เปิดชีวิต "เจ้เล้ง" ฟาด 700 ล้าน เลิกอดีตสามี แฉแหลกชาตินี้ไม่ขอเผาผี
ออกมาเปิดใจเล่าชีวิตหลังเป็นหม้าย หลัง "เจ้เล้ง" หรือ "เจ้เล้ง อารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร" ยอมฟาด 700 ล้าน หย่าอดีตสามี พร้อมแฉไม่เคยได้จับเงิน ถูกฮุบโยกเข้าบัญชีญาติพี่น้องอีกฝ่ายเดือนละ 4-5 ล้าน จนต้องตัดสินใจเลิก ก่อนลั่นชาตินี้ไม่ขอเผาผี
โดยเมื่อวานนี้ (10 กุมภาพันธ์ 65) "เจ้เล้ง" เจ้าของอาณาจักร "เจ้เล้ง ดอนเมือง" ได้มาเป็นแขกรับเชิญสุดพิเศษร่วมพูดคุยกับ 2 พิธีกร นักแสดงดัง อย่าง "ธัญญ่า ธัญญาเรศ" และ "พีเค ปิยะวัฒน์" ในรายการ "คุยแซ่บ Show" ซึ่งเจ้าตัวยอมเปิดใจเล่าชีวิตหลังการเป็นหม้าย ยอมฟาดเงิน 700 ล้าน เลิกอดีตสามี ลั่นชาตินี้ไม่ขอเผาผีกัน พร้อมเมินคนเปรียบเทียบ "พิมรี่พาย" แม่ค้าฝีปากกล้า
(คำถาม) : เรื่องอดีตสามี ฟาดไป 700 ล้านไม่เผาผีกันเลย?
"เจ้เล้ง" : จบแล้วคือจบ เจ้เล้งเป็นคนเด็ดอยู่อย่างนึง เป็นคนเฉย ๆ เงียบ ๆ อดทน เมื่อสุดขีดความอดทนให้ไปแล้วก็คิดว่าทิ้งน้ำไปคือจบ ไม่เคยอยากจะรู้ข่าว ไม่เคยอยากจะถาม เหมือนว่าในโลกนี้ไม่มีเขาอีกแล้ว
(คำถาม) : คบกันมา แต่งงานอยู่ด้วยกันมากี่ปี?
"เจ้เล้ง" : 40 กว่าปี
(คำถาม) : แสดงว่าต้องหนักมาก 40 กว่าปี ไม่เหลือความผูกพันเลย?
"เจ้เล้ง" : ไม่ค่ะ เพราะว่าพยายามทน ความที่เราเป็นคนรู้จัก เราจะไปเล่าให้ใครฟังให้อายทำไม จริงๆ เวลาเก็บไว้เยอะ ๆ มันอึดอัด พอถึงเวลามันขาดก็คือขาดไปเลย
(คำถาม) : เริ่มปีที่เท่าไหร่ ที่เรารู้สึกว่าเราต้องทนอยู่?
"เจ้เล้ง" : จริง ๆ สัก 2 ปีก็รู้สึกแล้ว คุณแม่เจ้เล้งเองแรกเลยสัก 5-6 ปี เขาบอกว่าจะทนทำไมลูก เขาก็เป็นหมันลูกไม่มี สายใยไม่มี แต่เราก็อยากเป็นผู้หญิงที่ทำมาหากิน ไม่อยากออกสังคม บอกแม่ว่ามีผัวคน
เดียวก็ซวยแล้วนะ ถ้าเกิดไปมีหลายคน เลิกแล้วมีอีกหนูว่าซวยกว่าเดิม ทนๆ มันไปเถอะ แก่ๆ อาจจะดีขึ้น ก็คิดคำนี้ คือเขาไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดอยู่กันไม่ได้ เขาไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เจ้าชู้แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง คือเขาไม่เอาใครเลยคนรอบข้าง มองทุกคนเป็นศัตรูหมด แม้แต่เราบางทีเขานอนตื่นขึ้นมา อาจจะฝันอะไรผิดไปหน่อยเจ้เล้งก็เป็นศัตรูของเขาเหมือนกัน
ร่วมโหวต Popular Vote (มหาชน) "คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 18" คลิ๊กที่นี่
(คำถาม) : ด้วยประสบการณ์ของเจ้เล้งเห็นบอกว่าอยากสอนผู้หญิงด้วย ?
