แฉวีรกรรม "เจษ เจษฎ์พิพัฒ" เพิ่งรู้ สนิทกับ "อะตอม ชนกันต์"
เห็นพระเอกหนุ่ม "เจษ เจษฎ์พิพัฒ" มักมีไวรัลตอบคอมเมนต์แฟนๆแซ่บได้ใจ จนถูกแชร์ในโซเชียลบ่อยๆ ล่าสุดเจ้าตัวเปิดใจ แท้จริงแล้ว เป็นคนขี้อายตั้งแต่เด็ก แถมเพิ่งรู้ เป็นเพื่อนซี้กับ "อะตอม ชนกันต์" ตั้งแต่สมัยเรียน
ใครจะรู้ว่า "เจษ เจษฎ์พิพัฒ" และ "อะตอม ชนกันต์" เป็นเพื่อนซี้กันมาก่อนตั้งแต่สมัยเรียน งานนี้ต่างคนต่างเม้าท์กันแบบเผาขน ในรายการ "วอดอวอแว" แท้จริงแล้วหนุ่มเจษขี้อายตั้งแต่เด็ก ส่วนอะตอมเป็นคนแต่งตัวเนี้ยบมากตั้งแต่สมัยเรียน
อะตอม : คือผมกับเจษเรียนโรงเรียนเดียวกันครับ ก็คือกรุงเทพคริสเตียน แล้วก็แยกย้ายกันไปเรียนมหาวิทยาลัยหลายปี สุดท้ายก็มาอยู่กึ่งๆ บริษัทเดียวกันแหล่ะ ผมก็อยู่ในเครือแกรมมี่ เขาก็เป็นนักแสดงอยู่ในเครือแกรมมี่ ก็เจอกันไปเจอกันมาบ้าง แต่เรายังไม่เคยมีโอกาสทำงานด้วยกันเลยนะแปลกมาก
เล่าวีรกรรมของแต่ละคนที่แสบสุด ?
เจษ : สำหรับอะตอมถ้าแบบจี๊ดจ๊าดคงต้องเป็นสมัยมหาวิทยาลัยมากกว่า เขารับหน้าที่เล่นดนตรีกลางคืนอยู่ร้านๆหนึ่ง แล้วผมก็จะชอบไปหาเพื่อนที่ธรรมศาสตร์ก็จะเจอเขาตลอดเวลา สภาพคือกึ่งคนกึ่งเมาไปแล้วอ่ะ (หัวเราะ) เสียงก็จะเป็นแบบเปลี้ยๆ นิดหนึ่ง เราก็จะเจอเขาสภาพนั้นตลอดเวลา แล้วเขาก็จะเป็นคนแบบแต่งตัวดีตลอดเวลา แต่ว่าเขาไม่ค่อยมีเรื่องอะไรแสบๆตั้งแต่เด็กๆเลยนะ เชื่อไหม 12 ปีผมไม่เคยเรียนอยู่ห้องเดียวกับอะตอมเลย
อะตอม : ใช่ครับ จริงๆ มาเริ่มสนิทกันเพราะว่าเล่นดนตรี เจษเขาตีกลองแล้วก็พี่ชายเขาเล่นกีฬา แล้วก็มาตั้งวงดนตรีด้วยกัน ไปเล่นตามงานในโรงเรียน จอยๆ เพราะฉะนั้นเราก็จะคอนเนคกันเรื่องเพลงค่อนข้างเยอะ
เจษเป็นยังไงบ้าง ?
อะตอม : ผมว่าเขาขี้แอค (หัวเราะ) คือมันจะมีกรุ๊ปลูกเสือที่เป็นหน่วยพิเศษในสมัยก่อน ซึ่งเขาจะเป็นตัวหล่อ เครื่องแบบก็จะไม่เหมือนคนอื่น เขาก็จะดึงๆแอคๆของเขา แต่สุดท้ายพอมาสนิทกันจริงๆ มันก็แอคจริงๆนินา (หัวเราะ) หยอกๆ ไม่ใช่หรอกทรงมันดีไง เราก็หมั่นไส้สักนิด
เจษ : ผมเป็นคนที่ขี้อายมาก ตอนเด็กๆโคตรขี้อายเลย ไม่กล้าขึ้นเวที พูดหน้าห้องยังไม่กล้าเลย แต่มาปลดล็อกตอนเล่นละครโรงเรียน แล้วตอนนั้นคือผมเริ่มเล่นหนังของพี่พจน์ อานนท์ แล้ว คนก็จะเรียกเราว่าดาราๆ เสร็จปุ๊บก็คิดว่าเราเป็นดาราก็ต้องเฉิดฉายทางด้านการแสดง ก็เลยไปแคชละครเวทีของโรงเรียน เราต้องเจอคนเยอะๆ มาทำงานอยู่เอ็กแซ็กท์ก็ต้องถ่ายในกองละคร ไปงานอีเว้นท์ มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ
คุณได้มีโอกาสมารับบทบาทในซีรีส์ Boy Love เป็นยังไงบ้าง ?
เจษ : จริงๆ แล้วผมไม่ได้มองว่ามันแตกต่าง คือคนจะชอบบอกว่าอันนี้ละคร อันนี้หนัง อันนี้ซีรีส์ อันนี้ซีรีส์วาย ซึ่งผมไม่เห็นด้วย รู้สึกว่าการแสดงมันก็คือการแสดง ทุกวันนี้มันก็เหมือนกันหมดแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็เลือกตามจากบทที่ดี โปรดักชั่นที่ดีแค่นั้นเอง แล้วพอได้ไปเล่นกับทาง Be On Cloud โปรดักชั่นเขาดีมาก ภาพสวยมากและเขาให้ความสำคัญกับการแสดงมากๆ เพราะฉะนั้นผมเลยไม่ค่อยแคลงใจอะไรครับ เอาจริงๆพอไปเล่นแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็น Boy Love ที่เราไม่เคยเล่น ก็แค่เป็นตัวละครก็เล่นได้ปกติ
อะตอม : แต่ผมนี่เกร็งรอเลยนะ เจษมันเอาแล้ว ก้าวมาทางนี้แล้ว (หัวเราะ) จริงๆ ก็ตื่นเต้นแทนเพื่อนแหล่ะ ก็เป็นอีกก้าวที่เพื่อนต้องผ่านความท้าทายในการแสดง
เจษ : พอมาถึงจุดหนึ่งเราโหยหาอะไรที่แตกต่าง บางทีถูกจำกัดด้วยกรอบอะไรบางอย่าง ที่แบบคนบอกว่าละครไทยต้องเล่นแบบนี้ ซีรีส์ต้องเป็นแบบนี้ ซึ่งผมรู้สึกว่าใครมันควรจะเล่นอะไรก็ได้
อะตอม : มันก็ค่อยๆเปลี่ยนไปนะ ผมว่าช่วงหลังๆ กรอบมันค่อยๆเริ่มละลายไปทีละนิดๆ
เจษ : สิ่งที่คนมองคำว่าซีรีส์วายมันก็ต่างออกไป คนไม่ได้มองว่าเด็กเล่นซีรีส์วายต้องอยากดังแน่เลย คนก็เริ่มเปิดใจว่ามันเป็นอีกช่องหนึ่งของซีรีส์ให้เราดูมากกว่า