บันเทิง

"น้าโย่ง-น้านงค์-น้าพวง" จากเพลงฉ่อย อดีตเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อ ไล่ไปนอนวัด

"น้าโย่ง-น้านงค์-น้าพวง" จากเพลงฉ่อย อดีตเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อ ไล่ไปนอนวัด

25 ก.ย. 2564

"น้าโย่ง-น้านงค์-น้าพวง" 3 น้า จาก "เพลงฉ่อย" ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันกว่า 50 ปี เผยอยากให้มีคนสานต่อเพลงฉ่อยต่อไปเรื่อยๆ พร้อมเผยวีรกรรมเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อขาด ไล่ออกจากบ้านไปนอนวัด

 

คอยสร้างความบันเทิงให้กับแฟนคลับมาตลอด สำหรับ 3 น้า จากตำนานเพลงฉ่อย อย่าง "น้าโย่ง-น้านงค์-น้าพวง" แต่ใครจะรู้ว่าทั้ง 3 คน นอกจากจะร่วมงานด้วยกันแล้ว ชีวิตจริงพวกเขาจะสนิทกันมาก โดยทั้ง 3 เปิดใจในรายการ คุยแซ่บโชว์ ทางช่องวัน 31 ว่า ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันกว่า 50 ปีแล้ว 


ช่วงโควิดแบบนี้ได้รับผลกระทบไหม?
น้านงค์ : จริงๆมันกระทบทุกคน ตอนนี้เงินไม่มีถอนแล้ว
น้าพวง : ร้านก๋วยเตี๋ยวก็พอไปได้บ้าง
น้าโย่ง : ก็โพสต์ขายบ้านที่ศรีราชาเพราะเราไม่ได้ไปอยู่ 

 

\"น้าโย่ง-น้านงค์-น้าพวง\" จากเพลงฉ่อย อดีตเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อ ไล่ไปนอนวัด

 

 

น้านงค์เพิ่งเกิดเหตุการณ์ดื่มน้ำผิดไปดื่มสารเคมี? 
น้าโย่ง : มันตกใจ เราก็รีบไปโรงพยาบาล ตอนนั้นเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว เราก็เลยโพสต์ว่าไอ้นงค์กูไม่อนุญาตให้มึงเป็นแบบนี้นะ มึงตื่นขึ้นมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้ ถามว่าร้องไห้ไหมอารมณ์มันบอกไม่ถูก อารมณ์มันแบบไอนงค์มึงอย่านะ น้ำหูน้ำตาอะไรมันก็ไม่รู้แหละ
น้าพวง : เราก็แบบไอ้นงค์มึงอย่าเป็นอะไรนะ 
น้าโย่ง : ไอพวงก็มาขาบวมอีก 
น้าพวง : ขาเดินไม่ได้ ห่วงเพื่อนก็ห่วง
น้านงค์ : ตอนนั้นหมอบอกไม่น่ารอด ก็เลยกลายเป็นหลอนๆ เวลากินน้ำทุกวันนี้ก็ยังเป็น เปิดกินน้ำที่ตู้เย็นก็ต้องคิดก่อนว่าใช่หรือเปล่า 

 

\"น้าโย่ง-น้านงค์-น้าพวง\" จากเพลงฉ่อย อดีตเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อ ไล่ไปนอนวัด

 

เห็นว่า น้าโย่ง-น้าพวง ต้องกักตัวเพราะเจอ สมรักษ์ คำสิงห์?
น้าโย่ง : เห็นตอนตี 2 เราก็เฮ้ยเพิ่งถ่ายรายการด้วยกันเมื่อวาน ก็รีบหอบผ้าหอบผ่อนออกจากบ้าน ไปนอนที่ออฟฟิศ
น้าพวง : พอรู้ข่าว เราก็ตายแล้วอยู่ในห้องกับเมีย 

 

สุขภาพใครน่าห่วงที่สุด?
น้านงค์ : น้านงค์มีเบาหวาน น้าโย่งมีเก๊า น้าพวงมีทั้งเก๊าและเบาหวาน ก็เป็นห่วงน้าพวงที่สุด 

 

อายุ 60 วิดิโอคอลกันตลอด?
น้าโย่ง : เรารวมตัวกันไม่ได้ เราก็มารวมตัวกันในโซเชียล
น้านงค์ : เราก็เล่นไม่เป็นหรอกพวกโซเชียล น้าโย่งเขาเก่ง เราก็ถามเขาเขาเป็นคนทำ ทำเพื่อให้โทรหากันได้
น้าโย่ง : คุยกันแต่งเพลงฉ่อย คุยเรื่องทำมาหากิน เราก็มีไลฟ์สดคุยกับแฟนๆด้วย 

 

รู้จักกันมากี่ปีแล้ว?
น้าโย่ง : รู้จักกันตั้งแต่อายุ 14-15 ปี 
น้านงค์ : น้าพวงกับน้าโย่งเขารู้จักกันมาก่อนเพราะเล่นลิเกด้วยกัน น้าโย่งอยู่พิษณุโลก น้าพวงอยู่สุโขทัย ส่วนน้านงค์อยู่พิจิตร ทั้ง 3 คนเป็นลิเกหมดเลย 

 

เห็นว่าแม่ยกเพียบ?
น้าพวง : เราเป็นลิเกบ้านนอกตามต่างจังหวัด มันไม่เหมือนลิเกกรุงเทพ
น้านงค์ : อย่าเรียกว่าเป็นแม่ยกเรียกว่าเป็นพี่ อุปถัมภ์ แม่อุปถัมภ์ ก็พอมีเยอะเหมือนกัน ก็มีได้หลักแสน ตอนนั้นมีการแข่งขันพวงมาลัย
น้าโย่ง : เราเล่นเป็นตัวโจ๊ก สมัยก่อนเราผอม ครูบอกว่าจะเป็นตัวโกงก็ไม่น่ามีใครกลัว เสียงเราก็แบบนี้ ก็เลยได้เล่นเป็นตัวโจ๊ก

 

เล่นลิเกกี่ปี กว่าจะมาเป็นตลก?
น้านงค์ : น่าจะ 20 กว่าปี 

 

ใครเคยพกปืนไปเล่นลิเก?
น้านงค์ : ก็เวลาไปเล่นลิเกที่ต่างจังหวัด สมัยก่อนมันน่ากลัวมาก ลิเกเคยโดนปล้น คือบางทีถ้าเราไปเล่นลิเกเรารับเงินจากเจ้าภาพมา ก็มีไอ้พวกที่ไม่หวังดีมันก็รอจ้องตอนขากลับ แต่เป็นปืนที่เล่นลิเกไม่ใช่ปืนจริง ก็จะมีมีดจริง-ดาบลิเกด้วย

 

\"น้าโย่ง-น้านงค์-น้าพวง\" จากเพลงฉ่อย อดีตเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อ ไล่ไปนอนวัด

 

เห็นว่าทั้ง 3 คนมีวีรกรรมเจ้าชู้ จริงไหมน้าพวงเมียไม่ให้เข้าบ้าน จนต้องไปนอนวัดแถวบ้าน?
น้านงค์ : สมัยก่อนบ้านอยู่ใกล้กัน จะกลับบ้านเรา เราก็ต้องผ่านวัด เราก็เห็นน้าพวงเดินสวนมา ถือหมอน เราก็ถามพวงไปไหน เขาก็บอกนอนไม่ได้ที่บ้านร้อนเป็นไฟจะไปนอนวัด
น้าพวง : ที่จริงมันก็จับไม่ได้ แต่คนอื่นไปพูด

 

จริงหรือไม่ มีเด็กพาไปเดินห้าง ซื้อเสื้อให้น้าโย่ง? 
น้าโย่ง : อันนั้นนานแล้ว ก็มีคนซื้อเสื้อให้ เราก็แขวนไว้ เมียเห็นก็เลยฉีกเสื้อทิ้ง เราก็บอกว่าเขาซื้อให้ไม่มีอะไร กับยายสมเป็นเพื่อนกันมาก่อน เห็นใครมาจีบเพื่อนเราก็ไม่ชอบ ไม่อยากให้ใครมาจีบเพื่อน พอเริ่มสนิทก็เริ่มชอบกัน เขาเป็นนางเอกพอเล่นฉากสลบ ตัวโจ๊กต้องไปช่วยไปอุ้มนางเอก เราก็รู้สึกว่าอุ่นดีเหมือนกัน เวลาไปโปรโมทลิเกเขาก็ตักกับข้าวเผื่อเรา ก็เริ่มมีความห่วงใยกัน พอได้เงินค่าตัวเราก็เอาเงินไปฝากเขา คือจีบไม่เป็น เวลาจะใช้เงินก็ไปขอเขา 

