ดุเดือด "ไททศมิตร" วงร็อกแห่งยุค ใส่สุด จัดเต็มคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก
กระหึ่ม 2 รอบเต็ม "ไททศมิตร (TaitosmitH)" ใส่สุดในคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก "กูฟังเพลงไท" สะใจแฟนเพลง พร้อมด้วยแขกรับเชิญระดับแนวหน้า อาทิ "เบิ้ล คณะขวัญใจ, พี่ตูน Bodyslam, จินตหรา พูนลาภ"
ทำถึงสมการรอคอยคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก "กูฟังเพลงไท" ของ "ไททศมิตร (TaitosmitH)" วงดนตรีร็อกเนื้อหาเพื่อชีวิตจากค่าย GeneLab ในเครือ GMM MUSIC ส่งมอบความสุขให้กับเหล่าเสาไฟ (ชื่อเรียกแฟนเพลงของวง) จัดเต็ม 2 รอบสุดพิเศษ เมื่อวันที่ 14-15 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี
ระเบิดพลังการแสดงที่อัดแน่นไปด้วยดนตรีที่มีเอกลักษณ์ แสง สี เสียง ที่ดุเดือด เร้าใจ ตลอดทั้งงานแบบใส่สุดแรงไม่มียั้งกว่า 4 ชั่วโมง โดยบรรยากาศภายในงานคึกคักไปด้วยเหล่าเสาไฟที่เดินทางมาทั่วทุกสารทิศเพื่อรอเจอไททศมิตร วงดนตรีที่พวกเขาชื่นชอบ พร้อมต่อคิวจับจองของที่ระลึกคอนเสิร์ตและอัลบั้ม "ภาคพิสดาร" วางขายครั้งแรกที่งานอย่างเนืองแน่น
การจัดคอนเสิร์ตถึง 2 รอบติดกันนี้ คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่าไททศมิตรมีฐานแฟนเพลงที่เหนียวแน่นและพร้อมสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่ และเมื่อถึงเวลา 1 ทุ่มตรง เสียงดนตรีเริ่มดังขึ้นพร้อมเสียงเชียร์ของแฟน ๆ ที่ดังกระหึ่มในทันทีเมื่อ "จ๋าย อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี (ร้องนำ), โมส ตฤณสิษฐ์ สิริพิชญาศานต์ (ร้องนำ), เจ ธนกฤต สองเมือง (คีย์บอร์ด), มีน ปัณณสิทธิ์ สุขโหตุ (กีตาร์ โซโล่), เจต เจษฎา ปัญญา (เบส), ตุ๊ก พัฒนภูมิ ชอุ่มผล (กลอง)" ปรากฏตัวขึ้นบนเวทีด้วยพลังดนตรีที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมทีม Chorus , Percussions, Brass Section
งานนี้พวกเขาขนเพลงตั้งแต่ยุคอินดี้จนถึงปัจจุบันมาโชว์ให้แฟนเพลงได้ฟังอยากจุใจกว่า 33 เพลง เปิดด้วยเพลง "Amazing Thailand" ต่อด้วย "ยุติ-ธรรม" เพลงที่สะท้อนความเจ็บปวดและความเป็นจริงของสังคมไทย ตามด้วยเพลง "รจนา" ที่มีการนำระนาดเอกบรรเลงเพิ่มสีสันให้แฟนๆ ได้อินไปกับเพลงและร้องตามกันอย่างสุดเสียง ทำให้บรรยากาศในฮอลล์เดือดขึ้นทันทีตั้งแต่ช่วงแรก ต่อด้วยเพลงที่เป็นจุดเริ่มต้นให้แฟนเพลงได้รู้จักพวกเขาอย่าง "เป็นตะลิโตน , Pattaya Lover และโยกหัวกันต่อไปกับเพลงที่ทำได้เข้าถึงอารมณ์อย่าง "ทนได้ทุกที" และ "ผีพนัน"
จากนั้นพวกเขาก็ไต่กราฟความสนุกในคอนเสิร์ตนี้ขึ้นไปอีกแบบไม่มีพักด้วย "บังขายถั่ว , จะหมัดจะมวย , เพื่อนผมเกมได้ไง , เสื้อกั๊ก และ ไอ้สอง" ที่มาพร้อมหางเครื่องและแดนเซอร์ชุดใหญ่ทำเอาแฟนเพลงทั้งโดดทั้งเต้นกันแบบสุดตัว ต่อด้วยการเปิดตัวแขกรับเชิญสุดพิเศษช่วงแรก อย่าง "เบิ้ล คณะขวัญใจ" ที่มาในเพลง แม่เสือสาว , "หมู ไววิทย์" กับเพลง มีชีวิตเพื่อคนอื่น และ "ไม้หมอน วชิรวิทย์" กับเพลง "หลุด" ที่มาร่วมส่งต่ออุดมการณ์ดนตรีเพื่อชีวิตรุ่นใหม่ด้วยกันในเพลง "หัวใจเสรี" ต่อด้วยเพลงจากอัลบั้มแรกของวงที่หลายคนคิดถึงอย่าง "ฮาคูน่า มาทาท่า" , "คางคก"
