คิดว่าเป็นวิบากกรรม "ปราปต์ปฎล" อัปเดตคดีเมีย เอี่ยว Forex-3D
อัปเดตคดี "กู๋กี๋ ภคมน สีลุน" เมีย "ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง" ผู้ต้องหาในคดี Forex-3D เผยมีการสืบพยานโจทก์ไป 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตัวถูกแจ้งข้อหา ทำตกงานไป 2 ปี
โดย "ปราปต์ปฎล" เผยว่า 2 ปีกว่า ผมไปเยี่ยมภรรยาที่เรือนจำทุกวัน ทุกวันนี้รอการตัดสิน อยากให้กระบวนการไปถึงขั้นตอนของการพิพากษา เท่าที่มีการไต่สวนคดี เห็นมีการสืบพยานโจทก์ไป 90 เปอร์เซ็นต์ เขาเป็นจำเลยคนที่ 21 ยังไม่มีพยานคนไหนที่พูดพาดพิงถึงน้องเขาเลย ตอนนั้นไม่มีใครรู้หรอกว่าผิดหรือถูก แม้แต่เราไปนั่งฟังตอนนี้เรายังมองไม่ออกว่ามันผิดหรือมันถูก จากที่ไปนั่งฟังผมยังไม่เห็นว่าเขาทำอะไรผิด ยังไม่เห็นว่าเขาไปเกี่ยวข้องตรงไหน เวลาไปเยี่ยม ไม่ได้พูดอะไรเยอะ การกระทำสำคัญกว่าคำพูด ผมเชื่อมั่นในตัวเขา แต่เขาเองก็หน้าที่พิสูจน์ ผมก็เชื่อว่าเขาก็ไม่ได้ก่อ แต่ว่ามันไปเกี่ยวข้อง ผมคิดซะว่ามันเป็นวิบากกรรม สุดท้ายถ้าผมปล่อยมือเขา แล้วเขาจะสู้ยังไง ไม่เป็นไร เรายังอยู่ตรงนี้
ส่วนผมเองได้มีการนำเสนอข่าวผมเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือว่าผมเกี่ยวข้องกับการเอารถคันนั้นไปขายบ้าง ผมก็ได้บอกตั้งแต่ต้นว่าผมพร้อมจะพิสูจน์ตัวเอง และรอการพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งจริงๆ แล้วกระบวนการพิสูจน์ว่าอะไรผิดอะไรถูก เจ้าหน้าที่รู้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อผมเข้าไปเกี่ยวข้อง ผมแค่ต้องตอบให้ได้ว่าทำไมแค่นั้นเอง ซึ่งผมก็ตอบไปแล้วว่าทำไม การตอบของผมมันตอบมาตั้งแต่ก่อนจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา มันตอบเหมือนเดิมทุกอย่างมาตลอด เราอยู่ภายใต้กฎหมายกระบวนการยุติธรรมเราก็หวังว่าความบริสุทธิ์ของเราข้อเท็จจริงสิ่งที่เราพูดไปกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริง มันจะปกป้องเราเอง
ถามว่าผมได้รับผลกระทบอะไรบ้าง ผมทำงานมา 30 ปี ไม่เคยขาดงาน ผมตกงาน 2 ปี ละครเวทีต้องเปลี่ยนตัวผม หรือละครที่ผมถ่ายไปหลายๆ เรื่อง 4-5 คิวแล้วสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนตัว ทุกวันนี้ผู้ใหญ่ที่เป็นผู้จัดก็ยังโทร.มาถามว่าจบหรือยัง ผมคิดว่าเดี๋ยวมันก็ต้องจบครับ เพราะว่าสุดท้ายแล้วอะไรที่มันเป็นข้อเท็จจริง เรื่องราวความเป็นจริงที่มันเกิดขึ้นมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ มีพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล และพยานที่มันเป็นหลักฐานกล้องวงจรปิด ผมทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจและเปิดเผย ในเมื่อเจ้าหน้าที่เขามีหน้าที่กล่าวหา เราก็มีหน้าที่ไปแก้ข้อกล่าวหาแค่นั้นเอง
น้องเขาติดมา 2 ปีกว่า ก็คงเหมือนอย่าง "เบนซ์ เรซซิ่ง" ที่สุดท้ายเขาไม่ได้ผิดอะไร เขาก็รอด เอาง่ายๆ น้องตอนนี้ 2 ปีกว่าเขาก็เสียไปแล้ว เขาอยู่ภายในเรือนจำ 2 ปีกว่าถ้าตัดสินมาว่าเขาไม่ผิด เขาก็เสียเวลาไป ส่วนผมยังไม่ได้ถูกตัดสินอะไร ถูกแจ้งข้อหาแล้วอัยการยังไม่ได้ส่งฟ้องด้วยนะ เพราะฉะนั้นผมก็จะอยู่ตรงนี้เหมือนถูกจองจำอยู่ในตรงนี้ ไปตรงไหนก็ไม่ได้ ผมไม่ได้รู้สึกว่าเวลาผมไปเจอสื่อ ใครถามผมแล้วผมจะอายที่จะไม่ตอบ หรือว่าจะอายที่จะบอกว่าผมไปเรือนจำทุกวันไปเยี่ยมแฟน ผมไม่อายเลยที่จะบอกว่าแฟนผมอยู่ในเรือนจำ ผมยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าบริสุทธิ์ได้ ผมไม่รู้สึกว่าจะต้องอาย เพราะเรารู้ว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ผมไม่มีวันที่จะเสพชีวิตด้วยความสุขของตัวเองบนความทุกข์ของคนอื่น ผมยอมตายดีกว่า