บันเทิง

"ซิลวี่"ว่าไงบ้าง "มิ้น มิณฑิตา"พูดแบบนี้ เรื่องความรัก ไร้แพลนแต่งงาน

"ซิลวี่"ว่าไงบ้าง "มิ้น มิณฑิตา"พูดแบบนี้ เรื่องความรัก ไร้แพลนแต่งงาน

01 พ.ย. 2567

"ซิลวี่"ว่าไงบ้าง หลัง"มิ้น มิณฑิตา"พูดแบบนี้ เรื่องความรัก เจ้าตัวเผยว่าปัจจุบันยังไร้แพลนแต่งงาน ยังไม่หมดเล่าย้อนอดีต โยงช่วงที่ทะเลาะกันหนักๆ

"มิ้น มิณฑิตา หรือ มิ้น AF" และ  "ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ หรือ ซิลวี่ The Star" นักร้อง นักแสดงดังอีกหนึ่งคู่รักคนบันเทิง ที่ออกมาเปิดเรื่องหัวใจที่ก้าวข้ามเรื่องเพศสภาพในยุคที่เปิดกว้างและเท่าเทียม ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเป็นคนดัง คนสาธารณะก็ถูกจับตามองในทุกความเคลื่อนไหว ความรักทั้งคู่เดินทางมาอย่างเรียบง่าย มีทั้งความสุข ความทุกข์ ปกติของชีวิตคนรักและคนทั่วไป

 

ล่าสุด "มิ้น มิณฑิตา หรือ มิ้น AF" ได้ออกมาแสดงมุมมองเรื่องการสมรสเท่าเทียม พร้อมเผยเส้นทางรักของเธอ และ "ซิลวี่"จุดเริ่มต้น การทำความเข้าใจ ครอบครัว และสังคมอย่างน่าสนใจ ว่าแต่ "ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ หรือ ซิลวี่ The Star"ฟังแล้วเป็นไงบ้างจ๊ะ

 

\"ซิลวี่\"ว่าไงบ้าง \"มิ้น มิณฑิตา\"พูดแบบนี้ เรื่องความรัก ไร้แพลนแต่งงาน

"มิ้น มิณฑิตา หรือ มิ้น AF" ได้ออกมาเล่าทุกซอกมุมชีวิต โดยเฉพาะเรื่องความรักของเธอ และแฟนรุ่นน้อง "ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ หรือ ซิลวี่ The Star" ที่ถูกเล็งและจับตามอง ผ่านรายการคุยแซ่บโชว์ บางช่วงบางตอนเธอเล่าว่า 

 

เรื่องความรัก "มิ้น - ซิลวี่" คบกันมา 4 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นเรียกว่า มันก็เป็นพรหมลิขิต เราเป็นคนบ้าคลั่งกับพรหมลิขิต ถ้าเกิดเจอแล้วใช่ไปต่อได้แล้วจะไปต่อเลย แต่ถ้าเกิดต้องพยายามในแง่จีบอยู่นั่น มันจะทำลายบรรยากาศอะไรซักอย่าง ด้วยความห่างกัน 7 ปี ช่วงแรกๆทะเลาะกันฉ่ำ 2 ปีแรกเรียกว่าระเบิดลง ไฟกับน้ำมัน แต่มาช่วงหลังนี้ดีขึ้นแล้ว

 

ตอน IG เราแค่รู้สึกว่าเขาน่ารักแบบไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ฟีลรู้ว่าน้องเป็นใคร เป็นศิลปินนะ แต่ว่าไม่เคยคิดในเชิงว่าจะเป็นแฟน แค่ว่าน้องเท่ห์ดี ตามใน IG กดไลค์บ้าง แอบหยอดบ้าง คอมเม้นท์แซวน่ารักจังเลย ขออ้อนหน่อยได้มั้ย ก็พูดเล่นไปเรื่อย ยังไม่ได้คิดอะไรเลย 

 

\"ซิลวี่\"ว่าไงบ้าง \"มิ้น มิณฑิตา\"พูดแบบนี้ เรื่องความรัก ไร้แพลนแต่งงาน

จุดที่ทำให้เราเริ่มชอบเขาหรือตกหลุมรักเขา ?

