิสทิฟฟานี่ ที่จัดว่าสวยมาก ทั้งรูปร่างขาที่เรียวยาว สัดส่วนใบหน้าที่งดงาม มีชื่อจริงว่า นายบุญเลิศ เเซ่ฉ่าย อดีตเด็กปั้มจากจังหวัด นครศรีธรรมราช ตอนนั้น จากกะเทยที่เที่ยวแถว RCA โอ๋กลายเป็นตัวแทนประเทศไทย เดินทางไปไกลถึงสหรัฐอเมริกา ในการประกวดเวทีใหญ่ระดับโลก มิสควีนออฟเดอะยูนิเวิร์ส 1999 

หลังจากนั้นเพียงไม่นาน หนังสือพิมพ์ไทยทุกฉบับในตอนนั้น ก็ได้พาดหัวข่าวว่า "กะเทยไทยสวยไม่แพ้ชาติใดในโลก” เพราะ  "โอ๋ ภัทรียา" เป็นผู้ชนะเลิศคว้ามงกุฏในค่ำคืนนั้น พร้อมกับยังพ่วงคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม และรางวัลชุดราตรียอดเยี่ยม ทั้งที่เขามีเพียงแค่ 4 ตำแหน่ง เธอพลาดแค่ รางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยมชุดเดียวเท่านั้น กลายเป็นสาวประเภทสองคนแรกของไทย ที่ทิฟฟานี่ส่งไปชนะเลิศในแผ่นดินอเมริกา

 

 

 

โอ๋ ภัทรียา เล่าว่า นางงามฝั่งลาติน ไม่ค่อยชอบเธอ เพราะคิดว่าประเทศไทยส่งผู้หญิงมาประกวด แต่เมื่อทุกคนได้เห็นโอ๋ในชุดว่ายน้ำหลังเวทีประกวด ก็รู้ว่าเธอก็คือสาวประเภทสอง ที่ยังไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศ ทุกคนเลยเข้ามากอดเธอ และบอกเธอว่าฉันเข้าใจผิดมาตั้งนาน ทีแรกฉันนึกว่าเธอเป็นผู้หญิง แต่เมื่อฉันได้เห็น น้องชายของเธอ ฉันถึงรู้ว่าเธอก็เป็นเหมือนฉัน 

หลังจากสร้างชื่อให้กับประเทศไทย โอ๋ก็เดินทางกลับประเทศไทย มีทั้งโอกาส มีทั้งงานอย่างมากมาย และถูกตั้งฉายาว่า ''ลูกเกดสอง'' เนื่องจากมีใบหน้าละม้ายคล้ายกับ ''ลูกเกด'' เมทินี กิ่งโพยม

แต่ในยุคนั้น สังคมไทยยังไม่เปิดกว้างมากนักสำหรับสาวประเภทสอง โอ๋จึงเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศ หลังจากนั้นไม่กี่ปี เธอก็เดินทางกลับมาไทย พร้อมกับอาการป่วยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา