"บอล วิทวัส" เตรียมย้ายครอบครัวไปอยู่เยอรมัน เมินดราม่าภาพหวิวกับเมีย | คมชัดลึก

เปิดใจ นักแสดงหนุ่ม "บอล-วิทวัส สิงห์ลำพอง" กับสถานการณ์โควิด-19 สักหน่อย เพราะล่าสุดแว่วว่า ได้รับผลกระทบหนัก จนมีแพลนจะย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ โดยเจ้าตัวเล่าว่า ช่วงโควิดก็หนักหนาสาหัสเหมือนกันครับ ยังดีที่ว่าคุณภรรยายังมีธุรกิจที่จะประคับประคองไปได้ ก็โอเค จริงๆ ก็ยังมีทำงาน มีถ่ายละครอยู่ แต่ด้วยสถานการณ์ มันค่อนข้างที่จะลำบากในการถ่ายทำ กว่าจะถ่ายเสร็จกว่าจะได้ตัดต่อ กว่าจะมีช่วงเวลาที่ได้ออนแอร์ คือสิ้นเดือนนี้ก็จะมีละครอีกหนึ่งเรื่องที่กำลังจะออนแอร์ สุดเล่ห์เสน่หา 

ถามว่างานมันน้อยลงไปจากเดิมมากไหม คือรูปแบบงานมันเปลี่ยนด้วย แล้วก็จากที่เราเคยรับละครช่องซะส่วนใหญ่มันก็เป็นว่าเรารับบานที่เป็นซีรีส์ด้วย แล้วช่องทางในการถ่ายทำ ในการฉายเนี่ย มันก็เป็นช่องที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยในบางเรื่อง สื่อมันหลากหลายมากขึ้น บางทีคนเรามันเสพไม่ครบทุกสื่ออยู่แล้ว

มันเป็นช่วงจังหวะที่เราต้องประคับประคองครอบครัวครับ มันไม่ใช่แค่บ้านเราบ้านเดียว มีหลายครอบครัวที่เจอวิกฤตที่อาจจะหนักกว่าเราด้วยซ้ำไป เราถือว่าเราโชคดี ที่เราผ่านตรงนี้มาได้ แล้วเราก็ยังมีผลงานในวงการบันเทิง ยังมีธุรกิจของภรรยา ที่มันยังซับพอร์ตเราอยู่ได้ ครอบครัวเรายังสมบูรณ์ ไม่มีปัญหาอะไรใดๆ ไม่เคยท้อครับ ไม่ท้ออยู่แล้ว อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ คือเรามีการคิดตัดสินใจ ว่าถ้าเกิดมันไม่ไหวจริงๆ เราก็อาจจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ แต่ว่าตอนนี้มันไม่ได้หนักถึงขนาดนั้นแล้ว ถามว่ายังไปไหม ไปนะครับ แต่คือเราจะไปในความสง่างามมากขึ้น ใช้คำนี้ดีกว่า

เบื้องต้น ภายในปีหน้า ถ้าไม่ติดอะไร ผมจะบินไปที่เยอรมันก่อน เพื่อดูลู่ทาง ว่าลูกเราจะอยู่มุมไหน ไปดูเรื่องบ้านช่องว่าจะอยู่ยังไงด้วย แล้วก็พูดตรงๆ ถ้าเรามีเงินมีทองมากกว่านี้ ผมก็แพลนว่าจะซื้อบ้านที่โน่นสักหลังหนึ่ง แล้วก็เอาลูกๆไปเรียนช่วงไฮสคูล ไปที่นู้นผมกำลังดูธุรกิจอยู่ แล้วก็กำลังปรึกษากับญาติหลายๆ คนด้วย เพราะไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่อยากไป คือก็มีญาติอีกหลายคน เหมือนยกครอบครัวไปเลย มีคุณพ่อแท้ๆ ของภรรยาก็ยังอยู่ที่โน้น เขาก็พร้อมซับพอร์ตเรา แต่ว่ามันติดปัญหา ตรงที่เรายังไม่มีบ้านที่โน้น มันก็เลยลำบาก คือผมเต็มที่กับทุกงานอยู่แล้ว ถ้ามีงานในวงการถ้ามีเข้ามา ผมก็ยินดีทำทุกงานแหละ มันเป็นสิ่งที่เรารักในอาชีพด้วย

ส่วนเยอรมัน คือไม่ได้ไปอยู่จริงจังนะครับ คือเราก็ไปๆ กลับๆ เพราะว่าตัวพ่อแม่เราก็ยังอยู่ที่นี่ เราทิ้งไปไม่ได้ เราได้เป็นวีซ่าตามภรรยากับลูก เพราะลูกกับภรรยาเขาได้สัญชาติที่โน่น มันเลยง่ายหน่อย แต่จริงๆ แล้วในอนาคต ถ้าผมได้ภาษา มันก็ต้องมีการไปสอบ เพื่อให้ได้เป็นพลเมืองก่อน ถึงจะได้เป็นวีซ่าตลอดชีพครับ ตอนนี้พยายามเรียนภาษาเยอรมันอยู่ ยากมากครับ

ครบรอบ 8 ปี ก็ไปเที่ยวแบบเบาๆ พยายามเซฟตัวเองมากที่สุด แล้วก็เป็นช่วงปิดเทอมพอดี พาเด็กๆ ไปพักผ่อนด้วยฉลองครบรอบ 8 ปีด้วย ส่วนเรื่องรูปไม่เคยเบาเลยครับ เขาก็น่ารักของเขาอยู่แล้ว มันอยู่ที่มุมมองของคนเรามากกว่า อีกเรื่องที่จะบอกคือเรื่องของความเหมาะสม เพราะว่าเราก็แต่งงานมีลูกแล้ว ความเหมาะสมตรงนี้มันก็อาจจะเลื่อนขึ้นไปได้อีกระดับหนึ่ง เราไม่ได้แค่แฟนกัน แล้วเราก็มองว่ามันเป็นศิลปะ ไม่ได้วาบหวิวถึงขนาดที่จะรับไม่ได้ขนาดนั้นครับ 

คอมเมนต์ด้านลบ ก็มีบ้าง แต่เราก็ทำใจไว้แล้วแหละ ว่ามันจะต้องมีบ้าง แล้วเราก็คิดว่ามันไม่ถึงขั้น ที่จะเกินเลยความเหมาะสมไป จริงๆตัดสินใจนานมากเลยค่ะ คือภรรยาผมเป็นหัวสมัยใหม่ เป็นฝรั่ง ไม่ซีเรียส แต่ว่าเราเนี่ย ก็คิดพอสมควร กังวลว่ามันจะเป็นแบบอย่างในด้านลบหรือเปล่า แต่ก็มีการพูดคุยกัน ไตร่ตรองแล้ว ว่าเราเป็นครอบครัว มีลูก แต่งงานแล้ว เป็นสามีภรรยาแล้ว จริงๆ เราก็ค่อนข้างจะระวังอยู่แล้ว เวลาจะลงรูปสักรูปหนึ่ง คิดเยอะอยู่แล้ว แต่ถ้ามันมีกระแสด้านลบมากๆ ก็อาจจะต้องขออภัยในคนที่คิดไปในทางลบด้วย ว่าอยากให้มองเป็นศิลปะไปแล้วกัน เราอยากส่งต่อความรักของเราผ่านภาพถ่าย