เรามารู้ตอนที่คบกันไปนานแล้วว่าเขาไปบอกเพื่อนเรา เขาถามว่ามิ้นชอบผู้หญิงมั้ย สุดท้ายเพื่อนก็จับให้เจอกันโดยที่ไม่ได้บอกเราทั้งคู่แล้วเราก็เลยได้เจอกันในพื้นที่ที่เราไม่ได้คาดหวังว่ามันมีอะไรระหว่างเรา เห็นสายตาแล้วรู้สึกว่าเรากับเขารู้สึกอะไรบางอย่าง 

 

ก่อนหน้านี้คบผู้ชายล้วนๆ ไม่เคยคบผู้หญิงมาก่อน ไม่เคยแม้แต่เป็นคนคุย  แต่ความรักครั้งนี้ไม่แปลกค่อยใจตัวเองเท่าไหร่ คือไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันมีพื้นที่ที่มิ้นรู้สึกว่ามิ้นไม่ได้เชื่อว่าเราเกิดมาเพื่อคู่กับคนที่สังคมบอกให้คู่ เธอเป็นดาราในมุมของสังคมที่เราจะได้ยินบ่อยๆก็คือก็ต้องคบกับไฮโซผู้ชายมีชาติตระกูลเลี้ยงดูเรามันจะมีความคิดเดิมๆที่เราต้องทำ อย่างตัวมิ้นเองเป็นแค่คนโรแมนติกมั้ง รู้สึกว่าอยากเจอคนที่ใจเรากับเขาเข้ากันได้พาให้จิตวิญญาณเราโตได้ทั้งคู่แบบนี้มากกว่า คิดมาตลอดว่าเราชอบคนที่ไม่ใช่เพศตรงข้ามได้ บางทีก็เคยมีตกหลุมรักพี่เกย์ท่านหนึ่ง มันมีตอนสาวๆ เราก็รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ชายตาเลย

 

\"ซิลวี่\"ว่าไงบ้าง \"มิ้น มิณฑิตา\"พูดแบบนี้ เรื่องความรัก ไร้แพลนแต่งงาน

 

"ซิลวี่" เขาแตกต่างจากคนที่เราเคยเจอยังไง ในพาร์ทของความรัก ?

จริงๆ แล้วไม่มีใครเหมือนกันเลยแล้วมันเหมารวมในแง่เพศไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรทุกคนไม่เหมือนกันเลย ทุกคนที่ว่าไม่เหมือนกันเขาก็ไม่เหมือนกันผ่านเราด้วยที่ไม่เหมือนเราแล้วในอดีต วันที่เรา 15 เรามีแฟนก็เป็นคนคนหนึ่ง วันนี้เรา 36 ตอนนี้คบกับซิลมา 4 ปี แม้แต่ตอนนี้มิ้นกับซิลก็ไม่เหมือนคนที่เจอกันวันแรก เราเปลี่ยนตัวเอง เราโตขึ้นเราไม่เหมือนเดิมกันไปเยอะ

 

มิ้นรู้สึกว่าเรามีพื้นที่เปิดกว้างนี้ ซิลเป็นซิลได้โดยที่ไม่ต้องอยู่ในจุดที่กำหนดว่าเขาเป็นเพศอะไร บางการกระทำของเขาบางทีอาจจะดูแมน มิ้นก็มีมุมแบบนั้นเหมือนกัน พอเราปรับเข้าหากันตลอดเวลามันก็จะไม่ได้อยู่ในจุดที่เธอต้องเป็นแมนในความสัมพันธ์ ฉันเป็นแมนหรือเธอเป็นแมน มันไม่มี มันเป็นผู้หญิงทั้งคู่

 

เราเป็นคนขอเขาเป็นแฟน ?