 

เห็นว่าเคยซ่อนเงินเมีย?
น้าโย่ง : เราเป็นคนชอบอ่านหนังสือ บางทีจำไม่ได้ว่าอ่านถึงหน้าไหน เราก็เลยเอาเงินคั่นไว้ แล้วเขาไปเจอ เป็นแบงค์พัน 2-3 ใบ คั่นน้อยเดี๋ยวหาไม่เจอ 

 

มาเริ่มเพลงฉ่อยได้ยังไง?
น้าโย่ง : เพลงฉ่อยเราเล่นในคาเฟ่มานานแล้ว เพลงฉ่อยเราก็เริ่มเล่นมาก่อนเล่นลิเก มันก็ติดตัวเรามานานแล้ว เราก็คิดว่า 3 คน เราจะมาเล่นกันยังไงดี ก็คิดว่าเอามุกตลกใส่เข้าไป เพราะ 3 คนก็แต่งกันได้อยู่แล้ว มีงานนึงเขาให้เรา 3 คนขึ้นไปโชว์จะร้องหรือทำอะไรก็ได้ เราก็เฮ้ยเราแต่งเพลงฉ่อยกันอยู่แล้ว เราก็เลยแต่งเพลงฉ่อยขึ้นไปร้อง ก็ได้รับการตอบรับที่ดี แล้วก็มีพี่คนที่รู้จักโทรมาบอกว่าจะเอาไปเข้าในรายการเราก็ดีใจมาก ที่เพลงฉ่อยของเราจะได้มีพื้นที่ 

 

\"น้าโย่ง-น้านงค์-น้าพวง\" จากเพลงฉ่อย อดีตเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อ ไล่ไปนอนวัด

 

กลัวไหมว่าจะไม่มีคนสืบสานเพลงฉ่อยต่อ?
น้าโย่ง : อยากให้มีคนสานต่อไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้แสงมันริบหรี่ลงแล้ว ถ้าไม่มีใครเอาเทียนไปจุดต่อ เทียนเล่มนี้มันก็จะดับลง
น้านงค์ : ถ้าเด็กรุ่นใหม่เขาอยากมาฝึก ประเด็นคือฝึกแล้วไปเล่นที่ไหน มันจะมีพื้นที่ให้เขาไหม ปัญหามันคือตรงนี้ ถ้ามาฝึกแล้วท้องแห้งเขาก็ไม่มีแรงร้อง แต่ตอนนี้ก็มีบ้างของแม่สมจิตร แม่ศรีนวล ศิลปินแห่งชาติ มีเด็กเข้ามาเรียนเยอะ

 

ตอนนี้อายุ 60 แล้ว วางแผนเกษียณงานในวงการบันเทิงอย่างไร?
น้าโย่ง : อย่าพูดถึงเกษียณ ให้พูดถึงกำลังใจและคนดู ถ้าคนดูยังดูอยู่เราร้องไหว 
น้าพวง : ก็เท่าที่เรายังมีกำลัง
น้านงค์ : ก็อยู่ที่กำลัง กับคนตอบรับ ถ้ายังมีเราก็ทำไปเรื่อยๆ หรือคนรุ่นใหม่ๆ อยากจะทำแบบเราก็ทำได้ เพราะเราอยากให้มีคนมาสืบทอด 

 

รู้จักกันมา 50 ปีแล้ว เผยความในใจถึงกันหน่อย?
น้าโย่ง : เราอยู่ด้วยกันมานานแล้วก็เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ เราก็ถามกันตลอด

 

\"น้าโย่ง-น้านงค์-น้าพวง\" จากเพลงฉ่อย อดีตเจ้าชู้ เมียฉีกเสื้อ ไล่ไปนอนวัด

 

ขอบคุณข้อมูลจาก รายการ คุยแซ่บโชว์ ทางช่องวัน 31

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง