
เจ้าของอู่ รับสนิท คนแกะ GPS คดี "แตงโม" นาน 20 ปี แต่ร่วมไขคดีเพราะความบังเอิญ
จากกรณีที่โลกโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพๆหนึ่ง ซึ่งคนหนึ่งคือ นายธนกฤต วงศ์สุวรรณ หรือ บอล เจ้าของโรงเก็บเรือ NBC และอีกคนคือ นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด เจ้าของพัทยาวอเตอร์สปอร์ตคลับ ในฐานะตัวแทนบริษัทกามินประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัท GPS เรือลำที่เกิดเหตุ "แตงโม" ตกน้ำ
โดยภาพหลุดนี้แสดงให้เห็นว่าบุคคลทั้ง 2 เหมือนจะมีความสนิทสนมกันมานาน เพราะภาพดูเก่าและถ่ายแบบแนบชิดติดกัน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ถูกให้ความสำคัญเพราะ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทำคดี "แตงโม" ในหลายประเด็น โดยเฉพาะการตรวจพิสูจน์หลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ไม่สามารถตรวจพบพยานหลักฐานบนเรือที่เกิดเหตุตั้งแต่วันแรก รวมถึงกล่าวหาผู้เชี่ยวชาญด้าน GPS ของเรือลำเกิดเหตุได้ปรับแต่งข้อมูล และแก้ไขเพื่อช่วยเหลือคนบนเรือหรือไม่ ทำให้เมื่อมีภาพหลุดทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่าหาก นายอู๊ด ผู้แกะ GPS และ นายบอล เจ้าของอู่เรือ สนิทกันก็สามารถจะช่วยเหลือกันหรือไม่ เพราะ นายบอล ก็ค่อนข้างจะมีความสนิทสนมกับแก๊งบนเรือ ทำให้ประเด็นนี้กลายเป็นที่ถกเถียง และมีคนนำคลิปๆหนึ่งมาเผยแพร่ว่าการแก้ไข GPS ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงต้องฟังคำชี้แจงของทั้งคู่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามสื่อดังได้เคยไปสัมภาษณ์ผู้ที่ถูกอัจฉริยะกล่าวหามาแล้ว เจ้าตัวชี้แจงว่า "ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ถูกกล่าวหา หากจะมีการแก้ไขข้อมูลในเอกสารหลักฐาน จะต้องมีการแก้ไขเอกสารหลักฐานซึ่งเป็นข้อมูลรายวินาที ของการเดินเรือทั้งหมด และจะต้องมีการแก้ไขข้อมูลองศาของเรือ อุณหภูมิของน้ำ รวมทั้งความเร็วของเรือ ซึ่งหากจะแก้ไขจะต้องมีการแก้ไขในกระดาษมากกว่า 2,000 แผ่น ที่สำคัญถ้าหากมีการแก้ไขเอกสาร ระบบที่เปิดด้วยคอมพิวเตอร์ ก็จะต้องไปแก้เส้นทางการเดินเรือแบบรายวินาทีซ้ำช้อน ดังนั้น ตนจึงยืนยันว่าไม่สามารถมีใครแก้ไขข้อมูลดังกล่าวได้ เพราะถือว่าเป็นข้อมูลมาตรฐาน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่เกิดความน่าเชื่อถือของบริษัท ที่สำคัญส่วนตัวไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับคนบนเรือ ดังนั้น ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องมีการปรับแก้ไขข้อมูลตามที่ถูกกล่าวหา"
และล่าสุดเมื่อภาพหลุดออกมาอีก อมรินทร์ ทีวี ก็ได้ไปพูดคุยกับ นายธนกฤต วงษ์สุวรรณ หรือ บอล เจ้าของอู่เรือ NBC โดยเจ้าตัวชี้แจงว่า "ยอมรับว่ารู้จักกับพี่อู๊ด(คนแกะGPS)จริง ซึ่งก่อนหน้านี้รู้จักกันก่อนที่ตัวของพี่อู๊ดจะเข้าไปทำบริษัท GPS เรือ ตนเองได้รับคำปรึกษาเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ การทำอู่เรือ หรือแม้แต่เรื่องของการแข่งขันเจ็ตสกี ซึ่งตนเองได้รับคำแนะนำและความรู้จากพี่อู๊ดในหลายเรื่อง จนกระทั่งมีอู่เรือเป็นของตัวเอง โดยตนเองก็นับถือพี่อู๊ดเป็นเสมือนพี่ชายคนหนึ่งเพราะรู้จักกันมานานกว่า 20 ปี เพียงแค่ไม่ได้คลานตามท้องแม่ด้วยกันมาเท่านั้น เรื่องของความสัมพันธ์แม้ตนเองจะรู้จัก แต่เรื่องของระบบ GPS เรือไม่มีทางที่จะมีการลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ และคนที่นำพี่อู๊ดเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ไม่ใช่ตนเอง แต่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคณะทำงาน ที่มีการเชิญตัวแทนบริษัทการบินประเทศไทย มีการจัดส่งพี่อู๊ดเข้ามาโหลดข้อมูลในระบบ GPS เรือลำที่เกิดเหตุ แล้วนำไปถอดรหัส อ่านค่าด้วยโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ เรียกว่าเป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้น"
"โดยวันที่ตำรวจประสานให้พี่อู๊ดเข้ามาโหลดข้อมูล เขาได้เข้ามาโหลดภายในพื้นที่อู่เรือจริง จากนั้นก็มีการเอาข้อมูลไปอ่านค่ากันที่โรงพักร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองก็ไม่ได้เห็นข้อมูลดังกล่าวว่าแสดงสถานะอย่างไรบ้าง ที่สำคัญถ้าหากจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลอย่างที่มีคนตั้งข้อสังเกตไปเอง ถือว่าทำได้ยาก เนื่องจากข้อมูลของ GPS เรือมีความแม่นยำ และอัปเดตทุก 15 วินาที ฉะนั้นถ้าหากจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อมูลไม่มีใครสามารถที่จะทำได้ ตนตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมอีกว่า คนที่ไปอ้างว่าข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลง อาจเป็นเพราะหยิบเอาบางช่วงหรือบางแผ่นไปนำเสนอ ซึ่งถ้าหากจะเอาข้อมูลทั้งหมดไปนำเสนอจะต้องเอาไปมากกว่า 2,000 กว่าแผ่น วันนี้จึงขอยืนยันกับสังคมว่าความสัมพันธ์และการสนับสนุนทางด้านของธุรกิจก็เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ส่วนเรื่องของหน้าที่และการทำงาน หรือการช่วยกันคลี่คลายคดีของแตงโม ต่างคนต่างทำ"