"เอ๊ะ" ควงคุณแม่ เผยความตั้งใจเรื่องหัวใจตั้งแต่เด็ก บอกหมดทำไมยังโสด ?
ทุ่มเท ให้กับทุกผลงานสำหรับ อดีตนางเอกดังอย่าง "เอ๊ะ อิศริยา สายสนั่น" ที่ตอนนี้นอกจากจะผันตัวเป็น ผู้จัดละคร ปั้นนักแสดงหน้าใหม่ลงสู่วงการบันเทิงแล้ว ยังควบตำแหน่งอาจารย์สาว ดีกรี ด็อกเตอร์ สอนนักศึกษาในรั่วมหาวิทยาลัยสู่สังคมไทยด้วย แต่ก็ยังคงความโสดเหมือนเดิม
โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง และมีผลงานให้ชมกันต่อเนื่อง สำหรับอดีตนางเอกดังอย่าง "เอ๊ะ อิศริยา" ที่ต้องบอกว่าในยุคหนึ่งนั้น เธอเป็นอีกนักแสดงที่ขึ้นไปอยู่ระดับท็อปในวงการละครไทยเลยทีเดียว จากผลงานที่ฝากไว้มากมาย แต่ทว่าใหม่มา เก่าก็ไป ตามวัฏจักรเธอก็ต้องเดินหน้าในวงการอย่างอื่นไปด้วย แถมยังไม่ทิ้งการเรียน การศึกษาอีก และปัจจุบันเธอก็ได้อัปเดตชีวิตให้ทราบด้วย บอกเลยว่าความตั้งใจยังแน่วแน่ ในเรื่องความโสด
ซึ่งล่าสุด เอ๊ะ อิศริยา พร้อมกับคุณแม่ได้ให้สัมภาษณ์ในงานบวงสรวงละคร มงกุฎกรรม
แม่บอกก่อนเลย หลังผู้สื่อข่าวยิ่งคำถาม ว่าทำไมลูกสาวถึงโสด คูณแม่บอกว่า “บอกตรงๆ นะ เขาบอกแม่ตั้งแต่เล่นละครตั้งแต่เด็กแล้ว เขามีความรู้สึกว่าอยากอยู่กับแม่ เขาไม่อยากมีแฟน เพราะเขามองว่ารักเดี๋ยวก็ต้องเลิก เขาเข้าวงการตั้งแต่อายุ 14 ปี เขาก็จะเห็นอะไรเยอะแยะ เขาบอกว่าถ้าลูกขอไม่แต่งงาน ไม่มีแฟนเลยแม่จะว่ามั้ย”
ก่อนที่เอ๊ะจะเสริมต่อว่า “อันนี้พูดตั้งแต่ก่อนเข้าวงการเปล่า ตั้งแต่อายุ 14-15 ปี เป็นสิ่งที่คิดตั้งแต่เด็กและเริ่มเป็นสาวที่จะมีคนเข้ามา คิดอย่างนี้เลยจำได้สมัยเด็กขอทำงานอะไรก็ได้ที่ได้ทำกับแม่ แล้วก็อยู่ใกล้แม่ เรื่องแฟนไม่ค่อยคิดเลย”
รู้สึกยังไงเมื่อลูกบอกว่าไม่อยากมีแฟน?
แม่ : “เราก็รู้สึกดีใจเฉยๆ เด็กนะ เราก็คิดว่าเดี๋ยวเขาโตขึ้นก็คงเปลี่ยนไป เขาก็คงไปเล่นละคร และอยู่ในวงการมานานมากแล้ว ณ วันนี้มีมั้ยลูก(ยิ้ม) เป็นไปไม่ได้แล้วค่ะวันนี้ ไม่ว่าใครจะโทรเข้ามา ส่งโทรศัพท์ให้แม่ แม๊(เสียงสูง)บล็อก เรารู้แล้วว่าเส้นทางของเขาคือครอบครัว มีแม่ มีน้องชาย มีพี่ชาย แล้วก็มีหลานเล็กๆ น่ารัก 2 คน เขาก็แฮปปี้กับตรงนี้และมีความรู้สึกว่าใจมันอยู่ตรงนี้”
เอ๊ะ : “จริงๆ ต้องบอกว่าแต่ละบ้านไม่เหมือนกันนะคะ โชคดีที่คุณแม่รับได้ คือบางบ้าน 20 ปี เรียนจบ ไม่มีแฟน ไม่แต่งงาน บางบ้านซีเรียสมากอ่ะ โชคดีคุณแม่ไม่คิดอย่างนั้น แม่บอกแล้วแต่เลย ทำไป เรื่องของลูกไม่ได้ซีเรียส”
ปฏิเสธผู้ชาย?
