"ตูน บอดี้สแลม" เรียกเพื่อนที่เป็นทนายมาจัดการมรดก
อะไรก็เกิดขึ้นได้! ช่วงหนึ่งของชีวิตก่อนขึ้นเตียงผ่าตัด "ตูน บอดี้สแลม" เรียกเพื่อนที่เป็นทนายมาพูดคุยและวางแผนการจัดการมรดก
ออกมาเปิดใจครั้งสำคัญ สำหรับ "ตูน อาทิวราห์" หรือ “ตูน บอดี้สแลม” นักร้องหนุ่มชื่อดังหลังเข้ารับการผ่าตัดใหญ่หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทที่บริเวณคอ ก่อนที่จะขึ้นคอนเสิร์ต 3 รอบ ร้องเพลงมากกว่า 100 เพลง ให้คนดูมากกว่า 30,000 คนฟัง ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่ไม่รู้จะต้องแขวนไมค์โบกมือลาแฟนๆ ไหม รวมถึงไม่รู้ว่าชีวิตหลังผ่าตัดจะเป็นยังไง ในรายการ "คุยแซ่บshow" ร็อกเกอร์ชื่อดังได้เปิดใจถึงเรื่องนี้
เล่าถึงการผ่าตัดหมอนรองกระดูกล่าสุดหน่อย ?
“ผ่าสองครั้ง ส.ค.ปีที่แล้วผ่าด้านหลัง แต่รักษาอาการเดียวกันคือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ต้นเดือนพ.ค. ก็ต้องเอาหมอนรองกระดูกที่เสื่อมออกสองข้อ สาเหตุมันเกิดได้หลายสาเหตุมาก ไม่ได้มีอุบัติเหตุ ไม่ได้รถชน มันคือการสะสมของการใช้งานจริงๆ อาจเป็นเพราะผมขึ้นคอนเสิร์ตแล้วมีการโยกคอ 20 กว่าปี โยกแบบหักแรงๆ มาตลอด รวมถึงผมชอบกระโดดลงจากเวทีสูงๆ สองเมตร กระแทกตลอด จนถึงผมชอบวิ่งมาก แต่ละก้าวที่อิมแพ็คลงไปก็มีผล มันอาจเป็นอะไรก็ได้ที่สะสมทำให้เราเป็นแบบนี้ หมอนรองกระดูกปลิ้นออกมาทับเส้นประสาท”
เป็นแล้วมีเอฟเฟกต์ยังไง?
“ตอนแรกมือชา แขนชา จนสุดท้ายที่ต้องเลือกผ่าตัดเพราะมืออ่อนแรง นิ้วมือซ้าย ด้านซ้าย มันมีบางแอ็กชั่น หรือบางอันที่ผมทำไม่ได้เหมือนปกติ อย่างเล่นกีต้าร์ ผมไม่สามารถเล่นกีต้าร์ได้เหมือนเดิม ถ้าใครสังเกต ช่วงนี้ผมไมได้เล่นกีต้าร์บนเวทีสักเท่าไหร่ มีความทำไม่ได้อยู่บางตำแหน่ง เราก็เลยร้องเพลงอย่างเดียว”
มีเรียกเพื่อนเป็นทนาย มาจัดการเรื่องมรดกก่อนผ่า?
“เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เราแค่จัดเตรียมไว้ให้ดีที่สุดก่อน มันไม่ได้มีทรัพย์สมบัติอะไรมากมายหรอก เราแค่ให้เพื่อนที่เขารู้เรื่องเรา มารับฟังเรา และจัดแจง ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นต้องทำอะไรบ้าง มาขอคำปรึกษา เราไม่ได้เซ็นอะไร แต่เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนสนิท ตั้งแต่นิติฯ ที่จุฬาฯ แล้ว (เอสเผยว่าตัวเองอยู่รพ.สามเดือน ก็เรียกทนายมาเซ็นไว้เหมือนกัน เพราะผมก็คิดว่าไม่น่าจะรอด เลยเข้าใจพี่ตูนเลย) มันต้องเตรียมไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
ทำไมไม่บอกแฟนๆ ก่อนคอนเสิร์ต แต่มาบอกหลังคอนเสิร์ตไปแล้ว?
