"สมรักษ์" ร้องไห้กลางห้อง ICU ลูกสาวพ้อค่ารักษาสูง แถมพ่อไม่ได้ทำประกัน | คมชัดลึก

 

ล่าสุด "เบสท์ รักษ์วนีย์" ลูกสาว ได้อัปเดตอาการป่วยของพ่อ "สมรักษ์ คำสิงห์" ว่า "ตอนนี้คุณพ่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ยังต้องดูอาการเรื่อยๆ เพราะยังมีหัวใจที่เต้นช้ากว่าปกติอยู่ สาเหตุที่ต้องเข้าไอซียูเกิดจากภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ คุณหมอบอกว่าเป็นระยะที่ 2 คุณพ่อเป็นมาระยะหนึ่งแล้ว จนเส้นเลือดที่เราเห็นในภาพเอกซเรย์สมองข้างขวาเป็นก้อนสีดำคือเหมือนเลือดไปเลี้ยงไม่หมด ต่อให้เรามาทัน 4 ชั่วโมงแรกก็ไม่ทัน ต้องรักษาตามอาการ แต่ด้วยความที่คุณพ่อยังพูดตอบสนองได้ คุณหมอก็เลยยังไม่ได้ผ่าตัดอะไร เลยให้นอนไอซียู

 

ก่อนหน้านั้นไม่มีใครทราบว่าคุณพ่อป่วยเป็นโรคนี้ ตอนกลางคืนยังกินข้าวคุยกันปกติ แต่พอตื่นเช้าขึ้นมาหน้าคุณพ่อทางด้านซ้ายคือเบี้ยว เดินเซ ทรงตัวไม่ได้ 

 

ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยเป็นเพราะคุณพ่อเอาแอลกอฮอล์ไปหยอดใส่หูหรือเปล่า คุณหมอไม่ได้บอกว่าเกี่ยว หูนี่น่าจะเป็นความดื้อส่วนตัว แต่สมองเหมือนเป็นมาระยะหนึ่งเลย คุณพ่อบอกว่าก่อนหน้านี้เขาเคยรู้สึกเหมือนแขนข้างซ้ายชา แต่ตอนนั้นก็คิดว่าเหน็บกิน ก็เลยไม่ได้เอะใจว่าเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งอันนี้ก็คืออันตรายมากถ้าเกิดใครดูอยู่ก็อยากให้รีบเช็ก

 

 

คุณพ่อนอนอยู่ไอซียู 4 วัน แล้วก็ออกมาห้องพักธรรมดาอีก 4-5 วัน (ร้องไห้) ก็หลังจากที่คุณพ่อออกมาพักห้องปกติก็ตรวจพบว่าหัวใจเต้นช้าลง วันนี้ไม่ได้ตั้งใจร้องไห้เลย ขอโทษนะคะ ก็ดูแลตามอาการ หมอนัดให้ไปตรวจทุกอาทิตย์ ส่วนเรื่องหัวใจเหมือนต้องทำ Sleep Test ด้วย เพราะว่าในขณะที่หลับคุณพ่อมีหยุดหายใจ

 

ตอนนี้กลับไปอยู่บ้านแล้ว คุณพ่อกำลังใจดีขึ้น คุณหมอบอกว่าให้กายภาพ เขาก็จะเดินทุกเช้าวันละ 10-20 นาที สิ่งที่คุณหมอห้ามเลยคือเรื่องของอาหารบางอย่าง เพราะว่าคอเลสเตอรอลสูงเกือบ 300 แล้วก็ไขมันกับน้ำตาลต้องลด เพราะอีกนิดเดียวก็จะเป็นเบาหวานแล้ว

 

ทุกวันนี้คนในบ้านก็ช่วยกันดูแล คุณแม่ก็ยังอยู่บ้านหลังเดียวกันกับคุณพ่อนะคะ เพียงแต่นอนคนละห้อง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคุณแม่ที่คอยดู เพราะคุณแม่เองก็เป็นห่วง คุณพ่ออยากกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพราะว่าตอนนี้ขับรถไม่ได้เลย คุณหมอห้าม แล้วอากาศร้อนๆ ก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวเป็นสโตรกอีก

 

ที่เห็นว่าเราเศร้าๆ เพราะว่าเราเห็นเขาร้องไห้ เขากลัว เราก็เลยกลัวไปด้วย ยิ่งเห็นพ่อร้องไห้ก็จะร้องตาม ปกติคุณพ่อไม่เคยร้องไห้ให้เห็น แต่อันนี้คือนอนไอซียูคืนแรกเขาร้องไห้เลย เขากลัวเพราะไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมานอนแบบนี้ แล้วตอนนั้นยังขยับข้างซ้ายไม่ได้ด้วยเลยยิ่งกลัวมาก ทีนี้พอเขาร้องไห้เราก็ช็อกไปเลยที่เห็น

 

ค่าใช้ก็จ่ายสูงอยู่ค่ะ คุณพ่อดื้อด้วยไม่ได้ทำประกันเลย เพราะคิดว่าตัวเองแข็งแรง แต่เราก็สามารถดูแลพ่อได้ เสียเงินไม่ได้ซีเรียส แต่ไม่อยากให้ป่วยมากกว่า ตอนนี้ไม่ได้กังวลเรื่องคุณพ่อแล้วค่ะ เพราะว่าเขาค่อนข้างเชื่อฟัง คือเขาก็กลัวเหมือนกัน แต่เราจะไปกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมากกว่าว่าจะมีอะไรอีกไหม

 

ก่อนหน้านี้น้องชายแขนหัก แล้วก็มาคุณพ่อเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ไม่รู้ว่าอาทิตย์หน้าหรือเดือนหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก อันนี้คือสิ่งที่กังวลทั้งที่ตัวเองเป็นคนที่ไม่ได้กังวลเรื่องอนาคตเลย ก็อยากจะขอบคุณทุกคนมากเลยค่ะที่ส่งกำลังใจมาให้