"แอ๊ด คาราบาว" เล่าที่มาเพลง "ดอกไผ่บาน" แค่ลมพัดก็แต่งเป็นเพลงได้แล้ว!
ชายในฝันเงาในน้ำ เหมือนเมฆลอยอยู่ในอากาศ "ดอกไผ่บาน" อีกหนึ่งบทเพลงที่เป็นตำนานของวงดนตรีเพื่อชีวิตชื่อดังของไทย "แอ๊ด คาราบาว" เล่าที่มาที่ไปของเพลงดอกไผ่บาน แค่ลมพัดก็แต่งเป็นเพลงได้แล้ว
แอ๊ด คาราบาว หรือ ยืนยง โอภากุล มีใจรักเสียงดนตรีตั้งแต่เด็กๆ ส่วนหนึ่งมาจากที่พ่อของ แอ๊ด เป็นหัวหน้าวงดนตรีประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ชื่อวงดนตรี ชสพ. เมื่อปี พ.ศ. 2480 ต่อมาเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นได้รับอิทธิพลจากดนตรีแนวตะวันตกจึงหันมาเล่นเครื่องดนตรีตะวันตกต่างๆ จึงเดินตามฝันในเส้นทางนักดนตรีในเวลาต่อมา ปัจจุบัน แอ๊ด เป็นนักร้องเพื่อชีวิตอันดับต้นๆ ของเมืองไทย พร้อมเป็นเจ้าของธุรกิจชื่อดัง
หากจะกล่าวถึงฝีมือทั้ง การร้อง เรียบเรียง แต่งเพลง การทำเพลง ของ แอ๊ด คาราบาว ในแวดวงดนตรีนั้นต่างยกให้เป็นระดับตำนานเพราะในแต่ละเพลงนั้นแฝงความหมายอันลึกซึ้งเล่าเรื่องราวชีวิตผ่านบทเพลงได้ออกมากินใจอย่างบทเพลง เพลงดอกไผ่บาน ที่โด่งดังไม่น้อย ล่าสุด แอ๊ด คาราบาว ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก เล่าที่มาที่ไปของบทเพลงนี้ว่า
" เพลงดอกไผ่บาน นั่งแต่งหน้าบริษัท แถวๆ RCA ก่อนเข้าประชุม มาเกลี่ยให้จบเพลงอีกทีที่โอลด์เล้ง เกิดจากจุดเพียงแค่เห็นลมพัดใบไผ่ แถวนั้น ก็ขยายความเอาเอง เดินเรื่องตามจินตนาการจนจบเพลง! “ดอกไผ่บาน”
ศิลปิน : คาราบาว - ปาน อัลบั้ม : หนุ่มบาว สาวปาน
เนื้อเพลง เพลงดอกไผ่บาน
ชายในฝันเงาในน้ำ
เหมือนเมฆลอยอยู่ในอากาศ
ดุจความรักที่ไม่เอื้อมอาจ
แหวกสายธารไปใกล้ชิดกัน
เมฆบนฟ้าคอยตั้งเค้า
เปลี่ยนรูปเงาไม่ยอมหยุดนิ่ง
ใจของคนไหวกว่าทุกสิ่ง
เปรียบปอยเมฆผกผันเพียงชั่วยาม
ค่ำบางคืนไม่กล้าเมา
แต่คืนนี้เราไม่เมาไม่ได้
เพราะความรักที่พลัดพรากไป
ยากเกินใจจะตัดได้ลง
คงเป็นเพราะสวรรค์ไม่ส่ง
นรกไม่สร้างรักจึงจางล้างใจ
เหลือแต่ตัวบาดรักท่วมกาย
หล่นจมลงในสายธารที่สิ้นหวัง
กิ่งไผ่ไหวเอน
พัดไปตามกระแสลม
ในราตรีที่ขื่นขม
โต้สายลมเพียงลำพัง
น้ำค้างพร่างพรู
คล้ายหยั่งรู้ความอ้างว้าง
ของราตรีที่เปราะบาง
หยาดน้ำค้างต่างน้ำตา
ดอกไผ่บานพยานแห่งรัก
บานเพื่อลาจากเจ้าจงปล่อยวาง
ความเข้มแข็งจะคอยเข้าข้าง
ความอ่อนแอจะต้องแพ้พ่าย
ดอกไผ่งามเบิกบานในใจ
ยังเฝ้าเก็บไว้เพื่อใครคนนั้น
นานเท่าใดคงไม่สำคัญ
จะคอยเติมฝันถึงวันที่ดอกไผ่บาน
กิ่งไผ่ไหวเอน
พัดไปตามกระแสลม
ในราตรีที่ขื่นขม
โต้สายลมเพียงลำพัง
น้ำค้างพร่างพรู
คล้ายหยั่งรู้ความอ้างว้าง
ของราตรีที่เปราะบาง
หยาดน้ำค้างต่างน้ำตา
ดอกไผ่บานพยานแห่งรัก
บานเพื่อลาจากเจ้าจงปล่อยวาง
ความเข้มแข็งจะคอยเข้าข้าง
ความอ่อนแอจะต้องแพ้พ่าย
ดอกไผ่งามเบิกบานในใจ
ยังเฝ้าเก็บไว้เพื่อใครคนนั้น
นานเท่าใดคงไม่สำคัญ
จะคอยเติมฝันถึงวันที่ดอกไผ่บาน
นานเท่าใดคงไม่สำคัญ
จะคอยเติมฝันถึงวันที่ดอกไผ่บาน