"มายด์" เล่า "โตโน่" คิดกับ "ณิชา" แค่น้อง โกหกไม่ได้ เพราะแช่ว่าน | คมชัดลึก

 

โดย "มายด์" แจงสัมพันธ์กับ "โตโน่" ผ่านโหนกระแสว่า.. เจอกันต้นมีนาคมที่งาน เราไปเป็นพิธีกร เขาเป็นแขกรับเชิญ เจ้าของงานที่ติดต่อเรา เขาดิวเองทั้งหมด ไม่ได้ผ่านเอเจนซี่ เขาให้เราช่วยคุยกับโตโน่ให้หน่อย เขาคุยเองไม่เป็น ซึ่งทั้งพี่โน่กับพี่เมย์น่ารักมากๆ หลังจากที่จบงานเราแท็กสตอรี่ไอจีไป มันเหมือนเป็นโปรไฟล์เรื่องงานของเรา ซึ่งแท็กเป็นปกติอยู่แล้ว ของพี่โน่ก็แท็กไปเลยไม่ได้ขออนุญาต เพราะเขาเป็นบุคคลสาธารณะ เราไม่ได้คิดเรื่องมีใจอะไรเลย

 

(เปิดแชทคุยกับโตโน่) หนูไม่ได้คิด คิดว่าแค่งานเฉยๆ ยืนยันไม่ได้บริหารเสน่ห์ เพราะกับเพื่อนก็คุยแบบนี้ หลังจากนั้นก็มีทักกันบ้างประปราย ก็คุยจริงจังก็ต้นปีนี้ช่วง ม.ค. เขาทักมาถามว่าเป็นยังไงบ้างสบายดีไหม เราก็ตอบว่าสบายดี เขาถามว่าว่างหรือยัง แล้วเป็นช่วงที่หนูว่างพอดี  

 

เขาเลยชวนทำงานในสโมสร เป็นเลขาประธาน เพราะเราดูบอลเหมือนกัน เขาทักในไดเรคไอจี (เปิดแชทชวนทำงาน ต้น ม.ค.) จากนั้นก็ทำงานด้วยกันเป็นเลขาไปที่สนามบอล ไปดูว่าเขาทำอะไรบ้าง เจอบ่อยสนิทมากขึ้น เขาก็ชวนไปทำเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ก็ทำงานตามเวลางานของเขาเลย สนามบอลก็ไปกับพี่เมย์ ถ้างานกองก็ไปแต่เช้าเลย แต่ละงานเวลาก็ไม่ตรงกัน อัตราการจ้างจ้างเป็นรายวัน ไม่ได้เป็นเงินเดือน ไปวันไหนจ่ายวันนั้น 

 

ซึ่งพี่เมย์ทราบ เขาพาไปเจอพี่เมย์ ซึ่งหนูอันเดอร์พี่เมย์ แต่ก็ฟังทั้งพี่โน่และพี่เมย์ ตำแหน่งคือเลขาพี่โน่ กับผู้ช่วยพี่เมย์ เวลาสั่งงานก็ทั้งคู่สั่ง ก็แล้วแต่งาน ไม่ได้ทั้งหมด บางทีพี่โน่ดิวตรงเอง ก่อนที่พี่เมย์ป่วยก็เป็นพี่โน่ ตอนพี่เมย์ป่วยเราก็ดูแลพี่เมย์ บางครั้งก็ไปงานด้วยกัน 3 คน 

 

 

 

ผู้ช่วยผู้จัดการก็ทำทุกอย่าง ไม่ได้ต่อบท ขับรถให้ ไปกองก็ซื้อของดูแล หลักๆที่ขับรถเพราะพี่เมย์ผ่าตัดขับรถไม่ได้ เพราะปกติพี่เมย์จะขับรถไปด้วย รับโทรศัพท์ไปด้วย พี่โน่ก็จะทำสมาธิ เพราะเขาเป็นคนอินกับบท ส่วนใหญ่พี่เมย์ไปด้วยตลอด บางครั้งเขาแยกกันพี่เมย์ไปเอง หนูก็ต้องพาพี่โน่ไป ส่วนใหญ่ก็กองถ่าย คอนเสิร์ต สนามฟุตบอล ก็เกือบตลอด 24 ชม. ถ้าถ่ายหนังตี 1-2 ก็ต้องค่ะ ซึ่งเพชรก็ยอม เพราะเราปรึกษาว่าทำดีไหม เหมือนที่เราปรึกษาคนรอบตัว ทุกคนก็บอกว่าทำสิ เพราะมันคือสายงานที่เราเรียนมา และเราชอบตัวเองเวลาที่เราทำงาน 