"เจ้เล้ง" : ผู้หญิงทุกคน หรือผู้ชายทุกคน ผู้ชายแต่งงานมีเมีย กับผู้หญิงแต่งงานมีสามี คนเราสิ่งที่สำคัญคือเราต้องรักตัวเองก่อน อย่าไปทุ่มให้เขาจนหมด เวลามีอะไรขึ้นมาก็ไม่เหลืออะไรเลย เหมือนบ้าไปเลย ส่วนเจ้เล้งนี้ค่อย ๆ ขีดเส้นหนาไปทีละเส้น จนไม่มีที่ขีดละ มันก็คือหมด ก็ทำใจเตรียมตัวไว้ เราเป็นคนจริง ๆ คือเจ้เล้งเป็นคนทำธุรกิจ ไม่มีใครเชื่อนะ เจ้เล้งไม่เคยจับเงินเลย อดีตสามีเป็นคนถือเงินทั้งหมด เพราะเขาเป็นนักบัญชี คนทำบัญชีก็ทำไปเราก็หา ๆ เรารู้ยอดใหญ่ แต่จริง ๆ ยอดมันใหญ่กว่านั้น ทุกเดือนเขาจะเบี่ยงไป 4-5 ล้าน เราไม่รู้เรื่องเลย
(คำถาม) : เบี่ยงไปไหน ?
"เจ้เล้ง" : เบี่ยงไปบัญชี ไปลงชื่อพี่ น้องเขา เราก็ไม่รู้ จนครั้งหลังสุดผิดปกติคือเยอะเกินเหตุละ ทำไมสภาพคล่องขาดละ เราขายของขนาดนี้เราไม่เคยต้องหมุนเงินเลย แต่สภาพคล่องก้อนนี้ไม่เหลือได้ยังไง ไปถอนเงินฝากประจำ เจ้เล้งทุบโต๊ะเรียกสมุดบัญชีคืน เจ้เล้งไม่เคยเก็บสมุดบัญชีเอง ไม่รู้ว่ามีกี่เล่ม จนจะหย่ากันให้เอาสมุดบัญชีมาคืน ถึงรู้ว่ามี 137 เล่ม
(คำถาม) : ตัดสินใจนานไหมกว่าจะแบบเอาไป 700 ล้าน ?
"เจ้เล้ง" : ไม่ใช่เงินสดทั้งหมด 700 เงินสดจริง ๆ ให้เขาไปแค่ 300 ล้าน แล้วเขาก็ขอทรัพย์สินไปส่วนนึง แล้วเรากลับไปซื้อคืน อพาร์ตเมนท์เจ้เล้งทำเองเขาจะเอาก็ให้ พอให้ไป 15 วัน ก็ขายทิ้ง พอเรารู้ เรา
เสียดายซื้อคืน ให้ที่ดินก็ขายทิ้งก็ซื้อไปอีก 150 ล้าน ให้ที่ดินเชียงใหม่ เขาค้อมีหมด ที่ดินตรงนั้นมูลค่า 3-4 ร้อยล้าน เขาก็ขายหมดเลย
แล้วเขาทอยเงินเก่ง ทุกปีจะมีการปันผลคนละกี่สิบล้าน อย่างพีเคปันไปครึ่งนึง พี่ก็ปันมาครึ่งนึง พีเคเข้าบัญชีส่วนตัวพีเค แต่ของพี่มันเอาเข้ากองกลาง เฉพาะเสียภาษีปันผลปีนึง 6-7 ล้าน สมัยก่อน 6-7 ล้านซื้อบ้านได้หลังนึง ทำไมจะไปปันผลละ ทำไมไม่ซื้อเป็นที่ดินขึ้นมา ไม่ซื้อเป็นทรัพย์สินขึ้นมามันก็เป็นการทอยเงินออกเหมือนกัน ไม่มันจะปันผลอย่างเดียว จนจะหย่ากันมันยังปันผลนะ ดีนะตบโต๊ะทัน ไม่งั้นไม่
เหลือนะ
(คำถาม) : แต่จริง ๆ เจ้เล้งไม่ได้มีลูก ?
