"ปิ๋ม ซีโฟร์" รำมือถวาย "หนังหน้าครู" ฟาดกลับนักวิชาการ บอกให้เอาไปเผา | คมชัดลึก

ตกเป็นข่าวโด่งดังกรณีที่ “ปิ๋ม ซีโฟร์” มาไหว้ “หนังหน้าครู” ที่แกลอรี่ของ “จิลล์ จักรพงศ์ การสมพรต” หรือแจ็คจิลล์อดีตนักร้องกูรูกุมารทองเครื่องลางของขลัง แล้วเกิดสื่อสัมผัสได้ว่า หนึ่งในหนังหน้าครูนั้น มีครูในอดีตชาติของปิ๋มเมื่อ 200 กว่าปี ทำเอาเจ้าตัวถึงกับร้องห่มร้องไห้ และได้ขอพรไว้ 3ข้อ เมื่อสมดังปรารถนาก็เลยมารำถวายมือหนังหน้าครู ด้าน “เจน-นุ่น-โบว์” ซุบเปอร์วาเลนไทน์ เมื่อทราบข่าวถึงความศักดิ์สิทธิ์ก็ได้มาร่วมรำถวายด้วย

แต่ถึงแม้หนังหน้าครูจะเป็นที่ศรัทธาของปิ๋มและคนในวงการบันเทิงหลายคนที่มากราบไหว้แล้วสำเร็จสมหวัง แต่ก็มีคนที่ไม่เห็นด้วย ล่าสุดที่จิลล์ จักรพงศ์ กับ ปิ๋ม ซีโฟร์ ได้ไปออกรายการถกไม่เถียงช่อง 7 ถึงเรื่องราวของหนังหน้าครู ก็เจอ “ครูไก่” ดร.สุรัตน์ จงดา อาจารย์วิทยาลัยนาฏศิลป์ และผู้เชี่ยวชาญงานด้านศิลปะวัฒนธรรม ศิลปะการแสดง พื้นฐานนาฎศิลป์ไทย พูดว่า ไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยินเรื่องหนังหน้าครูในวงการนาฏศิลป์ แนะนำให้เอาไปเผาทิ้ง ทำเอาปิ๋มซีโฟร์ เดือดจัดถึงขั้นข่มตาหลับในรายการ ซึ่งวันนี้เจ้าตัวก็เปิดเผยว่า…

วันนี้ก็ได้มารำถวายตามที่ไดัให้คำสัญญาไว้ เมื่อขอแล้วได้ก็ต้องมาทำตามสัญญา เรื่องหนังหน้าครูมีมาตั้งแต่โบราณซึ่งครูไก่เองก็เกิดไม่ทัน ตนเองก็เกิดไม่ทัน ก็อยากจะให้ผู้รู้เรื่องนี้มาเป็นผู้ไขข้อสงสัยมากกว่า แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าหนังหน้าครูนี้เป็นหนังหน้าครูจริงๆ ตนเองสัมผัสได้ 

การทำหนังหน้าครูคือการเลาะเอาหนังหน้าครูที่เสียชีวิตไปแล้วให้ลูกศิษย์ได้บูชา จะได้ปกปักรักษา ฉะนั้นจิตวิญญาณก็จะผูกกับหนังหน้าครูคอยปกปักรักษา เรื่องที่จะให้เอาไปเผา ไปถามเจ้าของเขาก่อนเถอะว่ายินดีจะให้เผาหรือเปล่าคนเราไม่ควรบอกว่าใช่หรือไม่ใช่ ถ้ายังไม่มีการพิสูจน์ ก็อยากให้มากพิสูจน์กันเลย

ด้านจิลล์ จักรพงศ์ ก็เผยถึงที่มาของหนังหน้าครูว่า ได้รับมอบมาจากลุงพงศ์วัย 91 ปีอยุธยา ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลหนังหน้าครูที่ถูกตกทอดมาหลายรุ่นแล้ว ขาดการบวงสรวงมา 40 ปีแล้ว เพราะคนเฒ่าคนแก่ที่รู้เรื่องก็ล้มหายตายจากไปหมดแล้วลูกหลานก็ไม่เอาแล้ว เมื่อเห็นว่าตนเองเป็นอดีตนักร้องจึงมอบให้ไปบูชาต่อ ซึ่งได้ทราบข้อมูลจากลุงพงศ์ว่า ผู้ที่จะมาเป็นหนังหน้าครูนั้น จะต้องเป็นคนที่รำสวย หน้าตาสวย ไปเปิดการแสดงที่ไหนก็มีแต่คนมาดู ผู้ที่ครอบครองบูชาหนังหน้าครูจะไปเปิดการแสดงที่ไหนก็จะมีแต่คนหลงไหลราวต้องมนต์สะกด เรื่องนี้เป็นเรื่องความเชื่อ ถ้าเชื่อแล้วดี เชื่อแล้วขีวิตดีขึ้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนก็เชื่อไป มันคือความเชื่อส่วนบุคคล