
"สน ยุกต์" ชีวิตเคยพังเพราะความเครียด ฮึดสู้! ใช้สติสู้โรคภูมิแพ้ตัวเอง
"สน ยุกต์" จากพระเอกสุดแกร่งสู่วันที่เกือบพังเพราะความเครียด! เผยจุดเปลี่ยนชีวิตเริ่มต้นหันมาสนใจดูแลสุขภาพ ฮึดสู้! ใช้สติสู้โรคภูมิแพ้ตัวเอง
เปิดใจนักแสดงหนุ่ม “สน ยุกต์ ส่งไพศาล” จากพระเอกสุดแกร่งสู่วันที่เกือบพัง! เผยจุดเปลี่ยนชีวิตเริ่มต้นหันมาสนใจดูแลสุขภาพ พร้อมเล่าประสบการณ์รักษา โรคด่างขาว ด้วยตัวเอง การรับมือกับความเครียด และเทคนิคควบคุมลมหายใจช่วยเรื่องการนอนหลับที่ง่ายขึ้น
จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจที่ทำให้สนใจเรื่องการดูแลสุขภาพ ?
สน ยุกต์ : เริ่มมาจากที่ตอนเด็ก ๆ เป็นนักกีฬาชอบออกกำลังกาย ชอบเอาชนะ เมื่อก่อนแข่งวิ่งเร็วกับเพื่อน คือเราเป็นคนที่ชอบความท้าทายอยู่แล้ว โตขึ้นมาก็อายุ 17-18 ก็เริ่มเข้ายิม เริ่มสร้างกล้ามเนื้อ เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง เห็นว่าเราสามารถทำอะไรกับร่างกายเราได้ พอเริ่มอายุมากขึ้นก็เริ่มเห็นการถดถอยของร่างกาย เช่น เหนื่อยง่ายขึ้น ไม่แข็งแรงเท่าเดิม ทำไมภูมิเราตก เอาแค่แบบสมมุติเส้นตึง ตัวตึง ทำไมมันตึงขึ้น แล้วเราทำอะไรได้บ้างที่จะทำให้สามารถเคลื่อนไหว หรือว่ามี Energy เหมือนตอนเด็ก ๆ เป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงมาสนใจมาก เอาจริง ๆ เริ่มมาสนใจที่เกี่ยวกับสุขภาพเมื่อก่อนคือสร้างกล้ามเนื้อเพราะความสวยงาม ตอนนี้คือหลังอายุ 30 มันเริ่มเห็นแล้วว่าเราต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ไม่แก่ลง ก็เลยรู้สึกว่ามันมีอะไรให้เล่นเยอะมาก มีอะไรให้ศึกษาเยอะมาก แล้วมันทำได้จริง ๆ สามารถชะลอความเสื่อมของร่างกายได้จริง ๆ
เคยเป็น โรคด่างขาว แล้วดูแลตัวเองโดยการใช้จิตใจให้หายจากโรคนี้ ?
สน ยุกต์ : อยากย้อนให้ฟังก่อนว่าโรคด่างขาวคืออะไร ถ้าใครไม่รู้จักนะครับ โรคด่างขาว เคยเห็นไหมเวลาคนที่แบบเหมือนผิวสีไม่เท่ากัน ของพี่ขึ้นมาเยอะมาก บางคนนี่คือขึ้นตามมือ ที่แบบเหมือนแม่วัว
มันคือโรคออโตอิมมูน ?
สน ยุกต์ : ใช่ครับ โรคภูมิแพ้ตัวเองซึ่งตอนพี่เป็นครั้งแรกน่าจะอายุประมาณอายุ 22-23 ตอนนั้นเครียดมาก เพราะมันขึ้นหน้าด้วย จริง ๆ มันขึ้นแถวนี้ ขึ้นที่คอ ขึ้นเต็มไปหมดเลย แล้วช่วงนั้นกำลังเพิ่งเข้าวงการ ต้องถ่ายละครเยอะมาก ก็ต้องใช้เมคอัพกลบ แล้วเราก็ทำไงดี กลัวว่าต่อไปถ้ามันเป็นหนัก มันจะกลบไม่อยู่ ตอนนั้นก็หาหมอทำหลายอย่างมาก ทั้งไปเลเซอร์ คือมันมีเลเซอร์ที่สำหรับการทำให้ด่างขาวเม็ดสีมันเสมอกัน ก็ทำเยอะมาก ทำพวกเลเซอร์อะไรว่าไป หายนะ แต่ว่าสุดท้ายมันก็กลับมาใหม่ มันมา ๆ หาย ๆ เป็นอย่างงี้ตลอดอยู่ประมาณ 4-5 ปีที่เป็นเยอะๆ จนมีช่วงหนึ่งขึ้นเต็มคอเลย ช่วงนั้นก็แอบอายแหล่ะ มันหายก็โอเค แต่ว่าทำยังไงมันถึงจะไม่ขึ้นอีก คือตอนแรกก็คุยกับหมอ หมอก็บอกว่าเป็นโรคนี้มันไม่หายนะ เราอาจจะมียีน มีความเสี่ยงด้านนี้ ญาติพี่ก็ไม่หายอะไรอย่างงี้ แต่เราไม่เชื่อ มันต้องมีอะไรบางอย่างที่เป็นปัจจัยกระตุ้นร่างกาย มันควรจะซ่อมแซมตัวเองได้หรือเปล่า
เพราะไม่ได้เป็นตั้งแต่เกิด อยู่มาวันหนึ่งมันโผล่ขึ้นมาเอง ?
สน ยุกต์ : ใช่ มันโผล่ขึ้นมา ก็ทำหลายอย่างมาก หยุดกินของทอด แล้วความเครียดทำให้คนเป็นโรคใช่ไหม ช่วงนั้นก็เลยแบบออกมาจากสังคม Toxic เลย ทำตัวเองให้สุขภาพจิตดีขึ้น ผมว่า 2 เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้แบบอยู่ดี ๆ โรคออโตอิมมูน ที่หมอบอกไม่หาย มันหาย คือไปหาหมอ หมอยังงงเลยว่าหายไปได้ไง ยาก็ไม่ได้กิน คือหมอบังคับให้กินยา หมอบอกให้กินยาเรื่อย ๆ แต่เราไม่ยอมกิน
ใช้เวลาเท่าไหร่อยู่ดี ๆ ถึงหาย จากที่เราเพิ่มเริ่ม Remove ตัวเองจากการ Toxic ดูแลตัวเองมากขึ้น ?
สน ยุกต์ : จริง ๆ มันหายเลยนะ คือพอหยุดกินของทอด หรือว่าน้ำมันพืช อะไรที่มันทำลายร่างกาย ที่เรารู้อยู่แล้ว อะไรที่มันกระตุ้นสิ่งไม่ดีในร่างกาย กระตุ้นการอักเสบ กินนมน้อยลง หรือหลัง ๆ ไม่ค่อยกินแล้ว แล้วก็ลดความเครียด แต่สิ่งที่พี่รู้สึกว่ามันน่าจะใช่มาก ๆ เลย มันคือความเครียดอันนี้เห็นชัดมาก พอเราไม่ไม่ไปอยู่กับคนกลุ่มนี้ที่มีแต่ความเครียดมันหายเลย เป็นอะไรที่ Amazing แล้วมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พี่อยากศึกษาเรื่องการรักษาตัวเอง เพราะว่าพอเรามีประสบการณ์นี้ ก็มีความเชื่อ โอเคจริง ๆ ก็ไปอ่านมานะ แต่ว่ามันก็แอบเชื่อลึก ๆ ว่าร่างกายของเรา เขาสร้างมาให้เราฮีลตัวเองอยู่แล้ว แค่เราเอาตัวเองไปอยู่ในสภาวะที่มันไม่พร้อม มันฮีลไม่ได้ มันซ่อมไม่ได้ อาจจะแบบเหมือนสมมุติว่าเราอยากซ่อมรถ แต่ไม่มีอะไหล่แล้วซ่อมไง คือเหมือนพี่ทำสภาพแวดล้อมอู่รถของเราให้พร้อมทุกอย่างสำหรับการซ่อม
ถ้ามีความเครียดเยอะ ๆ รับมือยังไง ?
สน ยุกต์ : สุดท้ายความเครียดทั้งหมดมันไม่ใช่ความเครียดจากภายนอก การใช้ลมหายใจ มีบทบาทกับการแก้ความเครียด เพิ่งมาเข้าใจเมื่อไม่นานมานี้ก็คือเรื่องการนอน เป็นคนนอนไม่ค่อยดี เป็นคนนอนยากมาก เป็นคนคิดเยอะ ขอบอกก่อนนะครับ ว่านี่คือประสบการณ์ส่วนตัว คือจริงไม่จริงเดี๋ยวให้ไปศึกษาเองนะครับ อันนี้เราสังเกตตัวเองมาเยอะมากว่า เวลาที่สมมุติ ตอนนี้ง่วงแล้ว ร่างกายมันง่วงแล้ว แต่พอเรามีเรื่องเครียดทันที อย่างเราไปอ่านแชทอะไรที่เป็นเรื่องงาน หรือเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจเครียดขึ้นมาให้เราคิด จากที่เราง่วงอยู่ดี ๆ มันตื่นขึ้นมา
พอเวลาเราคิดเรื่องงาน ฮอร์โมนความเครียดมันหลั่ง ทำให้เราตื่นตัว ก็มาเจอว่าการที่เราจะนอนได้ดี นอนหลับง่าย มันคือการที่เรากดฮอร์โมนความเครียดให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จริง ๆ ไม่ต้องคิดอะไรแค่นั่งสมาธิก่อน เอาเป็นว่านั่งหลับตา หรืออาจจะเปิดเพลงก็ได้ เราแค่โฟกัสอยู่กับเสียง ทำแบบนี้สัก 10-15 นาที แล้วคุณต้องคุยกับตัวเองว่าจะโฟกัสที่เสียงจริง ๆ ไม่วอกแวกไปคิดเรื่องงานหรืออะไร อยู่ให้ได้ แล้วเราจะเลิกคิด เลิกคิดความเครียดก็ไม่มี เราก็จะง่วงเอง ผ่อนคลาย
ที่มา "PrimeCast"