 

เพชรหวงไหม ไม่มี ไปดึกๆเขาไม่ว่ายังไง เขาก็อยู่กับคอมเขา เกมเขา ช่วงที่เราทำงานเขาก็ไม่ได้สนใจ นานๆจะถามที แต่ด้วยความที่เราไม่ได้รู้สึกขนาดนั้น แบบบางทียุ่ง ก็ไม่ได้บอก เขาก็ไม่ได้ตาม 

 

รู้ว่าพี่โน่มีแฟนแล้ว รู้จักณิชา เคยเจอกัน แรกๆเจอที่สนามฟุตบอล เจอที่บ้านพี่โน่ด้วยเวลาไปรับส่ง รู้ว่าเขาเป็นแฟนกัน 

 

ตอนที่ทำงานไปสนามฟุตบอล รู้จักกับกัปตัน เขาจีบไหม? ตอนแรกไม่ทราบว่าจีบ เพราะช่วงงานเกษตรแฟร์เราไปเป็น MC ที่บูธ เขามาช่วยทุกวัน ก็คิดว่าเป็นหน้าที่เขา เพราะมีนักบอลมาทุกวัน ก็เจอเขาทุกวัน ไม่ทราบว่าเขาจีบ เพราะไม่ได้อะไรเลย เขาก็ซื้ออะไรกินให้ตลอด และเขาก็ซื้อให้คนอื่นด้วยเราไม่ได้คิดอะไร เวลาที่เขายังไม่มาแล้วพี่เมย์มาที่บูธ พี่เมย์ก็จะให้หนูช่วยตามพี่บอลให้ ว่าเขามาไหม พี่เมย์ถาม ซึ่งเขาก็เข้ามาเกือบทุกวัน 

 

ซึ่งพี่โน่ก็ทราบว่ากัปตันจีบ เขาก็ถามเขาก็แซว มีหนุ่มๆมาเฝ้าเหรอ หนุ่มๆเยอะนะ ช่วง ก.พ. เขาก็จะอำแนวนี้อยู่แล้ว ซึ่งเราตอบเป็นสติ๊กเกอร์ ซึ่งเราไม่ได้ตอบ ก็เลยไม่ได้จะตอบอะไร ด้วยความที่เป็นงาน บางทีก็ตอบด้วยความที่เราทำงานด้วยกันอยู่ 

 

พี่โน่เตือนไหม ก็มีบ้าง หนูไม่มีหลักฐาน ก็มีบอกว่าดูดีๆนะ ส่วนใหญ่เขาคบแต่เด็ก พี่ว่ามายด์ไม่น่าเหมาะกับพี่บอล มายด์ดูโตไม่น่าเหมาะ ตอนนี้มายด์อายุ 30 ค่ะ หนูว่าหนูแยกออก คนถามก็มีแฟน คิดว่าเขาคงเป็นห่วงเรา แต่พออะไรมันชัดเจนขึ้น เช่น วาเลนไทน์ ก็เพิ่งรู้ว่าเขาจีบ วันที่เราออกกองกับพี่โน่พี่เมย์ ก็ได้รับดอกไม้มาแบบงงๆ เพราะคิดว่าของแฟนคลับพี่โน่ เขาติดต่อทางพี่เมย์ เราก็ไม่รู้อะไรเลย พอเลิกกองก็เพิ่งมาทราบว่าของมายด์ ตอนแรกคิดว่าพี่โน่ห่วงจริง แต่ตอนหลังก็ค่ะ (หัวเราะ) 

 

