บันเทิง

ขุดคุ้ย "วู้ดดี้  มิลินทจินดา" ชีวิตที่ดิ้นรน จนเกือบตาย ก่อนรู้จักปล่อยวาง?

ขุดคุ้ย "วู้ดดี้ มิลินทจินดา" ชีวิตที่ดิ้นรน จนเกือบตาย ก่อนรู้จักปล่อยวาง?

21 ก.ย. 2567

ขุดคุ้ย "วู้ดดี้ มิลินทจินดา"พิธีกรชื่อดัง กับการเปลือยชีวิตที่ดิ้นรน ตามฝันของตนเองจนเกือบตาย เพราะอาการกำเริบ นาทีนั้นทำให้ไห้พลิกมุมก่อนรู้จักการปล่อยวาง? มีเจ้าชายสิทธัตถะเป็นไอดอล

อีกหนึ่งพิธีกรดัง มากความสามารถอย่าง "วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา"ที่เห็นประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้ เจ้าตัวเคยตรากตรำทุกข์มาก่อน สู้มาหลากหลายรอบ ถูกบูลลี่และทำร้ายเพราะเป็น LGBTQ  น่าตกใจที่เกือบสิ้นลม เกือบตายเพราะโรคปัจจุบัน ขณะทำรายการ เรื่องราวที่ไม่ได้โรยด้วยกุหลาบของ "วู้ดดี้" ถูกขุดคุ้ยเล่าผ่านรายการอย่างน่าสนใจ

 

ขุดคุ้ย \"วู้ดดี้  มิลินทจินดา\" ชีวิตที่ดิ้นรน จนเกือบตาย ก่อนรู้จักปล่อยวาง?

"วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา"ได้เปิดชีวิตเปลือยเรื่องราวอีกมุมที่ต้องต่อสู้กว่าจะสุกสว่างแบบปัจจุบันในรายการ Level Up หลากหลายช่องหลากหลายตอนเป็นอุทาหรณ์ให้เราได้ตั้งคำถามกับชีวิตของตัวตน? 

 

ชีวิตวัยเด็กที่ถูกบูลลี่ - ทำร้ายร่างกายเพราะแตกต่าง?

"วู้ดดี้"เล่าว่า "สู้ชีวิตตั้งแต่เด็ก คุณพ่อเป็นนักการทูต ก็จะพาเราไปประเทศต่างๆ มีความสมบูรณ์แบบมาก ในอดีตจะนึกถึงการอยู่ด้วยกันแค่ 4 คน ต้องปรับจูนกับสังคม มีความท้าทาย เจอการเหยียด ถามว่าขี่ช้างไปโรงเรียนหรือเปล่า จนเข้าไฮสคูลก็ถูกบูลลี่เพราะว่าเราชัดเจนว่าเป็น LGBTQ คนไม่เห็นด้วย ในสมัยนั้นก็จะลงไม้ลงมือ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาทำเพื่ออะไร และก็ได้คำตอบว่าเขาก็แค่ไม่เข้าใจ

 

ถ้ามองว่าเราเหยื่อ เราจะทุกข์มาก ก็แค่เปลี่ยนความคิด การโดนบูลลี่ การโดนเหยียดก็ทำให้เราผ่านทุกอย่างได้ ทำให้รู้สึกแกร่ง โดนปฏิเสธก็ต้องไปต่อ

 

ขุดคุ้ย \"วู้ดดี้  มิลินทจินดา\" ชีวิตที่ดิ้นรน จนเกือบตาย ก่อนรู้จักปล่อยวาง?

เส้นทางวงการบันเทิง


"เราอยากเล่นละครเวทีมาก ไปสมัครก็ไม่ผ่าน เราก็โอเค ไม่เป็นไรก็สมัครต่อไป แคสต่อไปเรื่อยๆ เพิ่งรู้ตัวว่าฝันจริงๆ คืออยากเป็นนักแสดง การเป็นพิธีกรเป็นแค่สิ่งที่เราทำได้ดี ตอนอายุ 10 กว่าขวบก็ไล่ล่าหาฝัน 

พอกลับมาไทย ชีวิตตอนนั้นมึนๆ งงๆ แต่มีความสุขมากเพราะได้กลับมาอยู่กับยาย ตอนที่เรียน ก็ไม่ได้เรียนนิเทศฯ แต่เรียนเศรษฐศาสตร์ และช่วงฝึกงานก็ไปฝึกงานที่กองฯ แต่ไม่ได้อยากเป็นนักแสดงเพราะรู้ว่าตัวเองไม่คู่ควร ภาษาไม่ได้ หน้าตาไม่ได้ อีกหลายอย่าง หลอกตัวเองว่าเราคงไม่ได้ หาอย่างอื่นในวงการบันเทิงทำ

งานแรกในวงการบันเทิงคือเล่นเอ็มวีเพลง เล่นเป็นตัวประกอบ ออกมา 2 วินาที ได้เงิน 500 บ้าน  ยอมรับว่าการเป็นนักแสดงก็ต้องหิว ถ้าไม่หิวก็ไม่มีตัวตน แต่ต้องหิวให้เป็น อยู่ในแสงที่พอเหมาะพอควร แสงมาตรงไหนเราไป