 ใช่ค่ะ จริงๆมันก็เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจซะทีเดียว เพราะว่าเรายังไม่รู้อีโหน่อีเหน่เหมือนยังเป็นเด็กเพิ่งมีความรักครั้งแรก คือเราก็ไม่รู้ว่าหญิงหญิงเขารักกันใครต้องเป็นคนขอเป็นแฟน เราก็ไม่เป็น ปกติเป็นผู้หญิงก็จะมีผู้ชายขอเป็นแฟน แต่พอคุยๆกันไปเราก็ชัดเจนว่าเราตั้งใจคบนะ มันก็มีบทสนมนาขึ้นมาแหละมันมาจากการที่เขาไม่มั่นใจว่าเราชอบเขาจริงมั้ย เราก็รู้สึกว่าเราแสดงออกไปเยอะแล้วนะว่าเราชอบ 

 

 

ครอบครัวไม่ได้ทราบเพราะว่าเราไม่ได้บอก เราเปิดตัวลงสื่ออย่างเดียว ?

คือ ณ ตอนนั้นที่ลงสื่อไปช่วงแรกๆ เราเองก็ยังอยู่ในช่วงเอ๊ะอยู่ แต่เรารู้สึกว่ามันน่ารักมันมีผลต่อใจ เราก็ลงรูปไป จริงๆในช่วงแรกๆก็ยังไม่มีสถานะด้วยซ้ำยังไม่ได้เป็นแฟน ก็ยังไม่ได้คิดว่าจะตอบใครว่าอะไรยังไง ถ้าถามว่าบอกคุณพ่อคุณแม่มั้ย ก็ไม่ได้บอก เห็นพร้อมๆกัน ลุ้นไปกับเราแล้วกัน

 

แล้วเรากังวลว่าเขาจะไม่โอเคมั้ยกับความรักเราครั้งนี้ ?

มิ้น : ถ้าตอบตามตรงเลยนะคะ 36 แล้ว ณ วันนั้นก็ 32 แล้ว เราก็ผ่านความรักมาในมุมที่คุณพ่อคุณแม่ก็รุกจักเรามากขึ้นโตขึ้น อาจจะเป็นสไตล์ของครอบครัวมิ้นด้วยที่ไม่ได้อยู่ในจุดที่ มากินข้าวกัน มาทำความรู้จัก คุณพ่อคุณแม่จะเป็นฟีลไปใช้ชีวิต ถ้าเกิดจะมีเพื่อนเป็นใคร คบใคร เขาปล่อยมิ้นมาก ยังเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ยังมองว่ามิ้นเป็นเด็กเหมือนเดิม แต่เขารู้ว่าเราเป็นเด็กที่เอาตัวรอด มิ้นจัดการทุกอย่างในชีวิตมิ้นได้ดี คุณพ่อคุณแม่เลยมีความอีกนิดจะถามแล้วว่าไม่คิดถึง ไม่เป็นห่วงกันบ้างเลยหรอ

 

\"ซิลวี่\"ว่าไงบ้าง \"มิ้น มิณฑิตา\"พูดแบบนี้ เรื่องความรัก ไร้แพลนแต่งงาน

 

ตั้งแต่เปิดตัวเป็นแฟนกับซิลวี่คุณพ่อคุณแม่ได้คุยกับมิ้นมั้ย ?

ถ้าที่บ้านเกิดความกังวลและเป็นห่วงเราจะไปรู้ผ่านตัวกลาง พี่สาวบ้าง พี่เลี้ยงบ้าง ถ้าเขากังวลเขาจะไม่กล้าพูดกับลูก พูดยังไงดีนะ ก็ดีที่เขายังสนใจว่าอะไร ทำอะไรกันนะ นาทีที่เจอกันครั้งแรกเลย คือเราก็เนียนๆ เราก็เดินเข้าบ้าน แม่กินข้าว มีอะไรให้กินบ้าง ซิลมาด้วย 

 

เคยมีคิดอยากจะเปิดอกคุยกับเขาตรงๆมั้ย ?

