"ใบเตย พรพจี" เปิดใจครั้งแรก หลังเจอมรสุมข่าวคดี ผู้กำกับโจ้
หลังโดนกระแสสังคมถล่มหนัก ล่าสุด สดๆร้อนๆ "ใบเตย พรพจี" พิธีกรรายการบันเทิงช่องวัน ก็ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ "แซ่บทะลุจอ" เป็นครั้งแรกแล้ว ถึงความสัมพันธ์ที่คบหาดูใจกับ อดีต "ผู้กำกับโจ้" มาได้ 11 เดือน ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้ต้องหา
โดย "ใบเตย พรพจี" ก็ได้เปิดใจเคลียร์มรสุมดราม่าในครั้งนี้ว่า "เตยว่าในใจทุกคนก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า เหตุการณ์ทั้งหมดมันค่อนข้าง ส่งผลกระทบรุนแรง แบบที่ (เสียงสั่น) เราตั้งคำถามว่า ความทุกข์ของมนุษย์เป็นได้มากแบบนี้เชียวหรือ ถ้าใครไม่ประสบพบเจอ น่าจะไม่มีทางเข้า เข้าถึง และ เข้าใจได้เลย เพียงแต่ว่า เตย ยังเชื่อมั่นในครอบครัว มีคุณพ่อ มีคุณแม่ มีพี่ชาย มีพี่สะใภ้ มีครอบครัวเป็นหลัก ยึดจิตใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถ มีชีวิต หรือว่ามานั่งหายใจ หรือแม้แต่กระทั่งมาให้สัมภาษณ์ ในวันนี้ได้เลย ครอบครัวแล้วก็ความรัก แล้วก็กำลังใจจากทุกๆคน ไม่น่าเชื่อว่ากำลัง ใจจากคนที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ามันมันมีค่าได้ขนาดนี้เลย
เตยไม่ได้มีการแต่งงาน ไม่มีพิธีมลคลสมรสนะคะ ตามรูปที่หลายคนอาจจะเข้าใจผิด ด้วยความที่ตัว พี่ปลา เองก็ได้โทรมา ได้คุยกันเป็นการส่วนตัวแล้ว กราบขอโทษ ทั้งตัว เตย และก็ ครอบครัวที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง ซึ่ง พี่ปลา เองก็ได้ลงชี้แจงอธิบายไปแล้ว ว่าเป็นการไปพบสมเด็จพระสังฆราชกันทั้งครอบครัว มันเป็นการแต่งกายที่เหมาะสม เท่านั้นเองค่ะ จริงๆ เข้าใจค่ะ ว่ารูปภาพมันมี ความใกล้เคียง และ คล้ายมากแต่ว่าเรารูปอยู่แล้วว่า เราไปทำอะไร เพราะฉะนั้นเนี่ย คนก็จับโยงไปได้หมด จะโยงอะไร ก็โยงได้เนอะ จริงๆมีภาพรวมครอบครัว กับ บ่าวสาว ด้วย แต่ว่ามันเป็นภาพที่ส่วนตัว เราไม่ต้องการให้มีใครจับใครโยงอีกแล้ว
แค่นี้ตัว เตย ก็หนักมากพอแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าไปลงภาพครอบครัวอีก คนที่ส่งผลกระทบมันจะยิ่งข้อมูลกว้างขึ้นไปอีก ตั้งแต่กระแสทุกอย่างเข้ามามัน มันเยอะมาก มันรอบด้านจริงๆ อะไรที่มันไม่เป็นความจริง เราก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรมัน ยิ่งตั้งแต่เกิดเรื่องก็ตัดโซเชียลออกไปเลย มันเกินจะทนไหวจริงๆ
ก็ยังคงทำงานอยู่ค่ะ แล้วก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนในช่องด้วย ที่มองด้วยความเข้าใจ และก็จิตใจ เมตตาเป็นธรรม ไม่ได้รู้สึกว่า การที่คนๆนึง รู้จัก คนๆนึง และ คนนั้นได้กระทำความผิด เราผิดด้วยหรือ ทุกอย่างเรารู้ดีอยู่แก่ใจ คนรอบข้างที่รักเรา ที่รู้จัก เตย มาตลอดชีวิตเค้ารู้ดี ยังรักในอาชีพนี้ แล้วก็ยังคงทำงานต่อไป
แย่มันแย่อยู่แล้วค่ะ ความรู้สึกตอนนี้ แต่ว่ากำลังใจดี อย่างที่บอกว่าเรามีหลักยึดเป็นครอบครัว แล้วก็คนที่รักเรา แล้วก็ใจเราเองที่รู้อยู่เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไร เตย เอง ได้ทำงานในวงการสื่อมาตลอด 10 ปี เตย มีความเข้าใจในการเป็นไปของวงการนี้นะคะ ถามว่า หนักไหม หนักมาก เตย จะผ่านมันไปได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลา วันที่ เตย เข้มแข็งขึ้น
เตย จะกลับมาทำงานเหมือนเดิม ขอบคุณทุกกำลังมากๆ รับรู้นะคะมันมีค่ามากๆ"
ขอบคุณภาพประกอบข่าวและคำสัมภาษณ์จากรายการ แซ่บทะลุจอ ช่อง GMM25