ตรวจเรือหรูถึงกับอึ้ง "คดีแตงโม" อุบัติเหตุจากความประมาท หรือเป็นแบบว่า?
จิ๊กซอว์ต่าง ๆ เริ่มประติดประต่อมากขึ้นแล้ว กับปมการพลัดตกเรือของ "แตงโม นิดา" นักแสดงสาวชื่อดัง จนเป็นที่มาของ "คดีแตงโม" เจ้าหน้าที่เร่งทำงานทุกภาคส่วน ด้านเจ้าหน้าที่อีกส่วนยังเผยข้อมูลความคืบหน้าว่า ตรวจเรือต้นตอแล้ว ถึงกับอึ้งทั้งข้อมูลเรือ และ DNA ที่เจอ
และแล้ว 2 หนุ่มอย่าง นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ "ไฮโซปอ" กับ นายไพบูลย์ ตีการจนานันท์ หรือ "โรเบิร์ต" ก็ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรีแจ้งข้อกล่าวหาและได้รับการประกันตัวไป แต่ในขณะที่นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของดาราสาว "แตงโม นิดา" พัชรวีระพงษ์ ได้เดินทางมายังโรงพัก สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อนำเอกสารลับเรื่องการถูกข่มขู่พร้อมหลักฐานสำคัญมาให้กับทางพนักงานสอบสวน
แต่ทั้งนี้ยิ่งใช้เวลานานในการตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวโยงกับกรณีการตกแม่น้ำเจ้าพระยาของ "แตงโม นิดา" นักแสดงสาวชื่อดัง ก็ยิ่งได้มูลเพิ่มขึ้นเชื่อมโยงไปยังต้นสายปลายเหตุ เรียกว่าปมสงสัยของชาวเน็ตค่อย ๆ คลี่คลาย หลังเจ้าหน้าที่ได้ เข้าตรวจสอบ "เรือสปีดโบ๊ตสีขาว-น้ำเงิน" ที่นักแสดงสาว "แตงโม นิดา" ได้พลัดตกจากเรือลงไปสู่แม่น้ำ จนต้องระดมพล ปิดน่านน้ำเพื่อควานหาร่างนานกว่า 12 ชั่วโมง
ซึ่งข้อมูลในส่วนของเรือลำดังกล่าวที่ "แตงโม นิดา" ประสบอุบัติเหตุนั้น พอได้รายละเอียดแล้วถึงกับอึ้งเลยทีเดียว
สำหรับข้อมูลที่ถูกเผยแพร่นั้นชี้ไปว่า "เรือสปีดโบ๊ต สีขาว-น้ำเงิน" ที่ "แตงโม นิดา"นักแสดงสาว และคณะ ใช้นั่งจนเกิดเรื่องราวไม่คาดคิดนั้น เป็นเรือสำหรับคน 11 คนนั่ง มีกำลังขับ 300 แรงม้า ซึ่งราคาตามข้อมูลอยู่ที่ 4 ล้านบาท เรือลำนี้มีห้องน้ำอยู่บริเวณด้านหน้าฝั่งซ้ายคนขับ แต่ทว่าห้องนำ้นั้นไม่สามารถใช้ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ พฐ. เข้าตรวจสอบนั้นพบถังเก็บความเย็นสีขาวขนาด 30×35×30 เซนติเมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บ DNA และ ลายนิ้วมือที่ตรวจพบบนเรือลำดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ประกอบ
ตามรายงานนั้น ยังบอกอีกว่า "ยังพบ "แก้วไวน์" ซึ่งยังมีคราบไวน์สีแดงหลงเหลืออยู่ พร้อมกับตรวจสอบลังแช่ไวน์และเก็บลายนิ้วมือทั้งทั้งลำเรือ พร้อมทั้งสอบปากคำพนักงานในอู่เบื้องต้นถึงไทม์ไลน์ของการเดินเรือลำนี้ ทราบว่าออกจากอู่เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวันที่ 24 ก.พ.65
ทั้งนี้ จากหลักฐานที่ได้ ทางพนักงานสอบสวนยืนยันตรงกับก๊วนกลุ่มเพื่อน "แตงโม" ที่ร่วมลงเรือจริง และขณะนี้เตรียมที่จะจำลองเหตุการณ์ทั้งหมดในขณะเกิดเหตุว่าแต่ละคนอยู่ในจุดที่ยืนหรือนั่งก่อนและหลังในช่วงเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อนำไปประกอบสำนวนที่ได้สอบคำให้การไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนสรุปคดีว่าเป็นอุบัติเหตุหรือมีอะไรแอบแฝงมากกว่านั้น