บันเทิง

บทเรียน "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" มรสุมชีวิต ปัญหาคือการเติบโต นิวเวอร์ชั่น

บทเรียน "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" มรสุมชีวิต ปัญหาคือการเติบโต นิวเวอร์ชั่น

17 ส.ค. 2567

"เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ เจนนี่ รัชนก" ออกมาเปิดใจ ปอกเปลือกชีวิตที่ผ่ามรสุมใหญ่หลายลูก ยอมรับอดีตเคยหลงตัวเองตอนนี้ได้เรียนรู้แล้ว อยากเป็นแม่ที่ดี ลูกทำให้อยากมีชีวิตสู้ต่อ!

เปิดหมดเปลือก "เจนนี่  รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" นักร้องสาว อินฟลูเอเซอร์ แม่ค้าออนไลน์ ที่ถึงขั้นกับว่าเปรียบตัวเองเหมือนแมว 9 ชีวิต  เพราะย้อนกลับไปเธอผ่านมรสุมดราม่ามากมาย เรื่องาน ครอบครัว แฟน และโลกออนไลน์ 

เธอออกมายอมรับอดีตแบบปลดปลงว่า "เคยหลงตัวเอง คิดว่าตนมีอิทธิพลในโซเชียล แต่ตอนนี้ได้เรียนรู้แล้ว เป็นเจนนี่เวอร์ชั่นใหม่" อยากเป็นแม่ที่ดี มีชีวิตสู้ต่อไปเพื่อลูกและครอบครัว

 

บทเรียน \"เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น\" มรสุมชีวิต ปัญหาคือการเติบโต นิวเวอร์ชั่น

คุณโดนมรสุมชีวิต ผ่านอะไรมาเยอะมากจนกระทั่งวันนี้ให้นิยามชีวิตตัวเองว่ายังไง ?

 

เจนนี่ : แมว 9 ชีวิต มันผ่านอะไรมาเยอะมากๆ มาวันนี้เหมือนเป็นเจนนี่เวอร์ชั่นใหม่ พี่ก็เหมือนพี่ชายคนหนึ่งที่หนูอยากให้รู้ว่า วันนี้หนูโตขึ้นแล้วนะคะ จะบอกว่าไม่ร้องไห้ก็คงไม่ได้ แต่อยากให้รู้ว่าหนูดีขึ้นมากๆ ค่ะ

 

พี่ว่าเราไม่มีวันจบในการเรียนรู้  โลกมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่เรารับมือเป็น ?

เจนนี่ : มันไม่ใช่เมื่อก่อนที่เจอดราม่าก็ร้องไห้ ถ่ายวีดีโอ โวยวายงี่เง่าเป็นเด็ก เดี๋ยวนี้พอเจอดราม่าก็คิดวิเคราะห์แยกแยะตั้งสติก่อนทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าจะมองข้ามหรือมองผ่านไม่ตอบไม่สนนะคะแต่แค่ตั้งสติก่อนว่าแบบไหนดีที่สุด

 

บทเรียน \"เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น\" มรสุมชีวิต ปัญหาคือการเติบโต นิวเวอร์ชั่น

พอผ่านเรื่องวัตถุต่างๆมาสุดท้ายแล้วชีวิตก็คือแค่ความรักในครอบครัว ?

เจนนี่ : ใช่ค่ะ ต่อให้คุณมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน ถ้าคุณโดนคนที่คุณรักเสียใจก็จบเลย บอกเลยว่าชีวิตหนูอยู่ต่อได้เพราะคนรอบข้าง ไม่ใช่เงินทองหรือของรอบกาย ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ที่หนูมี ต่อให้วันนี้หนูมีบ้านหลังใหญ่แต่ถ้าไม่มีลูก ไม่มีสามีที่ดีอยู่ข้างๆ เราก็คงไปต่อไม่ไหว

 

หนูบอกกับสามีทุกวันว่าคิดถึงวันที่หนูขายรองเท้ามากๆ เลย ค่ะ พูดจากใจเลย เพราะวันนั้นหนูขายรองเท้าโดยไม่มีแรงกดดันอะไรเลย สนุกกับการได้ขายของ ขายเท่าไหร่ก็ไม่มีดราม่าจะพูดแหกปากยังไงคนก็ไม่ด่า แต่ทุกวันนี้หนูจะพูดอะไร 1 คำเป็นข่าวทั้งประเทศ ผิดนิดเดียวคือชีวิตโดนทัวร์ลงเลย แต่ถามว่าอยากกลับไปไหม ไม่อยากกลับไปค่ะ (หัวเราะ) เป็นวันนี้ดีแล้ว

 

บทเรียน \"เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น\" มรสุมชีวิต ปัญหาคือการเติบโต นิวเวอร์ชั่น

 

มันก็มีข้อดี ทุกอย่างดีเสมอถูกไหม วันนี้คุณเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคน ?

เจนนี่ : วันนี้หนูตั้งใจมาจากบ้านเลยว่าจะเป็นพลังบวกให้พี่และให้ทุกคนให้ได้ คือหลังจากที่ข่าวดราม่ามันเยอะจนทุกคนอคติ เจอเจนนี่เมื่อไหร่ทุกคนรู้สึกลบ รู้สึก Toxic หนูอยากให้ทุกคนได้รับพลังงานใหม่ค่ะ เป็นพลังงานที่ประสบความสำเร็จและพลังงานที่มีแต่ความสุข 

 

ได้เรียนรู้การปล่อยวางยังไงเพราะสมัยก่อนคุณแบกไว้เยอะมาก ?

เจนนี่ : ควบคุมทุกอย่างค่ะเมื่อก่อน คิดว่าทุกคนคือเราควบคุมได้ ใครด่าก็คือฉันสามารถพูดกลับไปเพื่อควบคุมคุณได้ว่าอย่ามามีสิทธิ์ด่าฉัน มีปัญหาภายในค่าย ในครอบครัว ศิลปินในค่าย ก็คิดว่าตัวเองควบคุมได้ว่าต้องเป็นอย่างนั้นๆ จนทุกวันนี้รู้แล้วว่าเราควบคุมไม่ได้และเราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ สิ่งที่เปลี่ยนได้คือตัวหนูเองเท่านั้นค่ะ ต้องเปลี่ยนตัวเองเยอะมากเพื่อที่จะอยากทำงานในวงการ อยากทำงานที่เรารักต่อ สอนให้ตัวเองปล่อยวางเข้าใจแล้วว่าอะไรที่ควบคุมไม่ได้คือให้เปลี่ยนที่ตัวเอง

 

น้องลิลลี่ความสัมพันธ์เป็นยังไงบ้าง หลังมีครอบครัว ?

เจนนี่ : กว่าจะรับได้ก็มีปากเสียงกันเยอะมากค่ะ เพราะว่าโตมาด้วยกันลิลลี่อยู่กับหนูมาทั้งชีวิต จนวันที่หนูแต่งงานแล้วตัดสินใจมาอยู่กรุงเทพฯ นั่นก็เป็นวันที่เขารู้สึกเสียใจและร้องไห้เยอะที่สุดในชีวิต ทำใจไม่ได้ ไม่กินข้าว ไม่ลงจากห้องไม่อะไรเลย เพราะรู้สึกว่าหนูทิ้งเขาไปรักคนอื่นมากกว่า หนูพยายามส่งข้อความหาเขาบอกว่าถ้าวันหนึ่งลิลลี่มีครอบครัวจะเข้าใจ ซึ่งมันไม่ใช่วันนี้ พี่ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ใกล้ลิลลี่แต่สัญญาว่าจะซัพพอร์ตเรา พยายามอธิบายแรกๆเขาก็ไม่ฟังหรอกค่ะ เพราะรู้สึกว่าพี่เจนรักพี่ยิวมากกว่า

 

จนกระทั่งเขารู้ว่าพี่เหนื่อยมากนะ คือไหนจะน้อง ไหนจะลูกไหนจะแฟน ครอบครัว งาน ร้องไห้ใส่เขาเยอะมากแล้วเขาก็เริ่มสงสารหนู และเข้าใจก็พูดได้แค่ว่าถ้าว่างก็มาหาน้องนะ นี่ก็บอกว่าถ้าว่างก็ขึ้นมาอยู่กับพี่สิ ก็ไม่มาอยู่ดีเพราะว่าชอบอยู่ใต้ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ แล้วก็แอบชอบชีวิตอิสระแล้วด้วยซ้ำไม่มีพี่คอยตามคอยห้าม

 

ทำให้สามีก้าวผ่านความทุกข์ได้ยังไง ?