เอ๊ะ : “ก็ปฏิเสธ บางทีก็ให้คุณแม่คุย เราปฏิเสธในขั้นต้นก่อน โชคดีโทรศัพท์เอ๊ะจะโอนข้อมูลไปเครื่องคุณแม่ถ้าไม่รับ เขาก็จะรู้ว่าไม่รับ”
แม่ : “แม่ก็รับแล้วบอกว่าน้องอ่านหนังสืออยู่ คือน้องเอ๊ะเขาเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอกที่ธรรมศาสตร์หมดเลย เขาก็ต้องอยู่กับตำราและเล่นละครด้วย เขาก็มองว่าชีวิตแบบนี้เขามองว่ามันแฮปปี้แล้ว เขาไม่อยากจะมีอะไรแล้ว เหมือนเรียนจบก็เป็นอาจารย์และไปเป็นผู้จัด ทำงานของตัวเองเขาก็คิดว่าแฮปปี้มาก”
ณ วันนี้ทำไมยังไม่เปลี่ยนความคิด?
เอ๊ะ : “คือไม่ได้บอกว่าเราจะต้องตั้งธงว่าจะโสดซะทีเดียว ว่าถ้าเรามีแฟน แฟนจะต้องทำให้เรามีความสุข อาจจะมีความสุขไม่เท่าครอบครัวเราค่ะ แต่อย่างน้อยมันก็มีสุขมากกว่าทุกข์ค่ะ”
แม่ : “แม่บอกเลยว่าไม่มี ไม่มีวัน เขาบอก 29 ปีแล้วนะ บอกถ้าเอ๊ะยังไม่มีตอนอายุ 30 ปีคงไม่อยากมี พอ 31, 32 จนมา 39 ปี แม่บอกเลยไม่มีทางมี”
เอ๊ะ : “จริงๆ ต้องบอกว่าถ้าสมมติเราเจอคนที่ใช่ เราอาจจะคบ แต่มันยังไม่มีคนที่เราหันไปโฟกัสที่เขามากกว่าสิ่งที่เรากำลังโฟกัสอยู่ค่ะ”
เอ๊ะบอกอีกว่า “แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากให้มองแบบเหมือนเราเรื่องมาก เรื่องเยอะ จริงๆแล้วมันไม่ใช่เอ๊ะว่าคนเราทุกคนสามารถเลือกอะไรที่เราชอบได้ นี่คือสิ่งที่เราชอบ ไม่ใช่ว่าเราไม่มีแฟนแล้วมันเป็นอะไรนะ เราเลือกแล้วที่มีความสุขในแบบนี้ของเรา”
และ “จริงๆ จะว่ากลัวก็ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่ได้ผิดหวังในความรัก ชอบอ่ะมีแหละ แบบปลื้มคนนี้ แต่ถ้าเป็นรักมันไม่ใช่ค่ะ แค่ชอบในภาพลักษณ์ที่เขามี เหมือนเราชอบพระเอกเกาหลี เราชอบแต่มันไม่ใช่ความรักค่ะ เรากลัวผิดหวังมั้ย ไม่รู้ว่ากลัวมั้ย แต่คิดว่าที่เป็นอยู่โอเคละ”
สมมติว่าลูกมีแฟนเป็นทอมแม่จะรู้สึกยังไง?
เอ๊ะ : “แม่เขาพูดไปอย่างนั้นแหละค่ะ จริงๆ เขาไม่อยากให้มีอยู่แล้ว”
แม่ : “เรื่องของเรื่องเนี่ย พูดตรงๆเลยนะ เพราะว่าเห็นแม่มีลูก 5 คน แม่ก็ต้องเลี้ยงลูก 5 คนด้วยตัวเอง เหมือนเรื่องมงกุฏกรรมนี่แหละค่ะ เพราะว่าเราก็เลี้ยงพวกเขามาให้ได้เรียนหนังสือ เขาก็คงเห็นว่าแม่ทำงานทุกอย่าง บางทีก็กลับดึก ตื่นเช้าแม่ก็ต้องรีบไปทำงาน เขาเลยมีความรู้สึกว่าเขาขออยู่คนเดียวดีกว่า”
ท้ายที่สุด “ซิงเกิลมัม คือต้องบอกว่าไม่เคยผิดหวังกับประสบการณ์ตรงนะคะ แต่คนรอบข้างคือใช่ เราก็มองว่ามันไม่ใช่ความผิดหวังนะ เราก็มองว่ามันเป็นชีวิตคน มีรักที่สมหวัง ไม่สมหวังแต่ส่วนตัวก็คิดว่าถ้ารักแล้วมันต้องเลิกก็อย่ารักดีกว่า เราอยู่ได้เพราะทุกวันนี้เรารักตัวเอง เรารักครอบครัวก็น่าจะโอเคแล้ว” เอ๊ะกล่าว