จากนั้นไททศมิตรก็ได้เซอร์ไพรส์แฟนเพลงด้วยการปรากฏตัวในลุคแปลกตาด้วยชุดสูทพร้อมเล่นเพลงช้าสุดซึ้งเข้าถึงอารมร์อย่างเพลง "ตราบ , แอบเก็บความในใจไว้ภายในแว่นเรย์แบนสีดำ" และพวกเขาได้นั่งพูดคุยกับแฟนเพลง โดยจ๋ายได้เล่าถึงการเดินทางของวง ได้เปิดใจถึงความหมายเบื้องหลังของเพลงที่งานนี้ทำเอาหลายคนเสียน้ำตาไปกับมิตรภาพที่สวยงามและจริงใจแบบลูกผู้ชายของวงไททศมิตรในเพลง "มึงกับกู" ตามด้วยเพลงช้าเนื้อหาเข้มข้นและเศร้าที่สุดจากไททศมิตรที่มา
พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ "พี่ตูน Bodyslam" มาร่วมถ่ายทอดทุกความรู้สึกของเพลง "กี่ฤดู" และชวนเหล่าเสาไฟกระโดดกันต่อไม่ให้พักไปกับเพลง "ท่านผู้ชม , คนมีตังค์" สร้างความสนุกและประทับใจให้แฟนเพลงในฮอลล์ จากนั้นเวทีก็กลับมาเดือดและฮึกเหิมด้วยเพลงที่สะท้อนถึงการต่อสู้และการยืนหยัดในชีวิตอีกครั้งในเพลง "เพื่อชีวิตกู"
ตามด้วยเพลงที่ใครหลายคนรอคอยอย่าง "โคโยตี้" ที่วงได้เซอร์ไพร์แฟนเพลงด้วยการชวน "จินตหรา พูนลาภ" มาร่วมร้องในเพลงนี้ และชวนเหล่าเสาไฟเซิ้งกันต่อไปกับเพลง "มาทำไม" พร้อมเครื่องดนตรีประจำวงหมอลำอย่าง พิณ แคน และหางเครื่องแบบจัดเต็ม เหมือนยกเวทีหมอลำของแท้มาผสมผสานกับร็อกเพื่อชีวิตของไททศมิตรอย่างลงตัว และมาถึงช่วงที่ไททศมิตรสาดความเดือดกันต่อด้วยเพลง "หมวกกันน็อค" , "ไส้แห้ง" , "แดงกับเขียว"
ตามด้วยเพลงฮิตชวนคิดถึงบ้านอย่างเพลง "Hello Mama" ที่แฟนเพลงร้องตามกันดังกึกก้องไปทั่วทั้งฮอลล์ พร้อมกับคำกล่าวขอบคุณที่วงตั้งใจมอบให้แฟนเพลงที่คอยสนับสนุนมาตลอด ต่อด้วยเพลง "สักวันหนึ่ง" ที่โมสและจ๋ายได้ลงจากเวทีไปหาคนดู เรียกว่าเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและมีความหมายกับทั้งศิลปินและแฟนเพลงมากจริงๆ
ก่อนปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยความมันส์แบบพุ่งทะลุกราฟด้วยเพลง "นักเลงเก่า" แต่เหมือนแฟนเพลงจะยังไม่อยากให้โชว์จบลง ต่างส่งเสียงเรียกชื่อวง "ไททศมิตร" อย่างต่อเนื่อง วงเลยขึ้นมาโชว์เพลงที่มีความหมายกับวงอย่าง "อนัตตา" และปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลง "แดงกับเขียว" อีกครั้ง งานนี้เรียกว่ามีเท่าไรใส่กันสุดพลังแทบไม่เหลือแรงกลับบ้าน ก่อนลากันไปด้วยเสียงปรบมือและเสียงตะโกนขอบคุณทั้งจากศิลปินและแฟนเพลงที่ดังก้องไปทั่วทั้งฮอลล์
เรียกได้ว่าคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของไททศมิตรจบลงไปด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม เป็นค่ำคืนที่ครบรสด้วยพลังแห่งมิตรภาพ ความสุข ความสนุกสุดมันส์ "กูฟังเพลงไท" ไม่เพียงแต่เป็นคอนเสิร์ตที่แสดงถึงพลังดนตรีของไททศมิตรเท่านั้น แต่ยังเป็นการรวมตัวของเหล่าแฟนเพลงผู้รักในดนตรีที่สะท้อนสังคมอย่างแท้จริงด้วย