"เจ้เล้ง" : ไม่มีลูก เป็นหลานลูกพี่ชายเอามาเลี้ยง จริงๆ มี 4 แต่อีกคนไม่ได้สมบัติ เพราะว่าเขาไปเอาทางพ่อเขา ก็แยกกันไป เขาอยู่ฝั่งโน้น
(คำถาม) : อันนี้จริงไหมที่เจ้เล้งเขียนพินัยกรรมให้ทั้ง 3 คน เรียบร้อยแล้ว ?
"เจ้เล้ง" : เรียบร้อยค่ะ ลูกเจ้เล้งจะดีอย่างนึงเป็นผู้หญิงหมด ตอนเลี้ยงเจ้เล้งไม่เอาลูกผู้ชายเลย เพราะเจ้เล้งรู้ว่าถ้ามีผู้หญิง ผู้ชาย มันก็จะกบฏกัน แต่บังเอิญลูกผู้ชายของเจ้เล้งเป็นเด็กดี คนโตเขาจะเป็นพี่ที่ดีของน้องหมด เขาแต่งงานไปแล้ว เจ้เล้งเวลาเลี้ยง ไม่ได้เลี้ยงเหมือนคนอื่น จะเอาเงินลูกเอาไปเลยก้อนนึง ไม่เคย เจ้เล้งให้เงินเดือนเท่านี้ ต้องไปบริหารกันเอง ไม่พอขอได้ไหม เขาไม่กล้ามาขอ เวลาไม่พอมันก็ไปหาพี่ใหญ่มัน ดูแลน้อง ลูกเขยก็ดีด้วย น้องทุกคนจะเกรงใจพี่คนโต แล้วพี่คนโตไม่เคยเอาเปรียบน้อง น้องขาดอะไรบอกพี่ได้หมด
(คำถาม) : เคยไลฟ์ไปสวนทุเรียนมีคนเข้ามาดู 2-3 ล้านคน ?
"เจ้เล้ง" : จริง ๆ การดูสวนทุเรียน การทำธุรกิจแบบนี้ บางคนก็ด่าในไลฟ์ว่าแก่แล้ว มีเหรียญ 10 เหรียญเดียว จะทำไปทำไม บางคนก็ด่าว่ามึงจะได้ดูก่อนตายหรือเปล่าทุเรียนอะ พอพูดอย่างนั้นเราก็ยิ้ม ๆ บอกว่าได้ดูสิ ข้าง ๆ ต้นใหญ่ใช่ไหม เราก็ถามว่าขายไหม เขาขายเราก็ซื้อเลย คนขายก็งง เราก็บอกซื้อสิ ซื้อให้ fc ดูว่ายังไม่ทันตายกูได้ดู
(คำถาม) : เวลาโดนคนไม่รู้จักคอมเมนต์แย่ ๆ เสียใจไหม ?
"เจ้เล้ง" : ก็เสียใจนะคะ แต่คิดว่าเขาอาจจะมีความคิดกับเราคนละทาง เจ้เล้งด่าตอบไหม ไม่ด่าคะ ใครด่า ด่าไป แต่วันหลังเจ้เล้งไลฟ์เหน็บทีละนิดคืนหน่อย
(คำถาม) : ประโยคนี้เจ้เล้งเคยพูดไหม ของดีไม่ต้องแหกปาก ?
"เจ้เล้ง" : จริงค่ะ ของดีไม่ต้องแหกปาก เอาคุณภาพตัวเราขาย
(คำถาม) : เจ้เล้งเป็นรุ่นพี่ในวงการขาย ที่ตามมาตอนนี้ก็พิมรี่พาย เจ้เล้งมีอะไรจะบอกพิมรี่พายหรือเด็กรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จเหมือนเจ้เล้งไหม ?
"เจ้เล้ง" : จริง ๆ พิมรี่พายเขาเก่งอยู่แล้ว คือเดินทางคนละทางกัน ขายของก็คนละแบบกัน เจ้เล้งขายของแบบไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ เจ้เล้งไม่กล้าอธิบายที่มันเยอะหรือเกินความจริง ไม่กล้าทำอะไรที่จะมาตอบ
โจทย์ทีหลัง โจทย์แรกที่เจ้เล้งขายออกไปปุ๊บ คำตอบคือใช่ ไม่มีมาใช่ ไม่ใช่ ด่ากันไม่มี เวลาขายของไม่เคยโดนด่า เจ้เล้งไม่ได้รับโฆษณาให้ใคร ของที่เจ้เล้งขายส่วนมาก เอาเขามาแล้วเทสเอง เราก็จะได้ลูกค้าที่
เป็นลูกค้าจริง ๆ ที่ซื้อต่อเนื่อง ไม่ได้ซื้อเพราะเจ้เล้งพูด ๆ ไปแล้วหาย ลูกค้าเจ้เล้งขายเป็นร้อยก็จะกลับมาอีกพัน ขายเป็ยพันก็จะกลับมาอีกหมื่นก็จะเป็นแบบนั้นมากกว่า ไม่ได้ทำให้มันดัง ๆ แล้วหายไป
(คำถาม) : จริงไหมที่คุณพิมรี่พายได้ติดต่อธุรกิจกับเจ้เล้งด้วย ?
"เจ้เล้ง" : ก็เคย เลขาเขาโทร. มา แต่เราไม่ได้ขายกันเพราะว่าเจ้เล้งไม่มีสต็อกสินค้าที่จะขายเขาขนาดนั้น
(คำถาม) : เจ้เล้งเป็นคนมีองค์ ?
"เจ้เล้ง" : จริง ๆ เหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวโดยที่เราไม่รู้ตัว เราก็ไม่สามารถที่จะเสาะหาท่านได้ แต่ทุกครั้งที่เรามีเรื่องทุกข์ใจหรือมีอะไร เราก็แค่ไปสวดมนต์ในห้องพระ แล้วจะมาเข้าฝัน สมัยก่อนเจ้เล้งขายของหนีภาษี เจ้เล้งไม่เคยจ่ายส่วย ไม่เคยจ่ายเงินใครเลย พอจะมีโดนจับ คืนนี้ตี 3-4 กำลังมึน ๆ หลับ มาเข้าฝัน เก็บของเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวจะมีคนมาตรวจ เราก็ลุกขึ้นมาปลุกเด็กทั้งบ้านเก็บของ ตอนเช้ามีมายืนหน้าบ้านเต็มเลย
(คำถาม) : องค์ที่อยู่กับเจ้เล้งคือองค์ไหน ?
