"สรยุทธ" โร่ขอโทษ "แอนนา" หลังละเมิดสิทธิ PDPA ปล่อยคลิปแอบถ่าย
จากกรณีที่ "แอนนา" แชร์โพสต์ของ "สรยุทธ" ซึ่งเป็นคลิปวีดีโอที่ถ่ายขณะถูกตำรวจรวบตัวที่สนามบิน โดยบอกว่าเป็นการละเมิดสิทธิ PDPA
โดย "แอนนา" ได้มีการแชร์โพสต์ของ "สรยุทธ" สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ที่เผยแพร่คลิประหว่างที่ แอนนา ถูกเจ้าหน้าที่ ตม. ควบคุมตัวหลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ เนื่องจากมีหมายจับกุมในคดีขายหวยทิพย์ พร้อมข้อความว่า "ด้วยความเคารพถึงคุณอาสรยุทธ คลิปนี้คุณอาได้มาจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไหมคะ แอนนาขอความกรุณาเจ้าหน้าที่แล้วว่าขอใช้สิทธิ pdpa แต่สุดท้ายแอนนาก็ถูกละเมิดสิทธิตั้งแต่เจ้าหน้าที่รัฐจนถึงสื่อใหญ่ ถ้าเป็นตาสีตาสาคนธรรมดาเขาจะปกป้องตัวเองยังไง"
งานนี้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนทำให้ต่อมา "สรยุทธ" ได้ลบโพสต์ดังกล่าว พร้อมกับได้ชี้แจงในเวลาต่อมาว่า "ด้วยความเข้าใจความรู้สึกของแอนนา คลิปนี้ได้มาจากระบบข่าวปกติ ซึ่งผมก็เชื่อว่า เจ้าหน้าที่เป็นผู้ถ่ายและนำมาให้สื่อ และเมื่อแอนนาได้ทักท้วงมา ผมก็ลบคลิปดังกล่าวทันที และต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ"
นอกจากนี้ "สรยุทธ" ยังได้พูดถึงเรื่อง PDPA หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยว่า "ส่วนประเด็นเรื่อง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ซึ่งบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ในกรณีนี้ เข้าใจว่ายังคงเป็นที่ถกเถียงหรือตีความกันอยู่เรื่องการเปิดเผยภาพหรือชื่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา ซึ่งที่แล้วมา ปกติทั่วไปในแวดวงสื่อ ถ้าเป็นกรณีเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นที่รับรู้อยู่แล้ว ก็ไม่มีเหตุจะต้องบังชื่อหรือใบหน้า เหมือนเมื่อครั้งที่แอนนา เคยบอกให้ผมเปลี่ยนรูปในหมายจับที่มีการคาดดวงตา (ซึ่งเป็นภาพจากเจ้าหน้าที่) ให้มาใช้ภาพแอนนาสวยๆ ไม่ต้องคาดตา แต่หากกรณีผู้ต้องหาทั่วไป ก็จะปิดบังใบหน้า (ซึ่งสังคมก็มักจะตั้งคำถามว่าปิดทำไม)
ประเด็นของแอนนา ไม่ใช่ประเด็น PDPA แต่เป็นประเด็นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์แล้วนำมาให้สื่อ และสื่อที่นำมาเผยแพร่ อาจสุ่มเสี่ยงว่าจะเป็นการละเมิดต่อบุคคล ตามมาตรา 29 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน ว่า “ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้”ยกตัวอย่างกรณี ตำรวจออกกฎเกณฑ์ ห้ามไม่ให้เอาผู้ต้องหามาแถลงข่าว ก็เพราะหลักตรงนี้ครับ
ต้องขอบคุณแอนนาที่ทักท้วง และผมยินดีเสมอที่จะรับฟังคำท้วงติง และพร้อมจะแก้ไขบรรเทาความเสียหายโดยทันที เพราะโดยส่วนตัวถือหลักว่า เมื่อได้รับการทักท้วงที่มีเหตุผล ต้องแก้ไข โดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน โดยเฉพาะที่มีผลกระทบต่อบุคคลในคดีอาญา เพราะผมเองก็เคยเป็นผู้ถูกกระทำจากสื่อมาก่อน"
หลังจากนั้น "แอนนา" ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ทันทีว่า "แอนนาต้องขอ โทษคุณอาด้วยนะคะ ถ้าหนูทำอะไรหรือเข้าใจผิดไป ขอบคุณที่คุณอาขี้แจงและให้ความเป็นธรรมมากๆค่ะ" งานนี้ถือเป็นการจบดราม่าดังกล่าวแบบสวยงาม