"ตู่ นันทิดา" มีวันนี้เพราะ "ชรินทร์ นันทนาคร" สุดซึ้ง "เพชรา" คือรักแท้
"ตู่ นันทิดา" กลั้นน้ำตาไม่อยู่ อาลัย "ชรินทร์ นันทนาคร" คนที่ทำให้ได้เป็นนางเอกหนัง ปูเส้นทางชีวิตนักร้อง เชื่อความรัก-ห่วงใย "เพชรา เชาวราษฎร์" คงอยู่ตลอดไป ไม่ว่าในภพใด
การจากไปตลอดกาลของ "ชรินทร์ นันทนาคร" ศิลปินแห่งชาติผู้ทรงคุณค่า และวันนี้ (วันพุธที่ 21 สิงหาคม 2567) เป็นวันแรกในการจัดพิธีสวดพระอภิธรรม ทางด้านของ "ตู่ นันทิดา" เดินทางมาพร้อมกับลูกสาว "เพลง ชนม์ทิดา" พร้อมกับเปิดใจอาลัยรัก "ศิลปินนักร้อง ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้อำนวยการสร้าง นักแสดง เป็นทั้งหมด เป็นผู้ที่มีบทเพลงที่อยู่ในช่วงความทรงจำ คุ้นเคยมาตั้งแต่พี่อยู่แต่เด็ก อยู่ในวงการเพลงมานานมากๆ มีชื่อเสียงที่ประชาชนรัก จนมาถึงคอนเสิร์ตสุดท้ายเมื่อปีที่แล้ว เป็นศิลปินที่มีประชาชนรักมาอย่างยาวนาน
"ย้อนไปเมื่อปี 2521 พี่เป็นเพียงนักร้องสมัครเล่น แต่วันดีขึ้น มีผู้ใหญ่ที่ชื่อ ชรินทร์ โทรหาผู้ใหญ่ทางช่อง 3 มาขออนุญาตนำเด็กของคุณไปแสดงภาพยนตร์เรื่อง เพลงรักดอกไม้บาน ตอนที่ติดต่อมา เราก็บอกไปว่า ขอไม่เล่นเพราะเป็นนางเอกไม่สวย แล้วเขาบอกว่า ไม่ต้องนางเอกที่สวย ต้องการนางเอกที่เก่ง ทำให้เราได้แสดงเป็นนางเอกหนักเรื่องแรก ทำให้มีผลงานเพลงดังถึงทุกวันนี้ จำกันบ่ได้กา"
"อันนี้แหละ ต้องเรียกว่า ท่านเป็นผู้ที่เปิดความเป็นนันทิดา ทำให้เราได้มีโอกาส และเรียกว่า เป็นปรากฏการณ์โรงแตก ที่ไม่ว่าไปที่ไหนคนก็มาตาม หลายครั้ง คอนเสิร์ตจะมีทุกปี แล้วเรามีโอกาสได้ไปรับใช้เสมอ อัลบั้มสุดท้ายที่พี่มีโอกาสได้พูดถึงพ่อคือ อาลัยรัก เป็นเพลงที่ท่านได้รับรางวัล ที่จริงท่านบอกว่า จะมีคอนเสิร์ตในปีนี้"
"มันเป็นความภูมิใจ และเป็นสิ่งที่มีความหมายที่สุดในชีวิตที่เราได้มีโอกาสรู้จักท่าน คอนเสิร์ตเมื่อปีที่แล้ว คุณพ่อ เริ่มจำเพลงที่จะร้องไม่ได้ และทีมงานบอกว่า ท่านจำไม่ได้ว่า มีคอนเสิร์ตวันนี้ แต่ท่านยังเป็นคนที่แข็งแรง เพราะท่านจะมีความเตรียมความพร้อมเสมอ"
"ไม่มีทางลืมท่าน ท่านคือตำนานที่อยู่คนไทย ถึงแม้จะอยู่บนฟ้า ก็ขอให้ท่านมีแต่ความสุข จริงๆพ่อเป็นคนที่สนุก ตลก และสร้างรอยยิ้ม สร้างเสียงหัวเราะ จะคอยสร้างกำลังใจ ให้กับคนข้างกาย อย่างคุณเพชราเสมอ เราจะเป็นโมเนนต์หยอกล้อ"
"สิ่งที่พ่อห่วง และรักมากที่สุด แต่ความห่วงนั้นมีอยู่เสมอ แต่ห่วงโดยที่รู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งแข็งแกร่ง พี่ได้เห็นมาโดยตลอด และตั้งแต่วันที่ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า เธอฉันมองไม่เห็นแล้วนะ นี่ยิ่งทำให้ความรักของคนทั้งสองคนผูกพันยิ่งขึ้นไป นี่แหละคือสิ่งที่ตัดไม่ขาด เป็นความห่วงที่ไม่ได้กังสล แต่ประคองกันด้วยจิตอันบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะอยู่ในที่ไหน"