"ฟลุค-จิระ" เล่านาทีระทึกพาครอบครัวอพยพด่วน เหตุเพลิงไหม้โรงงานกิ่งแก้ว | คมชัดลึก

 

เป็นอีกคนในวงการบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากกรณีโรงงานโฟม-เคมีใหญ่ ซอยกิ่งแก้ว ย่านบางพลีไฟไหม้ระเบิดสำหรับหนุ่ม “ฟลุค-จิระ ด่านบวรเกียรติ” นักแสดง สังกัดสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ที่ต้องรีบอพยพพาภรรยาสาว “แอปเปิ้ล สีสะเหงียน” และลูกๆออกจากบ้านย่านบางพลี เพราะอยู่รัศมีห่างจากโรงงานระเบิดเพียงแค่ 4 กิโลเมตร หนุ่มฟลุคเลยขอเปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

 

 

 

“เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง ตกใจไหม?

“เมื่อคืนเช้ามืดเอาจริงๆ ผมยังไม่รู้เรื่องเลย ระหว่างเกิดเหตุการณ์ระเบิด บ้านฟลุคไม่ได้รู้สึกอะไรเลย แต่มีบ้านด้านหน้าที่รับรู้ และได้ยินเสียงระเบิด แต่ฟลุคมาได้ยินเสียงรถฉุกเฉินต่างๆ ดังทั่วเส้นถนนบางนาเลยครับ พอตอนเช้าได้เห็นกลุ่มควันที่เกิดขึ้นเยอะมาก และกลุ่มเพื่อนบ้านที่ติดต่อกันในไลน์กลุ่มก็ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ แต่โชคดีมากที่บ้านฟลุคไม่เป็นอะไร”

 

 

แต่ก็ยังมีกลุ่มควัน สารเคมีลอยฟุ้งทั่วท้องฟ้า?

“ใช่ครับ เต็มไปหมดเลย เห็นชัดเลยมาจากตรงไหน ฟลุคเลยเริ่มอัพเดทรายการข่าว สถานการณ์ต่างๆ และคนในหมู่บ้านเริ่มพูดกันว่ามีความรุนแรงขึ้น เลยตัดสินใจ พาครอบครัวออกจากบ้านกัน แต่ตอนแรกก็คิดว่าคงจะควบคุมเพลิงได้ ตอนเย็นค่อยกลับ แต่พอตามอัพเดทข่าวช่วงบ่ายๆ ก็ยังมีความรุนแรงอยู่อีก เลยตัดสินใจหาโรงแรมพาครอบครัว มาพักกันที่โรงแรมครับ”

 

 

 

บ้านได้รับความเสียหายไหม?

ไม่ได้รับความเสียหายเลย แต่เราอยู่ในรัศมีภายใน 5 กิโลเมตร ตามที่เขากำหนด และประกาศจากทางการ และนิติบุคคลให้อพยพ เราเลยตัดสินใจออกมาครับ เพราะถึงแม้เราจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังคงมีสารเคมีต่างๆจากโรงงาน ที่เราต้องระวังในรัศมีนี้ เลยตัดสินใจออกมานอนที่โรงแรมครับ”

 

กลุ่มควันสารเคมีปกคลุมหมู่บ้านไหม?

“อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องความโชคดีของบ้านฟลุค ที่กลุ่มควันไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มาทางบ้านฟลุคเลย แต่เราก็ยังไว้ใจไม่ได้ เพราะลมอาจเปลี่ยนทิศตีกลับมาทางบ้านเราก็ได้ ฟลุคเลยไม่อยากให้ครอบครัวต้องมาเสี่ยงครับ ยิ่งเรามีลูกเล็ก และถ้าหากมีอะไรรุนแรงขึ้นอีก ออกมาตอนนั้นคงไม่ทันแน่นอน เพราะรถติดมากด้วย”

 

 

เป็นอีกหนึ่งหน้าที่หัวหน้าครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบภรรยา และลูกๆ?

“ใช่ครับถือว่าเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งเลยที่ได้ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว คือตอนนั้นเราตัดสินใจเลยว่าออกจากบ้านกันก่อน ป้องกันก่อน ถึงแม้เรายังไม่ได้รับผลกระทบ แต่เราก็ยังอยู่ในรัศมีที่ไม่น่าปลอดภัย ถ้าเราออกตอนที่เกิดผลกระทบกับเราจริงๆ กลัวจะออกกันมาไม่ทัน เพราะอย่างที่บอกรถค่อนข้างติดมาก เลยเอาให้ครอบครัวปลอดภัยไว้ก่อน แถมเรื่องลมเปลี่ยนทิศ ที่อาจจะพัดหอบเอาสารเคมีมาโดนลูกๆก็ได้ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าครับ”

 

 

หลังจากนี้ทำอย่างไรต่อ?

“ตอนนี้ก็คอยติดตามข่าว และอัพเดทกับนิติหมูบ้านกันอยู่ครับ ซึ่งเพื่อนๆในหมู่บ้านบางครอบครัวก็ยังคงอยู่ คอยดูสถานการณ์ตลอด แต่ถ้ามีอะไรที่เป็นผลกระทบกับบ้านเรา ก็คงต้องกลับไปดู แต่ตอนนี้คงต้องเอาครอบครัวทั้งภรรยา ลูกๆ และพี่เลี้ยงให้ปลอดภัยกันไว้ก่อน”

 

 

 อยากฝากอะไรถึงคนที่ได้รับผลกระทบ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายไหม?

“อยากจะบอกผู้ที่กำลังประสบปัญหา ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ น้องๆ ปลอดภัยกันทุกคนนะครับ และอยากกราบขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ได้มาจัดการไฟไหม้ครั้งนี้ ที่ร่วมแรงกาย แรงใจช่วยเหลือชาวบ้านทุกๆคน ในขณะที่ทุกคนกำลังหาทางหนี แต่พวกเข้ากลับต้องพุ่งเข้าไปช่วยเหลือ และระงับเหตุการณ์ในครั้งนี้

 

 

โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่นักดับเพลิง ที่ถูกลูกหลงจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่สำคัญของแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้อง “พอส” ที่ได้มาเสียชีวิต กับความทุ่มเท แรงกาย แรงใจ มาช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ ฟลุคตกใจมากที่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับน้อง และนักดับเพลิงท่านอื่นๆ บรรยายไม่ถูกเลย ซึ่งถ้าน้องเป็นคนในครอบครัวเรา เราคงเสียใจมาก น้องเองก็อายุยังน้อยครับ ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีกเลย สุดท้ายนี้ฟลุคขอเป็นกำลังใจ และกราบขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ และทุกหน่วยงาน ที่คอยช่วยเหลือประชาชนทุกคน ขอบพระคุณมากๆเลยครับ ”