"เจ้เล้ง" : จริง ๆ เจ้เล้งไม่ชอบไปวัด ชอบสวดมนต์ที่บ้าน วันนึงพระพิฆเนศหน้าบ้านหาย เขาบอกต้องไปเช่าใหม่ เราก็ถามต้องไปเช่าที่ไหน นั่นไงวัดแขก เราก็ไปเลย คือที่เราเห็นแบบนี้เลย แต่งตัวแบบนี้ แต่งตัวดำ ๆ ก็เป็นเหมือนพราหมณ์ จริง ๆ เคยครั้งนึงนั่งวิปัสสนาครั้งแรกเลย แต่งงานมีครอบครัวแล้วไม่ค่อยสบายใจ ก็ตัดสินใจว่าจะทำไงดีลองหาความสงบด้วยการนั่งวิปัสสนาในห้องนอน นั่งปั๊บมีความรู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้นลอยลง เหมือนคนที่เบาไปหมด สักพักมีคนมาจูง มีพราหมณ์ไปนั่งสมเด็จพระสังกะจายกลางทุ่งนาใหญ่ถามมาทำไม อยากรวยค่ะ กลับไปเอ็งจะรวย แล้วจิตก็กลับมาเลย แล้วตั้งแต่วันนั้นก็มีองค์นั้นอยู่ในตัวตลอด
(คำถาม) : องค์นี้เป็นคนที่บอกให้เจ้เล้งซื้ออาณาจักรไว้เลยไหม ?
"เจ้เล้ง" : ค่ะ เขาจะบอกทุกครั้ง อย่างร้านเจ้เล้งที่ขายอยู่ปัจจุบัน ก่อนจะมาซื้อตรงนี้ เขาบอกมังกรเปลี่ยนหัวแล้วนะ มีที่ใหม่กำลังจะทำไปทำเลย ตรงนี้จะได้เงินมหาศาล ก็จริง ๆ เงินนี่ไหลมาเทมาแบบเก็บไม่ทัน อันที่สองอพาร์ตเมนท์นี่วันนั้นสนามบินย้ายไปใหม่ ๆ เราก็แบบจากรถเคยติดมาก ๆ มันโล่งไปหมดเลย ไปยืนมองน้ำตาไหล ทำไมอยู่ ๆ มันเปลี่ยนได้ไวขนาดนี้ แล้วใจไม่ค่อยดี มาสวดมนต์ไหว้พระแล้วกลางคืนนอนสักระยะนึง วันนี้จะมีคนมาหาช่วงบ่าย ๆ เขาจะเอาที่มาขาย ซื้อเขาไว้นะ ฝันก็ลืมไปเหมือนมีคนมาพูดข้างหู
พอตอนบ่ายก็ลงมาขายของข้างล่าง เอ้า...พี่ไปไหนมา ที่พี่สู้คดีกันพี่แพ้ไหม หรือพี่ชนะ ชนะแต่ที่กำลังโดนยึด เพราะไม่มีเงิน แล้วขายเท่าไหร่ 7 ปีที่สู้คดีกันยังขายเท่านั้นไหม เขาบอกขาย พี่ก็เลยไปดู
แล้วให้ทนายไปเช็กว่าคดีจบกันจริงไหม จบจริง ตอนนั้นเจ้เล้งก็ซื้อเขามา 100 กว่าล้าน เขาบอกเขามีอพาร์ตเมนท์อยู่ที่เอราวัณ ทัช เป็นหนี้เขาอีก 80 ล้าน ขายยังไง เท่าไหร่ หมดนี่ขายฉันเท่านี้ไหมละ เพิ่มเงินให้หน่อยก่อสร้างให้เสร็จ แล้วต้องไปโอนจากเอราวัณ ทัช มาให้เจ้เล้งเขาก็โอนมาให้ ซื้อเขามาตรงนั้นน่าจะ 117 ล้าน ทั้งหมด 7 แห่ง ก็เอามาลองทำดู
แรก ๆ ไม่ค่อยได้ไปดู ทำไมเป็นแบบนี้ก็วางแผนใหม่ จริง ๆ ตรงนั้นทำ 5 ปีก็ได้ทุนคืน มันเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้สมอง ไม่ต้องไปแย่งชิงกับใคร ต่อไปธุรกิจทุกคนที่ทำจะลำบาก เพราะโลกมันเปลี่ยนเร็ว
ถามว่าออนไลน์ดีไหม ขายออนไลน์ดี แต่ต้องเป็นคนที่เก่งจริง ๆ คนที่ไม่เก่งจริงคือชกชิงได้มาปั๊บก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เราก็ไม่ใช่แบบนั้น เราค่อนข้างจริงจังกับการทำธุรกิจ วันนั้นทำอยู่ 7 แห่ง มีคนบอกว่าตรงนี้
เขาจะขาย เราก็เลยเรียกมาคุย ไป ๆ มา ๆ เขาขายให้ 190 ล้าน เจ้เล้งก็ซื้อเลย ซื้อเก็บไว้สัก 2 ปี 20 ไร่ เราก็คิดว่านิดเดียว เพราะเราทำทีละตึก ทั้งหมด 46 ตึก แต่เรายังไม่ได้สร้างหมด เราสร้างตึกแรกก่อน สร้างเสร็จคนเช่าเต็มเลย งั้นทำอีก 5 ตึก คนก็เช่าเต็ม ก็เพิ่มไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เป็น 28 ตึก
(คำถาม) : ตอนที่เจ้เล้งเอาเงิน 700 ล้านให้อดีตสามี พราหมณ์ท่านนี้เป็นคนบอกให้เลิกไหม ?