เราโตมาใสจุดที่เรารู้จักเขามากพอ เขาก็รู้จักเรามากพอ เปิดใจคุยแล้วแล้วบอกแล้วเอาอะไร ต้องบอกว่าคุณแม่ต้องยอมรับมิ้นนะ คุณพ่อต้องยอมรับมิ้นนะ มิ้นคบผู้หญิง มิ้นว่ามันไม่มีความจำเป็นในครอบครัวเราเลย เรารู้ว่าสำหรับเขาเขารักเรา แล้วเขาก็รู้แล้วด้วยว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่เราเลือกสิ่งที่เราทำแล้วเรามีความสุข เขาแฮปปี้แล้ว

 

กฎหมายสมรสเท่าเทียมก็มาแล้ว มีแพลนจะแต่งงานกันมั้ย ?

ถ้าตอบแบบจริงจังซีเรียส ไม่มีค่ะ พอมันมีการผ่านของกฎหมายเรื่องจริงมันมาแล้ว เราต้องมาคุยกันในรายละเอียดเพราะว่าถ้าถามมิ้นก็จะมีให้คำถามเยอะมาก จะแต่งไม่แต่งกฎหมายมาแล้ว ต้องแต่งซิ เราก้เลยมานั่งถามกันว่าทำไมต้องแต่ง มันต้องมีคำถามนี้ มันมีผลกับเราอย่างไร มันจะตามมาด้วยอะไรบ้าง จากสิ่งที่ไม่เคยคุยกันจริงๆ ต้องมาคุยกัน การที่มีกฎหมายมันคือตัวเลือก

สิ่งที่ LGBTQ ควรได้รับอยู่แล้ว วันนี้เป็นตัวเลือกของทุกๆคน อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ข้อบังคับ ใครพร้อมลุยโลด ใครยังไม่พร้อมไปตามเวลาของตัวเอง ซึ่งคู่ของมิ้นในมุมที่เราคุยกันยังไม่ใช่เวลานี้ 

 

  • ถ้าเป็นแค่งานเล็กๆน้อยๆล่ะ :  งานเรารู้สึกว่าถ้าจะจัดมันก็ต้องใหญ่ มันก็ต้องเต็มที่ไปเลย ถ้าถามว่านัดกินข้าวกันเฉพาะครอบครัวมันก็ทำตลอดอยู่แล้ว มันก็เลยไม่ได้อยู่ในจุดที่เราต้องมีการจัดงานกันเกิดขึ้น

 

  • คำตอบวันนี้คือไม่ แต่อนาคตไม่แน่ : รอรวยแบบ รวย จัดใหญ่แน่นอน 

 

อยากจะบอกอะไรกับ "ซิลวี่" ?

ความสัมพันธ์ของเรามันเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว ทุกอย่างเราคุยกันเรื่อยๆอยู่แล้วว่ามันมีความไม่แน่นอนกับความสัมพันธ์เสมอ และเหตุผลที่เรารู้ว่ามีความไม่แน่นอนมันเลยทำให้เราคอยดูแลใจกัน ปรับเปลี่ยนตัวเราดูแลว่า

 

ณ วันนี้เรากำลังทำหน้าที่ของคนที่อยู่ข้างๆกันอย่างดีหรือยัง เราภูมิใจที่เรามาถึงวันนี้ได้แล้วเรารักกัน แล้วเราก็ดูแลกันอย่างดี อนาคตเป็นยังไงไม่รู้แต่ว่าวันนี้เราทำเต็มที่แล้วเราก็ภูมิใจในกันและกันมากค่ะ รักเธอ 

 

\"ซิลวี่\"ว่าไงบ้าง \"มิ้น มิณฑิตา\"พูดแบบนี้ เรื่องความรัก ไร้แพลนแต่งงาน