
น้ำตาตก "ตั้ม"อดีตสามีจ๊ะโอ๋ งามพริ้ง เล่าแฉหมด ปมรักอดีตเมีย
แฉทั้งน้ำตา "ตั้ม อดีตสามีจ๊ะโอ๋ งามพริ้ง ย้อนเล่าเรื่องอดีตเมีย ความจริงทางฝั่งผู้ชายเป็นแบบนี้ ขณะที่ก่อนหน้าฝ่ายหญิง ออกมาเปิดข้อมูลการแจ้งความ และไล่เรียงข้อๆ
หลังจากที่โลกออนไลน์ร้อนเพราะ มีเรื่องให้เกาะติดกันยาวๆ เรื่องราวครั้งอดีตวนกลับมาให้จับตากันอีกแล้ว งานนี้เป็นประเด็นดังระดับประเทศกับปมความรักนักร้องดัง และอดีตภรรยา อินฟลูเอนเซอร์สาว คราวนี้ฝั่งอดีตผัวของอินฟลูฯ สาว ออกมาเปิดเรื่องราวฝั่งตนเองบ้าง ที่อ่านแล้วก็แอบช็อกพอสมควร เนื่องจากเขาชี้ว่า ตนเองนั้นลูกหลอกให้หย่า ขณะที่พฤติกรรมอดีตเมียและตนเองยังอยู่กินฉัน"ผัว-เมีย"
แต่ก็เอ๊ะ! พอตัวว่าเรื่องราวผ่านไปนับปีแล้ว เหตุใดฝั่งอดีตผัวอินฟลูเอนเซอร์สาวถึงเพิ่งจะออกมาเติมเชื้อไฟอีกนะ? เรื่องราวเหล่านี้ถูกเหล่าเป็นประเด็นให้ทราบกันจนเพจดังก็ออกมาเปิดคลิปเสียงในช่วงเวลาที่ อดีตผัว-เมียอินฟลูฯ ทะเลาะเดือด ฟังดีๆ มีหลุดชื่อ บุคคลนามว่า จ. อยู่ในนั้นด้วย มีคลิป
และล่าสุด "ตั้ม" อดีตสามีจ๊ะโอ๋ งามพริ้ง ได้ออกมาเปิดใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดในฝั่งตนเองว่า
เหตุที่ไม่แสดงตัวเพราะ อยู่แต่ที่สวน ถูกบล็อกไม่ให้ข่าวในโซเชียล ที่ออกมาพูดเพราะสงสัยตอนลูกอยู่ ป.6 พ่อ มีเพื่อนมาล้อ หนูมีพ่อเป็น นี่เหรอ และเก็บมาเรื่อยๆ จนเจอซิมหน้ารถที่บ้าน เอาซิมมาเสียบ กับน้องมาฟังจนได้รู้ข่าว ความจริง เก็บมาตลอด
ตกลงกันไปจะไปเที่ยว เกี่ยวกับการเป็นอยู่ด้วยกัน ต้องมีเงินประมาณนี้ช่วยกันออก แล้วก็เก็บไว้ ได้คุยกับภรรยาหลังจากไปเที่ยวทะเลกันมา ตนเองเก็บเรื่องมาตลอด เขาทราบว่าผมรู้แล้ว แต่ไปมาหาสู่กันต่อ
อยู่กันกับภรรยากับจ๊ะโอ๋ 15 ปี ได้จดทะเบียนสมรสกันหลังคบหากันมาประมาณ 1-2 ปี คลิปที่เกิดขึ้นหลังจากหย่า ผมหย่าเมื่อปี 26 มิถุนายน ปี 2566
วันที่หย่ายังไม่ทราบเรื่องราว หย่าด้วยเหตุผลที่นึกว่าเกี่ยวกับเรื่อง "บริษัท" เขาบอกว่าไปที่ อำเภอรีบไปก็เซ็นหย่าเรียบร้อย เข้าใจว่ามีเรื่องเกี่ยวกับบริษัท ไม่มีเหตุอะไร ตนเองคิดเองว่าที่หย่าเพราะบริษัท หลังหย่าก็ปล่อยยาวๆ แต่ก็อยู่กินเหมือนเดิม อยู่บ้านเดียวกัน ในบ้าน มีแม่ ผม ลูก และอดีตภรรยา
เคยถามเขาว่าจะกลับไปจดมั้ย เขาก็บอกให้รอโยกโย่ไม่กลับมาจดทะเบียน พฤติกรรมภรรยาเปลี่ยนไปเยอะ ไม่อยู่บ้าน หายไปเป็นอาทิตย์ คิดว่าไปขายของ ทำคอนเทนต์ เพราะเขาทำมาหากิน ผมกับแฟนเป็นหัวเรือ เขาทำคอนเทนต์ ผมหาวัตถุดิบ ยันว่าเรา 2 คนทำงานร่วมกัน ไม่ได้เป็นเงินเดือน รายได้หลักได้มาจากการขายสครับ
