ป.ป.ช. น้อมรับดราม่า "#พูดหยุดโกง" ลั่น ถือเป็นบทเรียน หลังใช้งบกว่า 7 ล้าน
ยังคงเป็นประเด็นดราม่าร้อน ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลไม่จบ สำหรับ กรณีที่เมื่อวันที่ (19 สิงหาคม 64) ที่ผ่านมา คนบันเทิง กว่า 30 ชีวิต พร้อมใจกันโพสต์ภาพปิดปาก ติดแฮชแท็ก "#พูดหยุดโกง"
เพื่อรณรงค์ให้คนไทยไม่ทนคนโกงทุกรูปแบบ ปลุกกระแสให้คนไทยตระหนักถึงการเอารัดเอาเปรียบ เพื่อเป็นกระบอกเสียงในการปลุกจิตสำนึก และ กระตุ้นให้เกิดการช่วยกันสอดส่องพฤติกรรมมิชอบ จนเกิดแฮชแท็ก "#พูดหยุดโกง"
ซึ่งหลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตบางส่วนเสียงแตก ไม่เห็นด้วย จนมีการไปสืบที่มาที่ไปของแคมเปญนี้และพบว่า เป็นโครงการจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
และเมื่อวันอาทิตย์ที่ (22 สิงหาคม 64) มี ดารา นักแสดง คนบันเทิงบางส่วน ที่เคยออกมาโพสต์รูป "#พูดหยุดโกง" หลังโดนดราม่าถล่มจากชาวเน็ต ก็ทยอยลบรูปที่ร่วมโครงการ "#พูดหยุดโกง" ออกจาก IG ส่วนตัว
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (23 สิงหาคม 64) ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับ สำนักข่าวอิศรา จัดกิจกรรมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบสื่อมวลชนระดับบรรณาธิการ ประเด็น ครบรอบ 3 ปี พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
ผ่านระบบ Zoom โดยมี "พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ" ประธานกรรมการ ป.ป.ช. , น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยกรรมการ ป.ป.ช. และมี นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
เข้าร่วมด้วย โดยช่วงหนึ่งในการแถลงมีการสอบถามถึงกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์แคมเปญ #พูดต้านโกง หรือ "#พูดหยุดโกง" ที่มีการใช้เงินจากกองทุน ป.ป.ช. กว่า 7 ล้านบาทนั้น
ด้าน "พล.ต.อ.วัชรพล" กล่าวว่า "ที่มาที่ไปของการขอเงินกองทุน ป.ป.ช. ต้องผ่านหลายส่วน โดยเมื่อมีผู้เสนอโครงการมาต้องมีการวิเคราะห์นำส่งสำนักนโยบายและแผน และสำนักงานประชาสัมพันธ์ การสร้างความรับรู้ให้แก่ประชาชน ของสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อวิเคราะห์คำขอโครงการ งบประมาณที่ใช้จะมีตัวชี้วัดว่าต้องดำเนินการอะไรบ้างต่างๆ จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการ มีตัวแทนของกองทุน มีผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาช่วยกันวิเคราะห์มีความเหมาะสมหรือไม่"
นอกจากนี้ "พล.ต.อ.วัชรพล" ยังบอกอีกว่า "หลังจากนั้นจะนำเสนอต่อคณะกรรมการกองทุน ที่มีตนเป็นประธาน และ มีกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ได้รับมอบหมาย 1 รายเป็นกรรมการ นอกจากนี้ยังมีผู้แทนจากสำนักงบประมาณ ผู้แทนกระทรวงการคลัง และผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการ เพื่อวิเคราะห์ และ พิจารณาตามที่คณะอนุกรรมการเสนอมา ในที่สุดเรื่องนี้มีการอนุมัติไป ซึ่งหลังจากนี้จะต้องติดตามและประเมินตามตัวชี้วัดว่าเป็นไปตามตัวชี้วัดหรือไม่ ยอมรับว่าโซเชียลมีอิทธิพลรวดเร็วมาก สิ่งที่ประชาชนแสดงความคิดเห็นมา กรรมการ ป.ป.ช. แต่ละคนไม่ค่อยสบายใจ แต่น้อมรับทั้งหมด อาจมีการปรับปรุงแก้ไข ดำเนินการอย่างไร ทั้งหมดถือเป็นบทเรียนความผิดพลาด ทุกอย่างตั้งใจให้คนรณรงค์มีส่วนร่วม อาจไม่ครบถ้วน ไม่รอบคอบไปบ้าง คราวหน้าจะได้ไม่เกิดข้อบกพร่อง มีประสิทธิภาพมากขึ้น"