"เสก โลโซ" แจงปมลาวงการ ยัน! จะร้องเพลงไปจนตาย ป่วยซึมเศร้าก็ทำงานได้
“เสก โลโซ” จัดคอนเสิร์ตหาเงินช่วยหมาแมวน้ำท่วมเชียงราย ยัน!ไม่ทิ้งวงการ ป่วยซึมเศร้าก็ทำงานได้ เตรียมแต่งเพลงใหม่เข้าใจเมียห่วงอยากให้พัก แต่ขอรันวงการต่อ ประกาศ! จะขอร้องเพลงไปจนตาย ส่วนเรื่องแฟนคลับให้กลับมาดูแลเพจเอง งานนี้ขอบายหวั่นเมียไม่ให้เข้าบ้าน
หลังจากร็อกเกอร์ชื่อดัง “เสก โลโซ” ประกาศช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติโดยระบุว่า "ปีนี้ผมขออาสาช่วยหมาแมวที่น้ำท่วมเชียงรายก็แล้วกันนะครับ จัดคอนเสิร์ตวันที่ 19 เสร็จแล้วจะโอนเงินไปช่วยทันทีเลยครับ เป็นห่วงทั้งคนทั้งสัตว์เลยครับ" ซึ่งคอนเสิร์ตการกุศลจัดขึ้นเมื่อค่ำคืนที่ วันที่ 19 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เจ้าตัวยังได้อัปเดตเรื่องสุขภาพที่ในขณะนี้ยังคงต่อสู้กับโรคซึมเศร้า ที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ทำเอาแฟนๆต่างห่วงไม่น้อย งานนี้เจ้าตัวก็ออกมายืนยัน! แม้ต้องกินยาเป็นประจำ ป่วยซึมเศร้าก็ทำงานได้ ไม่ลาวงการแน่นอน พยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุด โดยตอนนี้มีคิวงานยาวไปจนถึงปี 68 แม้ภรรยา กานต์ วิภากร อยากให้พักบ้างเพราะเห็นอาการเครียดจากโรคซึมเศร้า แต่เจ้าตัวบอกว่าการเล่นคอนเสิร์ตและทำบุญช่วยให้คลายเครียดได้และ “จะร้องเพลงตลอดไปจนตาย”
ส่วนเรื่องข่าวลือเตรียมย้ายไปอยู่ชิคาโก เสก โลโซ บอกชัดเจนว่าไม่เป็นความจริง เป็นแค่ความคิดของภรรยาที่อยากซื้อบ้านที่นั่น แต่ตนเองไม่คิดทิ้งแฟนเพลงชาวไทยไปไหน “พี่ไม่ไปหรอก เขาโม้ไปอย่างนั้นแหละ พี่จะหนีใคร ผมไม่หนีประเทศไทยไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ กานต์เนี่ยเขาจะไปซื้อบ้านที่ชิคาโก้ จะเอาผมไปอยู่ ผมก็บอกไม่ไปหรอกจะทิ้งแฟนเพลงไปได้ยังไง คนรักอยู่ทั้งประเทศ ถ้ากานต์ไปซื้อก็ไปเที่ยวเป็นครั้งเป็นคราวนี่แหละ จะหนีไปอยู่เลย พี่เท็ดดี้จะอยู่กับใคร ”
ส่วนอีกหนึ่งประเด็นที่แฟนคลับขอให้ เสก มาคุมเพจ SEK LOSO แทนภรรยาได้ไหม งานนี้เจ้าตัวตอบแบบพ่อบ้านเกรงใจภรรยาสุดๆ “พี่ไม่ค่อยอยากเล่นโซเชียล ก็ให้กานต์เขาเล่นไป ส่วนใหญ่กานต์เขาโพสต์ทั้งนั้นแหละ เราทวงคืนได้ไง เขาเป็นแอดมิน เขาเอาไปแล้ว พี่จะไปดีลีตต์เขาออกจากการเป็นแอดมินก็ไม่ได้ เขาไม่ให้นอนบ้านพี่จะทำยังไง อยากโพสต์อะไรก็โพสต์ไปเถอะ แค่พี่เหมือนเดิม เดี๋ยวแข็งแรงเมื่อไหร่ก็จะเขียนเพลง เดี๋ยวจะแต่งเพลงใหม่ครับ ถ้าจะทำอัลบั้มใหม่ก็จะเขียนเพลงใหม่ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ยังรักกันตลอดไปครับ” เข้าใจแล้วพี่เสกกลัวจะไม่ได้นอนที่บ้านนี่เอง