"เจ้เล้ง" : ตอนกลางคืนคืนนึง ตอนที่วีด ๆ อยู่ ก็มาเข้าฝันว่า ทำไมไม่เลิกละ อยู่ด้วยกันมันก็เหมือนไฟดวงนึงที่ไม่รู้วันไหนจะระเบิด เขาก็จะระเบิดทุกวันไม่เบื่อเหรอ เงินที่มี ทรัพย์สินที่มีเยอะแยะ โฉนดเป็นตู้
เซฟใหญ่ ๆ เนี่ย ถามจริง ๆ เคยหยิบมาดูบ้างไหม มันก็เหมือนกระดาษวอลเปเปอร์ที่ติดข้างฝาใช่หรือเปล่า เคยหยิบเงินออกมานับไหมว่าเขาเอาไปเท่าไหร่แล้ว เคยดูโฉนดไหมยังมีครบหรือเปล่า จะเก็บไว้ทำไม
ตัดสินใจให้เขาไปซะ ในชีวิตบั้นปลายเราไม่มีไฟ เราไม่มีความร้อนอยู่ในตัวเรา เราจะไม่มีความสุขกันเหรอ โกยไว้ทำไมเยอะ ๆ
ถ้าเลิกแล้วจะดีกว่าตอนที่อยู่เยอะเลย ชีวิตบั้นปลายจะมีความสุขมาก ๆ ให้ตัดสินใจเอาว่าจะเอาวอลเปเปอร์หรือจะเอาความสุขกับตัวเอง ท่านพูดยาวเลยนะคะ พอตื่นขึ้นมาก็เรียกลูกสาวคนโตมาว่ามัน
อยากได้อะไร สิ่งที่เราให้มันได้ อันไหนที่ไม่ให้ก็ไม่ให้ ตอนที่จะหย่ากันเขาก็ไปอิงนักการเมือง ให้นักการเมืองมาข่มขู่เจ้เล้งว่าถ้าไม่เลิก จะไม่เหลืออะไรเลย บอกก็ให้มันรู้ไปถ้าเป็นคดีความแล้วมันไม่เหลืออะไร
มันเอาเจ้เล้งได้ขนาดนั้น ลองดูสิก็เราไม่ได้ผิดอะไร เสร็จแล้วคนนั้นจะเอาที่ดินตรงลาดกระบัง เจ้เล้งยังมีอีก 14 ไร่ครึ่งตรงนี้
จริง ๆ มีคนมาขอซื้อ 600 ล้าน อดีตสามีบอกถ้าชนะเขาจะขอที่ดินอันนี้ มีคนบอกเจ้เล้งมีคนไปรางวัด เราก็ไปทำไม ก็งง ๆ ปรากฏว่าพอมาดู ๆ อพาร์ตเมนท์ 9 แห่งให้ บ้านอีกตั้งหลายหลังให้ แต่ที่ดินอันนี้ไม่ให้ ถ้าจะเอาที่ดินอันนี้ก็สู้คดีกันแล้วกัน ดูสิใครจะได้ มันก็ยอมถอย พอยอมถอยอยากได้อะไรบอกมาสิ่งที่ให้ได้ เอาที่บนเขาค้อ ที่อยุธยาหลายสิบไร่ เอาที่เชียงใหม่ เอาตึกแถว เอาอพาร์ตเมนท์ 9 แห่ง โอเคให้มันไป แล้วเงินสดตอนแรกจะเอา 600 ให้ 300 แล้วก็จบ รวมทรัพย์สินก็ประมาณ 700 กว่า ที่เอาไปก่อนหน้านั้นอีกไม่รู้เท่าไหร่
(คำถาม) : ถ้าเกิดพราหมณ์ท่านนั้นไม่ได้มาบอกเราเรื่องนี้ ?