"เงินลงทุนเป็นเงินของผมลงทุน ทางบ้านเขาไม่มีเงินเลยจนมาก ไม่คืนเพราะทำมาหากินร่วมกันเป็นครอบครัว กระเป๋าเดียวกัน หลังจากจดทะเบียนแล้วคือเราได้รายได้หลังจากจดทะเบียนแล้ว"
ล่าสุดเกิดอะไรขึ้น
ผมไปจับได้ ผมเก็บมาเรื่อย ไม่ไหวก็เลยออกมา เพราะเราคุยไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะจะหยุดๆ หลังจากได้คลิปเสียงจากรถ เลยสงสัยไปหาสิ่งต่างๆ เลยไปหาเจอที่ทิ้งพระ ที่ไปเจอของที่คิดว่าทำของ เจอที่บ้านที่ลพบุรี
ทุกวันนี้อยู่ที่บ้านหลังนี้ เพิ่งออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่าน เจอของที่ห้องพระ เห็นกระดาษพันๆ อยู่เลยคลี่อยู่ เลยเห็นเป็นคลิป พร้อมเปิดหลักฐานว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2567 ยังอยู่ด้วยกันพร้อมมีคลิปกล้องวงจรปิด
- หนุ่ม กรรชัย : ตอนนี้ผมกำลังงงในความสัมพันธ์ ว่ามีอะไรผิดพลาด ทางฝั่งผู้ชายฝั่งโน้นเขารู้ว่าเราอยู่ในบ้าน (ตั้ม : รู้ครับ ) เพื่อความเป็นธรรมต้องรอผู้หญิงออกมาพูดด้วย วันนี้ขอถามว่า วันที่ 1 มีนาคม หลังออกจากบ้าน ติดต่อคุณจ๊ะโอ๋ อีกมั้ย
- ตั้ม : ไม่ได้ติดต่อ ติดต่อแต่กลับลูก เหตุที่ออกมาเพราะว่าเกิดคลิปเสียง ที่ถูกเผยแพร่ออกมา
มันเกิดอะไรขึ้นวันนี้
- ตั้ม : เห็นเขาคุยกันไม่หยุด ผมเครียดเลยระเบิดเลย พี่สาวผมโทรหา เลย ผมเคยคุยกับฝ่ายชายวันที่เกิดปัญหา ผมไม่เคยคุยกับเขาเลย ผมเลยเครียด ผมนอนกับอดีตภรรยา เขาก็คุยกัน ทนเพราะเขาบอกให้ผมรอ เขาบอกรอให้กลับมา
"หนุ่ม กรรชัย" เปิดมุมมองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นเพราะข้อความของผู้ชาย 2 คนที่ได้รับสารมานั้นคนละมุมกัน ผมว่าฟังคนละมุม ไม่งั้นเป็นแบบนี้ไม่ได้ ประมาณแบบนั้น แต่ข้อเท็จจริงไม่ได้จบลงแค่นี้หรอก
ตั้ม : ทราบว่าอดีตภรรยาแจ้งความเสียใจมาก หลังจากหย่า ผมไม่ได้ขโมยของ แค่กลับไปเอาของ เช่นทองคำ พระกรอบพระ ทองเป็นทองของผม แต่เขาเก็บเอาไว้ มีหลักฐานคือ ทอง 20 บาท ไปเอามาจากแม่ผม นั่นเป็นของแม่ของผม ผมเป็นคนปล่อยคลิปเสียง "พระเลี่ยมทองหลวงพ่อโสธร ผมเอาของผมคืน ประมูลมาได้ติ๊กต๊อก 6 หมื่น"
- ที่ทำมาหากินด้วยกันมา มีรถอัลพาร์ด, แบนซ์, รถ 4 ประตู ผมไม่เคยค้านเรื่องชื่อสิทธิ์ของรถ เพราะคิดว่ามาใช้งานร่วมกัน (ได้มาในระหว่างสมรสนับเป็นสินสมรส) เคยคุยดีๆ แล้วแต่ไม่ได้ มีทั้งเรื่องเงิน และเรื่องอื่น
- ผมไม่เคยเอาปืนไปจ่อลูก ความคิดผมยังไม่มีเลย ผมไม่มีอาวุธอยู่แล้ว จะเอาอาวุธที่ไหนมา ถ้าลูกออกมาพูดก็เชื่อแม่เขา
- สร้างมาด้วยกันตลอด ไม่ว่าจะเรื่องอะไรตีคู่มาตลอด