“หนึ่งเราไม่อยากให้ใครเป็นกังวล เราคิดว่าเราเลือกช่วงเวลานี้ เพราะเราคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับเราแล้ว มีเวลาสำหรับการพักฟื้น รักษาตัว ไปซ้อม ตามที่แพทย์แนะนำ เราอยากทำตรงนี้ให้เต็มที่ ไม่อยากกดดันตัวเอง ถ้าคนรู้เขาอาจให้กำลังใจ เราก็ไม่ได้อยากดูน่าสงสาร เราอยากทำให้เราเหมือนปกติที่สุด ธรรมชาติที่สุด ออกไปโชว์ในคอนเสิร์ตให้ดีที่สุดเหมือนที่เราเคยทำ เราไม่ได้อยากให้เขามาดูเรา มาเชียร์เราในฐานะคนป่วยเพิ่งผ่าตัด เราอยากให้เขามีความสุขกับคอนเสิร์ตจริงๆ คอนเสิร์ตบอดี้สแลม คอนเสิร์ตที่เราตั้งใจจริงๆ”
จะมีทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศด้วย?
“ไป 4-5 ประเทศ บอดี้สแลมจะออกเดินทางแบบนี้สัก 4-5 ปีครั้ง หรืออัลบั้มละครั้งอยู่แล้ว”
คนสงสัยว่าจบคอนเสิร์ตนี้แล้วจะแขวนไมค์ จริงหรือเปล่า?
“ลูกสองคงแขวนไม่ได้ (หัวเราะ) ไม่น่าจะแขวนนะครับ อาจต้องเพิ่มไมค์ด้วย (หัวเราะ)”
ถามถึงบ้านที่ภูเก็ตตอนนี้คืบหน้ายังไง?
“อยู่บ้านหลังที่ซื้อไว้นานมากแล้ว เป็นหลังที่เราชอบลงไปซ้อมวิ่ง ตอนนั้นบ้าวิ่งมาก มีเวลาว่างจัดทัวร์คอนเสิร์ตก็จะชวนน้องก้อยลงไปซ้อมกีฬา ไปพักที่ภูเก็ต จนสุดท้ายตัดสินใจซื้อบ้านหลังเล็กๆ ไว้ เมื่อ 7-8 ปีก่อน เพื่อเวลาไปจะได้ไม่ต้องไปนอนโรงแรม เก็บของไว้ เก็บจักรยานไว้ แต่นี่เป็นบ้านหลังใหม่ พอเรามีลูกสองคน มันไม่พอแล้วสำหรับบ้านหลังนี้ แค่ของเล่นชั้นล่างก็เต็มแล้ว ก็คิดว่าถึงเวลาขยับขยาย เราก็ถามน้องก้อยว่าเราจะอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตมั้ย ก็ได้คำตอบเดียวกันว่าเราจะอยู่ที่นี่ ก็เลยตัดสินใจซื้อบ้านหลังใหม่ และทำ”
ลงรูปบ้านในอินสตาแกรม มีแคปชั่นบอกว่าอีกนิดเดียว สู้ๆ นะตูนเอ้ย เจ็บแต่จบ?
“ต้องท่องไว้ ทุกคนที่มีประสบการณ์สร้างบ้าน บ้านคือบาน มันไม่จบ ใช้เวลาและงบประมาณเกินจากที่คิดตลอดเวลา ซึ่งมันก็จริง เราก็ทำหลังนี้ตั้งแต่ตอกเสาเข็มก็ปีครึ่งแล้ว กำหนดไว้ว่าไม่อยากให้เกินปีใหม่ที่จะถึงนี้ จะครบ 2 ปี ก็อยากย้ายเข้าไปอยู่แล้ว ก็บอกตัวเองให้ฮึบๆ ตั้งใจทำงานด้วย พยายามให้อยู่ในกำหนดเวลาด้วย”
งบบานปลาย?
“บานไปเรื่อยๆ ครับ คิดว่าจะเป็นหลังสุดท้ายในชีวิตที่เราจะอยู่ที่นี่ไปจนเรื่อยๆ คิดว่าปีใหม่น่าจะเสร็จนะ ตามแผน”
ใหญ่โตมาก?
“ครอบครัวใหญ่ จะมีญาติๆ ปู่ย่าตายาย เขาอยากลงไปเยี่ยมหลาน เราก็มีห้องให้ท่าน ตอนนี้มีหลายคนเข้ามาสปอนเซอร์เราเยอะเหมือนกัน ผมมีหน้าที่หาเงินอย่างเดียว ที่เหลือเป็นหน้าที่น้องก้อยครับ”