สุดท้ายมีโปรดิวเซอร์ คนนึงติดต่อมาหาเพราะอยากได้ดีเจ 2 ภาษา ให้ไปออดิชั่นแล้วก็ได้ และเป็นงานที่ตอบโจทย์มาก การจัดรายการที่ได้เป็นตัวของตัวเองที่สุด แต่ก็เจอคนว่าในโซเชียลว่ากระแดะ และในทุกๆ เดือน จะต้องมีการมาดูการจัดอันดับดีเจว่าคนฟังชอบใครมากที่สุด อันดับ 1 ที่คนไม่ชอบมากที่สุดคือ "วู้ดดี้"

ตอนที่ทำรายการทอร์คบอกเลยว่าไม่เป็นตัวของตัวเองเลย แสดงอยู่ 7-8 ปีในการทำเกิดมาคุย ชีวิตคือการแสดง
 

ขุดคุ้ย \"วู้ดดี้  มิลินทจินดา\" ชีวิตที่ดิ้นรน จนเกือบตาย ก่อนรู้จักปล่อยวาง?

 

พอเปลี่ยนสไตล์การทำรายการ คนก็บอกว่าไม่แรงเลย ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ในตอนที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากการทำรายการ ตอนนั้นมีทั้งความสุขมากและไม่มีความสุขในเวลาเดียวกัน ตอนนั้นได้เรตติ้ง ได้ชื่อเสียง แต่ไม่มีเพื่อน ไม่มีดารามาคุยกับเรา เพราะเขามาออกรายการแล้วเขาโดนด่า เพราะเขามาแก้ข่าว แต่คนไม่เชื่อ เขามาออกรายการก็มีแต่เสียกับเสีย คนโดนด่าเพิ่มขึ้น และเราก็ได้ผลเสียตอบกลับมาว่าทำไมยังทำรายการนี้ ตอนนั้นมันย้อนแย้งในตัวเอง เพราะมันเป็นรายการที่เราปั้นมากับมือ สร้างมากับมือแต่ชิงชังมัน เป็นความสับสนในตัวเองตอนนั้น ก็เลยยุติ

 

ตอนที่มีอาการแพนิกครั้งแรก กำลังนั่งกินข้าวกับ "เจนนี่-ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" เพื่อชวนทำรายการ แต่ไม่กล้าบอกเขาว่าเรากำลังจะตาย หายใจไม่ออก ก็ขอตัวก่อนแล้วไปหาหมอ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นแพนิกเลย คิดว่าปัญหาจิตเวชไม่เกิดขึ้นกับตัวเองแน่ แต่เพราะเป็นคนไม่ปล่อยวางก็เลยเป็น 

 

ขุดคุ้ย \"วู้ดดี้  มิลินทจินดา\" ชีวิตที่ดิ้นรน จนเกือบตาย ก่อนรู้จักปล่อยวาง?

 

"ไอดอล"คือ เจ้าชายสิทธัตถะ?

มีเจ้าชายสิทธัตถะเป็นไอดอล อยากใช้ชีวิตแบบนี้ได้ เรามองแบบมุมมองวิทยาศาสตร์ ไม่ได้มองแบบต้องจุดธูปเทียนกราบไหว้ การปฏิบัติมันเป็นสากลมาก ก็เลยชอบมาก แต่ไม่ได้คิดปล่อยวางทุกเรื่องนะ อย่างเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น ก็ต้องจัดการให้สมูท ไม่ใช่ปล่อยวางจนไม่แคร์อะไร เราจะกลายเป็นแค่ถุงพลาสติกที่ล่องลอยในอากาศ เกิดเป็นคนต้องสร้างอะไรบางอย่างไว้ ไม่ใช่ไปแล้วก็ควรจะทิ้งอะไรดีๆ กับสังคม ตรงนี้จะไม่ปล่อยวาง ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

 

ขุดคุ้ย \"วู้ดดี้  มิลินทจินดา\" ชีวิตที่ดิ้นรน จนเกือบตาย ก่อนรู้จักปล่อยวาง?

 

ชีวิตหลังจากที่ได้เรียนรู้ทางโลก อนาคตเป็นอย่างไร?

ในวันนี้การที่ดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอก มันเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะเราใช้ร่างนี้เปลืองมาก ตลอด 40 กว่าปี ไม่เคยเบรกเลย การให้คุณค่าและรักตัวเองคือการดูแลตัวเอง ตอนนี้ทำได้ดีมากและมีความสุขมากกับตัวเอง ก็ทำให้เห็นสัญชาตญาณชัดขึ้นว่าอะไรผิดอะไรถูก ตอนนี้ได้เป็นตัวเองที่สุดแล้ว แต่ในอนาคตอาจจะเปลี่ยนก็ได้นะ เพราะเราไม่ยึดติด เกิดมาชาติเดียวเป็นได้หลายอย่าง เปลี่ยนไปตามทิศทางของลม แต่ตอนนี้มันดีที่สุดแล้ว มีความสุข ได้ล่าฝัน ตื่นมาแล้วชีวิตมีความหมาย

 

ขุดคุ้ย \"วู้ดดี้  มิลินทจินดา\" ชีวิตที่ดิ้นรน จนเกือบตาย ก่อนรู้จักปล่อยวาง?