
"ทิม พิธา" รับสนิท "แอฟ ทักษอร" ฟุ้งมีอะไรคล้ายกัน โบ้ยถามลูกยอมให้มีแฟนไหม
หลังจากเมื่อวันก่อน "แอฟ ทักษอร" ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์กับหนุ่มๆที่ตกเป็นข่าวว่ากำลังเดินหน้าขายขนมจีบอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อของนักการเมืองหนุ่มรูปหล่อ "ทิม พิธา" โดยนางเอกสาวก็บอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะมีปรึกษาเรื่องลูกกันอยู่บ่อยๆ
วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2564) ทีมข่าวคมชัดลึก บันเทิงออนไลน์ ก็เลยไปสอยตัว "ทิม พิธา" มาพูดคุยถึงเรื่องนี้สักหน่อย โดยถามเลยว่าได้ฟังสัมภาษณ์ของ "แอฟ ทักษอร" หรือยัง เจ้าตัวก็บอกเลยว่าทำงานอยู่แต่ในสภาไม่ได้ตามข่าวเลย ทีมข่าวเราก็เลยเล่าให้ฟังว่า แอฟ พูดอะไรบ้าง
เมื่อฟังจบ ทิม ก็เผยว่า เป็นเพื่อนกันจริงตามที่ แอฟ ให้สัมภาษณ์ ซึ่งก็เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว เพราะมีการปรึกษาหารือเรื่องลูกสาว เนื่องจากอายุของน้องปีใหม่ ลูกสาวของ แอฟ ใกล้เคียงกับ น้องพิพิม ลูกสาวของตน โดยเคยถามเรื่องโรงเรียนที่ น้องปีใหม่ เรียนอยู่ เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน แต่ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น แค่เป็นคุณพ่อและคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกัน มีลูกสาวเหมือนกัน เรียกว่ามีอะไรที่คล้ายๆกัน เลยปรึกษาหารือกันเป็นเพื่อน
เมื่อทีมข่าวถามต่อว่าในอนาคตจะมีโอกาสเป็นมากกว่าเพื่อนไหม ทิม ก็เผยว่า ตนต้องเอาลูกสาวมาเป็นหลัก ตนไม่สามารถคิดได้ด้วยตัวเอง ตนต้องถามลูกสาวก่อนว่าเขาจะคิดยังไงหากตนจะมีครอบครัวใหม่ หรือมีคนรักใหม่ เขาจะพร้อมไหม ลูกสาวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของเรื่องนี้ ซึ่งตนคาดว่า แอฟ ก็คงคิดเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามหากการตนมีคนรักใหม่ แล้วลูกสาวมีความสุขมากขึ้น ตนก็คิดว่าความรักคือสิ่งสวยงาม ถึงแม้การแต่งงานที่ผ่านมาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ตนก็เคยไม่โทษความรัก ถ้าหากมีใครเข้ามา แล้วช่วยดูแลกันและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกสาวได้ ตนก็ไม่ปิดกั้นหัวใจ
ทั้งนี้ ทิม พิธา เล่าต่อว่า ถึงแม้ น้องปีใหม่ จะเชียร์ให้แม่มีแฟน แต่ลูกของตนยังหวงอยู่เลย ตนก็เลยอยากใช้เวลากับเขาให้มากที่สุด ตอนนี้ 6 ขวบแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เพราะเขากำลังจะโต การจะคบใครยังไง ตนจะเอาลูกสาวเป็นตัวตั้ง ถ้าลูกสาวให้ผ่าน ก็อยู่ที่เราว่าจะดูแล เขาได้ดีแค่ไหน จะเป็นคู่ชีวิตที่ดีได้ไหม ซึ่งก็คงอีกนาน เพราะตอนนี้ตนโฟกัสงาน ความรักเรื่องรอง
เมื่อถามว่า แอฟ เป็นสาวในสเปคไหม ทิม ก็เผยว่า ในตอนแรกตนชื่นชมเขาในฐานะนักแสดงตั้งแต่เด็กๆ ไม่ต่างจากคนทั่วไป แต่พอต่อมาได้เป็นเพื่อนกัน แล้วรู้สึกว่าพวกตนมีอะไรคล้ายกัน มีการเจอกันตามงานบ้าง หรือที่เล่นของลูกๆบ้าง ก็ทักทายพูดคุยกันและมีความหวังดีให้กัน ตนเข้าใจเขา ว่าเขาคงจะเหนื่อย ทั้งทำงานและดูแลลูกรวมถึงดูแลตัวเอง เพราะตนก็ไม่ต่างจากเขา ซึ่งการที่ได้เจอคนที่มีอะไรคล้ายกัน ก็สามารถเปิดใจได้ง่าย