"ต่าย สายธาร" เคลียร์ดราม่า ถูกชาวเน็ตด่าแรง ไม่ดูแลแม่ที่กำลังป่วยหนัก
กลายเป็นโดนดราม่าจากชาวเน็ตเข้าแบบเต็มๆ สำหรับ อดีตนางเอกชื่อดังยุค 90 "ต่าย สายธาร" ที่ก่อนหน้านี้ออกมาแจ้งข่าวเกี่ยวกับ คุณแม่ที่กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย
โดยเมื่อวันที่ (14 กันยายน 64) "ต่าย สายธาร" ได้ออกมาเปิดใจอัปเดตอาการของคุณแม่ว่า "คุณแม่ อายุประมาณ 80 ปี มาระยะะหลัง ช่วง 2 ปีที่แล้ว อาการเริ่มทรุดลงมาเรื่อย ต่าย ไม่สามารถขึ้นไปดูแลเนื่องจากสถานการณ์โควิด และ การทำหน้าที่จิตอาสาที่ช่วยเหลือประชาชน จนมาเมื่อประมาณ 5 วันที่แล้ว ได้ทราบข่าวว่า คุณแม่ทรุดหนัก ลูกสาวบุญธรรม น้องน้ำฝน ได้ส่ง รพ. มหาราชนครเชียงใหม่ และ แอดมิทเข้าห้องไอซียู หลังจากการวินิจฉัยโรคแล้ว คุณหมอแจ้งว่า เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย... ตอนนี้ทำได้แค่ประคองอาการ และ รักษาตามอาการ ตัว ต่าย เองไม่ได้กลับไปหาคุณแม่มา 2 ปี แล้ว เพราะสถานการณ์โควิด ต่าย คุยกับคุณหมอว่า อยากให้รักษาให้เต็มที่ขอให้แม่เจ็บปวดน้อยที่สุดค่ารักษาเท่าไหร่ก็ได้ ตอนนี้ที่ทำได้ก็ภาวนาขอให้แม่รอต่าย ให้ต่ายได้ไปเจอแม่ก่อน"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ต่าย สายธาร" โพสต์แจ้งข่าว คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
- หมิว สิริลภัส สถาปนาตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์ "ลิซ่า BLACKPINK"
- เอ๊ะยังไง "แอฟ ทักษอร" โผล่คอมเมนต์คำทำนาย หมอช้าง แบบนี้
- "หนิง ปณิตา" สั่งยกเลิกกองด่วน หลัง นางเอก ของเรื่องเจอคนติดโควิด
- "นิชคุณ หรเวชกุล" เคลื่อนไหวแล้ว หลัง มดดำ ออกมาขอโทษ จบดราม่าเทียบ ลิซ่า
ล่าสุดไม่วาย "ต่าย สายธาร" กลับเจอดราม่า ถูกชาวเน็ตเข้ามาด่าตำหนิ ติติงว่า "ไม่ดูแลคุณแม่" ทำเอาเจ้าตัวไม่รอช้ารีบออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊ก Saitharn Niyomkarn ทันที (16 กันยายน 64) ว่า...
"ใจร่มๆค่ะทุกคน นี่แม่ต่ายค่ะทุกวันนี้เราเป็นเสาหลักของครอบครัวค่ะทุกคนมีเหตุผลของตัวเองและไม่เคยเอาเรื่องครอบครัวตัวเองต้องมาโพสต์มาระบายเพราะมันไม่ได้ช่วยทำให้สภาพจิตใจดีขึ้น ตัวเองอยู่คนเดียวมาตลอดไปไล่ดูไทม์ไลน์นะคะต่ายกลับบ้านแทบทุกปีแต่มีช่วง 2 ปีนี้ที่ถ่ายละครและมีวิกฤตของ covid ทั้งเชียงใหม่ และ กทม. ตอนนั้นมันหนักมากสนามบินปิดและมีคลัสเตอร์แถวบ้าน ลูกบอกแม่ต่ายอย่าเพิ่งกลับเพราะเราเป็นพื้นที่สีแดงเหมือนกันและพื้นที่สีแดงมาเจอกันคือเสี่ยงมากในการที่จะเอาเชื้อมาเเพร่ให้กันเพื่อนอยู่ใกล้แค่ไม่กี่ก้าวยังไม่กล้าไปเยี่ยมแม่ต่ายเลย ใจเย็นๆนะคะครอบครัวต่ายแม่และลูกสาวเข้าใจกันดีค่ะ ต่ายต้องทำงานเพื่อหาเงินส่งให้ครอบครัว
ถ้าไม่ทำงานจะเอาเงินที่ไหนดูแลและรักษาแม่ เราเป็นกู้ชีพรู้ดีว่าควรทำตัวอย่างไรโทรคุยกับแม่ตลอดและตอนนั้นแม่ยังไม่มีอาการป่วยแต่ก็มีโรคประจำตัวคือความดันเบาหวานและโรคหัวใจ
แม่เพิ่งมาทรุดและเพิ่งทราบว่าเป็นมะเร็งที่ตับเมื่อไม่กี่วันนี้เองอีกอย่างโปรดเข้าใจด้วยนะคะ กฏของโรงพยาบาลห้ามเยี่ยมเด็ดขาดค่ะ เพราะเป็นการเสี่ยงเอาเชื้อไปติดผู้ป่วย มันจะทำให้แม่แย่ลงไปอีก
ต่ายโทรคุยกับคุณหมอตลอดและกำลังจะกลับไปไม่กี่วันนี้ ตัวเองก็ตรวจเจอเนื้องอกในช่องท้อง และเจอก้อนเนื้อเล็กๆใต้ราวนมซึ่งจะนัดขูดมดลูกอาทิตย์หน้าหลังจากลงพื้นที่วันศุกร์นี้
แล้วตรวจโควิดเสร็จจะขึ้นไปชม. คำว่าให้คนอื่นเลี้ยงขอโทษนะคะนั่นบ้านต่ายค่ะลูกสาวอยู่กับแม่ค่ะและมีน้องที่เป็น ผช.พยาบาลมาดูเเล เราโทรคุยกันแทบจะทุกวัน
แม่ใครใครก็รักไม่ให้กำลังใจก็อย่าซ้ำเติมนะคะไม่อยู่ตรงจุดนั้นคุณไม่รู้
ได้โปรดอย่าคิดแทนต่ายค่ะใจเขาใจเรานะคะ ขอบคุณค่ะ
ส่วนที่บอกว่าสร้างภาพใจบุญใช่ค่ะต่ายพูดอยู่เสมอว่าถ้ามันเป็นภาพที่ดีก็จะสร้างต่อไปมีเวลาว่างย้อนกลับไปถามตัวเองบ้างนะคะว่าทำอะไรให้กับสังคมบ้างนอกจากคอยซ้ำเติมคนอื่น
ล่าสุดวันนี้ที่คุยกับคุณหมอคือคุณหมอบอกว่าถ้ามาจากพื้นที่อื่นตอนนี้ห้ามเยี่ยมแม้เเต่ลูกสาวอยู่ที่นั่นยังเข้าเยี่ยมไม่ได้ถ้ากลับไปตอนนี้ต้องกักตัวมันมีประโยชน์อะไรค่ะ
ทุกวันนี้ต่ายไม่จำเป็นต้องไปอธิบายให้ใครฟังว่าทำอะไรบ้าง ในขณะที่พวกคุณนอนหลับต่ายกับทีมงานยังคงวางแผนเรื่องงานกันอยู่ต่ายเอาเวลาตรงนี้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนช่วยคนอื่นมันผิดตรงไหน
เพราะต่ายก็เข้าไปเยี่ยมแม่ไม่ได้ บางทีคนที่ต่ายช่วยอยู่ตอนนี้อาจจะเป็นญาติของคุณก็ได้เอาเถอะค่ะเราไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะมีจริงหรือเปล่าเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปมันเป็นเรื่องธรรมชาติต่ายเป็นกู้ชีพมา 20 ปีอยู่กับความเป็นความตายมาตลอดรู้ว่าควรทำอะไรเราไม่ใช่เด็กๆกันเเล้วอยากรู้อะไรก่อนจะเขียนอะไรลงไปมาถามต่ายได้ค่ะยินดีตอบเพราะฉะนั้นให้กำลังใจกันดีกว่านะคะใจเขาใจเรา การที่เราไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นเราไม่ควรทำให้มันแย่ลงค่ะเมตตากันเยอะๆและควรยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น..สังคมเราจะได้น่าอยู่
#หน้าที่เรื่องส่วนตัวโตพอที่จะแยกแยะได้ค่ะ
ด้วยความเคารพ
ต่าย สายธาร"
ขอบคุณภาพประกอบข่าวจากเฟซบุ๊ก Saitharn Niyomkarn