รู้หรือไม่ "แผลเก่า" ที่ "สรพงศ์" แสดงนำ ถูกยกย่องเป็นภาพยนต์คลาสสิคของโลก
สรพงษ์ ชาตรี เคยให้สัมภาษณ์พูดถึงผลงานภาพยนตร์ ‘แผลเก่า’ ที่เขาเล่นเป็นพระเอก ถูกยกย่องจากผู้กำกับภาพยนตร์และนักวิจารณ์ภาพยนตร์ทั่วโลก ให้เป็น 1 ใน 360 ภาพยนตร์คลาสสิคของโลก
วงการบันเทิงได้สูญเสียนักแสดงชั้นครูและพระเอกตลอดกาล ‘สรพงษ์ ชาตรี’ ไปแล้วจากโรคมะเร็งปอดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มีนาคม 65 โดย พี่เอก ‘สรพงษ์ ชาตรี’ ถือเป็นนักแสดงที่มีผลงานในวงการบันเทิงมายาวนาน ได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ในปี พ.ศ. 2551
และหนึ่งในผลงานภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและเป็นเกียรติประวัติในชีวิตการแสดงของ ‘สรพงษ์ ชาตรี' คือเรื่อง แผลเก่า เมื่อปี 2520 ที่กำกับการแสดงโดย เชิด ทรงศรี ซึ่ง สรพงศ์ รับบท ‘ขวัญ’ ประกบนางเอก นันทนา เงากระจ่าง รับบทเป็น‘เรียม’
แผลเก่า สร้างขึ้นในยุคที่คนนิยมภาพยนตร์ที่มีเนื้อเรื่องร่วมสมัย แต่ แผลเก่า เป็นแนวย้อนยุค จึงทำให้ไม่มีผู้ค้ารายใดซื้อไปฉายเลย แต่ทว่าเมื่อ “แผลเก่า” ออกฉาย กลับกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศ และได้รับหลายรางวัลจากการประกวดในประเทศและต่างประเทศ อันได้แก่ โล่เกียรติยศภาพยนตร์ที่เชิดชูเอกลักษณ์ไทยยอดเยี่ยม ได้รับรางวัลกรังด์ปรีซ์จากการประกวดภาพยนตร์ในงาน Festival des 3 Continents เมืองน็องต์ ประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี 2524
นอกจากนี้ แผลเก่า ยังถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 360 ภาพยนตร์คลาสสิคของโลก โดยมีการประกาศผลเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2544 จากการคัดเลือกของหอภาพยนตร์และโทรทัศน์แห่งชาติของอังกฤษ ที่ร่วมกับนิตยสาร Sight and Sound และ ผู้กำกับภาพยนตร์และนักวิจารณ์ภาพยนตร์จากทั่วโลกเมื่อปี พ.ศ. 2541
โดยพี่เอก ‘สรพงษ์ ชาตรี’ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านช่องยูทูป Film Archive Thailand (หอภาพยนตร์) เมื่อปี 2018 ระบุเหตุผลถึงการตัดสินใจรับบท ขวัญ ของ เชิด ทรงศรี ว่า “ปกติพี่เชิดทำหนังจะเป็นไปในแนวหนังรักและเขียนบทประพันธ์เก่ง ส่วนตนเองนั้นแบล็กกราวน์จะอยู่กับท่านมุ้ยเป็นหนังที่สไตล์เรียลลิสติกอะไรแบบนี้ เผอิญแผลเก่าเค้าส่งบทให้ ไอ้ขวัญนี่คือ เด็กบ้านนอก คือตัวผมที่เกิดที่อยุธยา ไม่มีรองเท้าใส่ อยู่กับวัว อยู่กับควาย อยู่กับน้ำ ที่อยุธยาชีวิตผมเป็นอย่างนี้เลย ไม่เคยใส่รองเท้า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยใส่รองเท้า จนจบป.4ไม่มีรองเท้าใส่ มันคือชีวิตเราเลยบทนี้ แบล็กกราวน์ของเราที่อยู่กับข้าว อยู่กับควาย อยู่กับน้ำ เราจะชำนาญ เพราะมันมีความสุข ที่จะได้เล่นเรื่องนี้”