"เจ้เล้ง" : ก็สู้กันไป แต่ท่านพูดว่าสู้กันไป ถ้าชนะแล้วจะเอาเขาอีกเหรอ เออ...ก็จริงของเขา เราก็เลยจบก็จบ
(คำถาม) : มีความเสียดายอะไรบ้างไหมจากที่ใช้ชีวิตอยู่กันมากว่า 40 ปี ?
"เจ้เล้ง" : ความเสียดายมันไม่เหลือเยื้อใยตรงที่ว่าเท่าที่เราอยู่ด้วยกัน 40 ปี เขาไม่มีความดีที่จะให้เรามาทบทวนได้เลย มีอยู่วันนึงเจ้เล้งมีของเก็บไว้บ้านนี้เป็นของหนีภาษี มีคนไปด้อม ๆ มอง ๆ เราก็กลัว ทุกทีเราเป็นคนทำเองหมด เขาทุ่มนึงนอน เรานอนตี 3-4 พอ 7 โมงเช้าเราตื่น ใช้เขาไปขับรถไปขนของหน่อย ไม่กล้าไป เพราะคนมองเห็นเรานี่มันตัวเต็งเลย
ก็ให้เขาไปทำ กลับมาบ้านมาทะเลาะ มึงรู้ไหม มึงให้กูขับรถ กูขับไปร้องไห้ไป กูเรียนมาขนาดนี้กูต้องมาขับรถขนของหนีภาษีให้มึง เราก็ เอ้า...แล้วชีวิตที่มึงอยู่ทุกวันนี้ เงินที่มึงใช้ก็เงินเหี้- ๆ ที่กูหานี่แหละ มึงไม่อายบ้างเหรอ มึงใช้เงินเหี้- ๆ อย่างนี้ มึงกล้าพูดนะ เจ้เล้งก็ด่าอย่างนี้เลย กูไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ต้องทำงานนี้ แต่กูรู้สึกเสียใจที่ต้องเลี้ยงคนเหี้- ไว้ในบ้าน
(คำถาม) : แล้วแบบนี้พราหมณ์ได้บอกเรื่องอนาคตไหมว่าต้องไปอย่างนี้ ๆ ?
"เจ้เล้ง" : มีค่ะ คือองค์เจ้เล้งดีอย่างนึงคือเจ้เล้งไม่สามารถติดต่อท่านได้เลย แต่ท่านจะมาเป็นระยะ ๆ ทำนี่เสร็จแล้ว มีที่อยู่ระยอง ทำไมไม่ทำสวนทุเรียนละ ไปทำดูสิ จริงให้เจ้เล้งไปขุดดินยังทำไม่เป็นเลย เราก็
อ่านหนังสือ แล้วดูเอา สอนเขามั้ง เขาสอนเรามั้ง มันก็สนุก พอขาย ๆ ที่ก็ซื้อ ๆ ซื้อจนเต็มตรงนั้นมันไม่มีทางขยายโอเคกูพอแค่นี้
ขอบคุณที่มาจากรายการ คุยแซ่บ Show