- วันๆ เอาเงินไปตีไก่ ? ผมชอบพนันตีไก่ ขอเงินไปตีไก่ มันมีได้มีเสีย ตอนผมได้ก็เอามาให้ เหมือนทำมาหากินในครอบครัว ตีมานานแล้ว เขาก็สนับสนุนผมนะให้เงินไปซื้อสายพันธุ์มา
ถามแทนจ๊ะโอ๋ ทำไมไปพูดกับลูกว่า เตรียมตัวเรียนโรงเรียนวัดเลย
- ตั้ม : ผมพูดจริง เพราะว่าผมเครียด ผมไปผมก็อยากเอาลูกผมไป ทางบ้านผมเป็นร้านขายของชำ เมื่อก่อนเคยทำงานเทาๆ ขอไม่พูดว่าธุรกิจอะไร อยู่ด้วยกันมา ทำด้วยกันตลอด ไปๆ มาๆ ก็มาจับตัวนี้
ทำไมก่อนหน้านี้ไม่ใส่ชื่อของคุณ เพราะคุณทำธุรกิจผิดกฎหมาย
- "ตั้ม" ไม่ใช่คับ ธุรกิจเทาๆ เราทำด้วยกันตลอด เราไว้ใจภรรยาเลยไม่ได้ใส่ชื่อตัวเอง
ตอนนี้ 2 คนที่ออกมาพูดเหมือนกับเป็นการสาวไส้ให้กากิน มันกระทบ เรื่องแบบนี้คือเราฟังมุมเดียว
เขาเคยพูดมั้ยว่าเขาไม่ได้รักเขาแล้ว? แต่คุณไม่ยอม แล้วคุณจะเอาปืนยิงตัวเอง?
- ผมอึ้งหลังที่เขาพูด เหตุการณ์ไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องของเอาปืนมายิง ผมไม่มีปืน
ที่ออกมาวันนี้อยากให้แบ่งทรัพย์สิน ต้องการสินสมรส ทำร่วมมาเยอะ ถ้าผมเรียกร้องไปแล้วถ้าเข้าไม่มีให้ต้องทำอย่างไร? ต้องการคนละครึ่ง ยอดไม่ต่ำกว่า 40 - 50 ล้าน อยากได้สินสมรสครึ่งๆ ผมไม่อยากให้เขากลับมาแล้ว (เพื่อนผมกลัวกินอาหารหมา ครับพี่) ผมไม่กลับไปแล้วแน่ใจ
"ตั้ม" ฝากถึง "จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง" ผมยืนยันว่าผมอยู่กับภรรยาของผมตลอด ลูกผมเลี้ยงเอง ส่งผลกระทบก็เรื่องของเรา
"พลอย" พี่สาวตั้ม" : เขาเป็นโรคเครียด เหมือนตอบไม่ตรงคำถาม เขาโดน ข่มขู่ไม่ให้เข้าบ้านตัวเอง ต้องการเรียกร้องเรื่องสินสมรส น้องชายให้ติดต่อฝ่ายอีกคนหนึ่ง ว่าได้รับรู้เรื่องน้องชายกับอดีตภรรยาอยู่กินฉันสามีภรรยามั้ย? ถ้าฝ่ายชายนั้นรู้ก็ว่ากัน ถ้าเขาไม่รู้ก็คือเครียร์จะได้จบ เขาบอกว่าอดีตภรรยาของน้องชายให้เบอร์ไปแล้ว ตอนแรกคุยกันด้วยการแชทคุย
ฝ่ายชายแคปแชทส่งให้ฝ่ายหญิงทราบ และเกิดทะเลาะกัน ณ เวลาเรื่องที่คุย ถ้าไม่รู้กันจะส่งแคปจอไปให้ภรรยาน้องชายหรือเปล่า? จนเกิดปัญหา ตั้มและพลอย ไม่เคยให้เบอร์ฝ่ายชาย พอคุยกัน บอกว่าจะค่อยเฟดกับฝ่ายหญิง เช้ามา ฝ่ายชายส่งข้อความมาบอกว่า น้องชายเข้าไปโวยวาย ได้รับการข่มขู่ "พลอย"มีหลักฐานชัดเจนค่ะ อยากให้เขาได้รับความยุติธรรม อย่างน้อยครึ่งๆ จ๊ะโอ๋ อยากคุยกันได้ ติดต่อกันได้ หนี้หาร 2 ได้เลย ที่เกิดขึ้นในช่วงรมรส"
"บอกอดีตภรรยา การจะพูดอะไรพูดตรงไปตรงมาสื่อสัตย์ ไม่ใช่บิดเบี้ยวในการสื่อสาร เพราะมีหลักฐานทั้งหมด อยากให้จบกันด้วยดี แบ่งให้ยุติธรรม"