เจนนี่ : หนูเกือบเลิกกันเพราะคนอื่นเยอะมาก หนูขอโทษเขาทุกครั้งที่หนูมีโอกาสเลย ตั้งแต่เขาเข้ามาในชีวิตคือเขาเครียด จากเขาพลังบวกเยอะกลายเป็นว่าชีวิตเขามีแต่เรื่อง Toxic คนภายนอกอาจจะเจอนานๆที แต่เขาอยู่กับหนูทุกวัน เขาเครียดไปกับหนูอะไรก็ไม่รู้ปัญหาเยอะมากกับดราม่าของการเป็น เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น มันไม่ได้สนุก ไม่ได้เรียบง่าย ขอโทษเขาเยอะมากจนกระทั่งเขาก็ตกผลึกไปแล้วว่า เขาเคยถามตัวเองว่าเขาอยากไปจริงๆไหม อยากเลิกกับหนูจริงๆ หรือเปล่า

 

แล้วเขาบอกว่าสุดท้ายไม่อยากเลิกเพราะรักหนูมาก คิดไม่ออกว่าถ้าวันหนึ่งไม่มีเขาหนูจะอยู่ตรงไหน หนูจะอยู่ยังไง จะร้องไห้กับใคร กินข้าวกับใคร จะปรึกษาเรื่องที่คนอื่นไม่รู้ยังไง เขาเลยบอกว่าขออย่างเดียวคือต่อไปนี้อย่าให้เรื่องของคนรอบตัวหรือคนอื่นมาทำให้เรามีปัญหาซึ่งกันและกัน เข้าบ้านช่วยเป็นเจนนี่ที่เป็นแฟนเขาคนเดียวได้ไหมที่แบบไม่ใช่ไปเอาพลังลบหรือไปทะเลาะกับใครมาแล้วมาลงกับเขา ไปเจอเรื่องอะไรมาก็มาใส่ที่เขา ก็ตกลงกัน

จนกระทั่งเขาบอกว่าหนูทำได้ และหนูก็ทำได้ดีจริงๆ ตั้งแต่หนูตัดทุกอย่างออกจากชีวิตเหลือแค่เราและลูก หนูรู้สึกว่าเรามีความสุขมากขึ้น และหนูต้องขอบคุณที่เขายังอยู่

 

บทเรียน \"เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น\" มรสุมชีวิต ปัญหาคือการเติบโต นิวเวอร์ชั่น

 

ก่อนจะมาถึงวันนี้มันก็ต้องผ่าน วันนี้คนเห็นตัวจริงที่ผ่านมาหมด ความจริงคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้ ?

 

ความจริงพูดกี่ครั้งก็เหมือนเดิม ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายด้วย แต่ความจริงที่ว่าต้องออกมาจากสติปัญญาที่จะสื่อให้คนรู้ เมื่อก่อนก็คือความจริงแต่สื่อออกไปแล้วมันดูเหมือนโกหกเพราะว่าเราไม่มีสติปัญญาในการใช้ชีวิต เราใหม่ เราเพิ่งดัง เรากำลังรวย มีอำนาจบารมีของโซเชียลมาก หลงตัวเองช่วงแรกๆ ก็ยอมรับ

แต่ความจริงวันนั้นกับวันนี้ยังเหมือนเดิมค่ะแค่สื่อออกมาคนละแบบ ซึ่งแบบนี้มันเพอร์เฟคมากกว่า หนูได้เรียนรู้แล้ว การใจเย็น มีสติ ต้องถามตัวเองก่อนว่าจริงหรือเปล่า เพราะบางทีที่เขาด่ามันคือความจริงแต่เราแค่รับไม่ได้ ถ้ามันจริงก็ไม่เป็นไรก็ขอโทษแล้วกันนะ

 

บทเรียน \"เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น\" มรสุมชีวิต ปัญหาคือการเติบโต นิวเวอร์ชั่น