
ย้อน "สมปอง" ก่อนออกบ้าน เจ๊ติ๋ม" ขออีก 2 ปี มีครอบครัว บั้นปลายขอบวชอีกครั้ง
เปิดบ้านหรูที่ "สมปอง" เข้าอยู่อลังการมาก มีสำนักงานออฟฟิศ สระว่ายน้ำ ครบครัน เผยอีก 2 ปี อยากมีครอบครัว บั้นปลายชีวิต อยากจะบวชอีกครั้ง พร้อมเคลียร์ดราม่าหลังสึก รับช่วงแรกมีเผลอลืม ตั้งสติปรับตัวไม่ทัน
เป็นคนดังที่ถูกหลายคนให้ความสนใจมากในขณะนี้ สำหรับ "ทิดสมปอง" หรือ "สมปอง" โดยเจ้าตัวเปิดใจพร้อมเปิดบ้านหรูให้ชม ผ่านรายการตีท้ายครัว ช่อง 3 ว่าบ้านหรูที่อยู่นี้ เป็นของ "ติ๋ม ทีวีพูล" เจ้าแม่วงการสื่อบันเทิง
"เป็นบ้านพี่ติ๋ม ทีวีพูล คือผมไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ติ๋ม แต่ว่ารู้จักกับลูกน้องพี่ติ๋ม ตอนไปอัดรายการธรรมะ สมัยเป็นพระ เลยแซวเล่นว่า "โทร.หาพี่ติ๋มให้หน่อย" เขาเลยว่ามีห้องให้อยู่ มีออฟฟิศให้ ถ้าเช่าเดือนละแสนห้าเลยนะ แต่นี่ฟรี พอได้ยินคำว่าฟรีเท่านั้นแหละ เราก็เลยเอาเลย หลังจากสึกก็อยู่ที่นี่ครับ แต่เดี๋ยวผมก็ต้องมีบ้าน มีออฟฟิศ เป็นของตัวเอง ออฟฟิศก็จะเป็นสำนักข่าวแม่ปอง แม่ปองของกิน แม่ปองของใช้ เดี๋ยวผมจะทำหนัง เป็นหนังประวัติชีวิตตัวเอง ชื่อว่า "สู้เด้อ" เพราะว่าเกิดมาต้องสู้ทุกอย่างเลย"
"บวชมา 30 ปี เป็นเณร 10 ปี เป็นพระ 20 ปี ก็จะชินกับตอนเป็นพระ ไม่เคยมีใครว่า มีแต่คนเอาใจ พอสึกมาเจอทีมงานติว 3 ชั่วโมง เรื่องการแสดงออก เพราะช่วงแรกหวือหวาเยอะ ทั้งคำพูดคำจา แบบบางอย่างไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่อง ก็ต้องปรับตัวเยอะ เพราะการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ยังติดพฤติกรรมตอนที่ตัวเองเป็นพระอยู่"
"เรื่องสึกจริงๆก็คิดมาเรื่อยๆ แต่มันก็มีงานต่อเนื่องมา เลยทำให้ไม่ได้สึกสักที จนกระทั่งถึงจุดเปลี่ยนก็กับตอน "ไพรวัลย์" ที่มีอะไรเข้ามาเยอะแยะมากมาย เลยทำให้เราสึกดีกว่า ถามว่าเสียดายไหม ไพรวัลย์ไม่เสียดาย แต่ผมเสียดาย เพราะเรารู้สึกว่า ธรรมะมันอยู่ในนี้ มันไม่ได้ไปไหน แต่มี 2 อาทิตย์แรกที่สึกมาแล้วเผลอลืมไป"
"สำหรับดราม่าหลังสึก ตอนออกมาใหม่ๆ ก็เหมือนเด็กที่เพิ่งเคยเจอของเล่น ตอนเทศน์สอนคนเราก็สอนให้เขามีสติ แต่ยอมรับว่าตอนออกมาใหม่ๆ เราก็เผลอสติ ไปช่วงหนึ่ง ทุกอย่างมันแปลกไปหมด ถามว่าบวช 30 ปีได้อะไร ผมว่าได้หมด มีสุข มีทุกข์ มีสรรเสริญ มีนินทา ส่วนตัวรู้สึกโชคดี ที่สึกออกมา มีผู้ใหญ่เมตตา ช่วยเหลืออะไรหลายอย่าง ทั้งที่อยู่และเรื่องงาน ตอนนี้ทำงานทุกวัน กลับบ้านไปหาแม่ทุกเดือน ซึ่งตอนนี้คุณแม่มีพี่น้องดูแลอยู่ ตอนที่กราบแม่น้ำตาจะไหล เพราะไม่ได้กราบแม่มา 30 ปี"
"อีก 2-3 ปี ผู้จัดการอนุญาตให้มีครอบครัวได้ ส่วนตัวผมอยากมี ถามว่ามีโอกาสจะกลับไปบวชไหม พระอาจารย์อุเทน วัดท่าไม้ บอกสุดท้ายบั้นปลายชีวิตต้องกลับไปบวช คงเคลียร์ทุกอย่าง ลูกโตแล้ว ผมก็อาจกลับไปเป็นหลวงตา หลวงปู่แก่ๆ ซึ่งผมก็รู้สึกแบบนั้น ผมคิดถึงผ้าเหลืองมากครับ เพราะ 10 ปีที่แล้ว อยากสึกตามเพื่อน คนจะด่าไหม คนจะผิดหวังไหม ผมกะทิ้งโทรศัพท์แล้วไปอยู่กับแม่เงียบๆ ไม่คิดว่าจะออกมาเจอทุกคน มีนักข่าว จนต้องตั้งทีมเซ็นสัญญา มีทนาย ถ้าผมทำเองคงไม่รู้เรื่อง ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนผม"
ด้าน "ติ๋ม ทีวีพูล" บอกว่า "บ้านหลังนี้ไม่ได้อยู่ ไม่ได้มีชีวิตชีวามานานมาก ตั้งแต่โดนกระแสดิจิทัล ตอนนั้นเกือบจะกระโดดตึก แต่ตอนนั้นมีธรรมะ หวังว่า สมปอง จะมาต่อธรรมะให้ ตอนนั้นประมูลไป 2 ช่องหนักมาก เลยไปอยู่เขาใหญ่ ไม่กลับกรุงเทพฯ มา 6 ปี ก็เปลี่ยนจากสายบันเทิงเป็นสายธรรมะ กับสมปองไม่ได้รู้จักกันยาวนาน แต่ว่าได้ยินชื่อเสียง ที่ให้สมปอง เพราะพี่ไม่ได้อยู่เลย บ้านร้าง ลูกพี่ก็ไปอยู่คอนโด เขาไม่เอาบ้าน คิดว่าบ้านควรมีคนอยู่ ก็รีโนเวทใหม่ จะได้มีแรงบันดาลใจ กับสมปองก็เป็นห่วง คอยสอนเขาว่า การเมืองในวงการสงฆ์ ยังไม่เท่ากับข้างนอก ข้างนอกน่ากลัวกว่าเยอะ ส่วนทีวีพูล ตอนนี้ให้ลูกชายคนเล็กดูกิจการทั้งหมดแล้ว"