สุดเศร้า สิ้น "แดน บุรีรัมย์" ประวัติ เส้นทางชีวิต ครูเพลงชื่อดัง
สุดเศร้า สิ้น "แดน บุรีรัมย์" ประวัติ เส้นทางชีวิต ครูเพลงชื่อดัง มีผลงานสร้างชื่อเสียงมากมาย ขณะที่ลูกศิษย์และแฟนเพลงสุดอาลัย
วงการเพลงเศร้า สำหรับการจากไปของ "แดน บุรีรัมย์" ครูเพลงชื่อดัง อายุ 79 ปี โดยล่าสุดนักร้องสาว "จอมขวัญ กัลยา" โพสต์แจ้งข่าวเศร้า ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "ขอแสดงความเสียใจ ต่อการจากไปของ คุณอาแดน บุรีรัมย์ ด้วยความอาลัยรักและเคารพค่ะ"
ท่ามกลางลูกศิษย์และแฟนเพลงของ "แดน บุรีรัมย์" ที่เข้ามาแสดงความเสียใจมากมาย อาทิ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ , อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา , ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ , ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งครับ เป็นต้น
ประวัติ "แดน บุรีรัมย์" หรือ "บุญชื่น บุญเกิดรัมย์" เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2488 ณ ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นบุตรคุณพ่อโอ้ คุณแม่โป๊ป บุญเกิดรัมย์
เป็นนักร้อง นักดนตรี นักแสดง นักแต่งเพลง ชาวบุรีรัมย์ พ่อและแม่ทำอาชีพเกษตรกร เมื่อเรียนจบการศึกษาจากวิทยาลัยการช่างบุรีรัมย์ (ปัจจุบันคือ วิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์) ก็ได้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพเพื่อตามฝันการเป็นนักร้องพร้อมกับ เด่น บุรีรัมย์
"แดน บุรีรัมย์" เข้าสู่วงการเมื่อปี พ.ศ. 2506 ตอนที่เข้าวงการมาแรก ๆ มุ่งหวังที่จะหาชื่อเสียงเพื่อเป็นนักร้องอย่างเดียว และได้บันทึกเสียงเพลงแรกในชีวิตชื่อว่า "ผู้พ่าย" เมื่อปี พ.ศ. 2507 ซึ่งมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ การเป็นนักร้องในสมัยก่อนมันยากมาก ๆ เพราะค่าตอบแทนก็ได้ไม่เยอะประมาณ 5-10 บาทเท่านั้น สูทหรือเสื้อผ้าที่ใส่ก็มีแค่ชุดเดียว พอร้องเสร็จก็เอาไปไว้หลังเวทีให้คนร้องคนต่อไปใส่ต่อ
ชีวิตการเป็นนักร้องมันลำบากจริงๆ แต่เขาก็โชคดีที่เคยเรียนเป่าแซกโซโฟนมาตอนเด็กๆ ก็เลยผันตัวมาเป็นนักดนตรีแทน ซึ่งตอนนั้นเขาก็ทั้งร้องทั้งเล่นดนตรีไปด้วย เขามีโอกาสได้ไปอยู่วงดนตรีรวมดาวกระจายของครู สำเนียง ม่วงทอง และมีเหตุให้เข้าใจผิดต้องออกจากวงจึงได้ไปตั้งวงดนตรีร่วมกับ ชลธี ธารทองประยงค์ ชื่นเย็น ชื่อวงดนตรีสุรพัฒน์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงได้ยุติลงแล้วไปอยู่กับวงดนตรีของ ผ่องศรี วรนุช เพลิน พรหมแดน ตามลำดับ
ช่วงหลังๆ ในปี พ.ศ. 2514 เขาเริ่มผันตัวเองมาเล่นตลก เพราะได้เงินจำนวนมากกว่าการเป็นนักร้องนักดนตรี เขาก็เลยมาอยู่กับคณะของ "ป๋าเทพ โพธิ์งาม" อยู่พักใหญ่ ซึ่งระหว่างนั้นเป็นช่วงที่ธุรกิจคาเฟ่เริ่มเป็นที่นิยม เขาก็เลยตัดสินใจแยกออกมาตั้งคณะเองชื่อว่า "สี่ดาว" กับเพื่อนๆ แต่หลังจากนั้นพอวงเริ่มอิ่มตัวเพื่อนๆ หลายคนก็แยกย้ายกันไปอยู่กับคณะอื่นๆ เขาก็เลยต้องยุบคณะไป แต่ตอนนั้นดีที่เขายังมีโอกาสได้เล่นหนัง หรือละครทางทีวีบ้าง ก็เลยยังพอเลี้ยงตัวเองได้