หลังช่วงวาเลนไทน์ เกษตรแฟร์จบ เริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ ต้องจดจำในสิ่งที่เขาชอบหรือไม่ชอบ แต่ระยะนึงมันเหมือนเขาเริ่มถามกลับ อาจเพราะสนิทกันแล้ว จากที่เราต้องคอยเทคแคร์ เขาก็เริ่มเทคแคร์กลับ ซึ่งปกติเขาเทคแคร์ทุกคนอยู่แล้ว เราก็พยายามที่จะไม่คิดอะไร จนวันนึงเขาบอกในรถว่าเขาชอบหนู "ชอบมายด์จัง" เราคิดว่าชอบการทำงาน ไม่คิดว่าเชิงชู้สาว ช่วงกลาง ก.พ. แต่หนูไม่ได้ถามต่อว่าชอบยังไง เพราะเขาไม่ได้พูดซ้ำๆ พูดลอยๆ พูดกัน 2 คนในรถ จากนั้นก็พูดบ่อยขึ้น จากนั้นก้จะส่งมาบอกคิดถึงในวันที่ไม่เจอ 

 

ตอนแรกก็เอ๊ะยังไงกันแน่ ก็แปลกๆ เพราะเราอยู่ตรงนั้น เราเห็นเขาทุกวัน เขาน่ารักกับทุกคน แต่เขาทรีตเราดีขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าคนอื่น เราเลยถามเขาตรงๆ 

 

หนูไม่ได้บอกเพชร เพราะเราไม่ค่อยอยู่ด้วยกันตั้งแต่ปลายปี เหมือนใจหนูไม่ได้อยู่ ต่างคนต่างไม่มีใคร แม้ว่ายังอยู่ด้วยกันบ้าง และเราก็กลัวมีปัญหาเพราะเรายังคาราคาซังกับเพชรอยู่ และเราก็ไม่อยากให้กระทบงาน 

 

ถามว่าหวั่นไหวไหมก็ด้วย ด้วยคำพูดที่เจอทุกวัน คิดถึงนะ เวลาที่เราไม่ได้ไปด้วย แรกๆคิดถึง ฝันดี หลังๆเราก็เริ่มคิดถึงด้วยเหมือนกัน ซึ่งมันน่ารักมากๆ คือเพชรก็พูดบ้าง แต่เมื่อเราอยากฟังเขาไม่ค่อยพูดแค่นั้นเอง (เปิดแชท) เรารู้สึกดี คิดว่าไม่ได้เป็นน้องสาว ไปไหนเขาจะเอาของที่เราชอบกลับมาด้วยเสมอ ซึ่งเราเคยบอกเขา เรากลัวห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ 

 

คิดถึงณิชาไหม มีค่ะ ก่อนที่รู้สึกมีเขาเสมอ หนูจะถามพี่โน่เสมอว่ามีแฟนแล้วนะ หมายถึงพี่โน่ เขาก็บอกในปัญหาของเขา 2 คนให้ฟังเรื่อยๆ มันก็มีตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ตอนแรกก็คิดว่าเขาจะพูดอะไรก็ได้ เพราะเขาพูดฝ่ายเดียว 

 

 

มีครั้งนึงตอนที่อยู่ 3 คนในรถ พี่เมย์ครับผมมีเรื่องปรึกษา เรื่องใหญ่มากๆ หนูก็เริ่มรู้สึก หนูก็แอบกังวลเกี่ยวกับหนูหรือเปล่า เขาพูดว่าเขาบอกว่าเขาคิดกับณิชาแค่น้องสาว เขาไม่ได้คิดกัยณิชาแล้ว พี่ดน่บอกไปแช่ว่านมาไม่สามารถโกหกได้หนูเชื่อสนิทใจเลย หนูเชื่อเขาแบบสุดใจเลย เขาพูดต่อหน้าพี่เมย์ สิ่งที่พี่บอกหนูมันคือเรื่องจริงใช่ไหม 

 

เคยเจอณิชาที่บ้าน เราไม่กล้ามอง เราไม่กล้าทักทาย เราพยายามไม่กล้าเจอหน้าน้อง ไม่รู้เจตนาพี่โน่จริงหรือไม่จริง วันที่เจอณิชา วันที่ขับรถกลับห้อง เขาก็ทักมาว่าขอโทษนะที่ทำให้รู้สึกไม่ดี เขาไม่รู้ว่าณิชาอยู่ที่บ้าน เราเลยบอกไม่เป็นไร หนูก็ยังสับสน ขอจัดการความรู้สึกตัวเองก่อน 

 

หนูไม่แน่ใจว่าเขาพูดกันประมาณไหน เขามาคุยกับหนูหลังจากวันนั้นว่าขอห่างกัยณิชา พี่โน่บอกหนูเป็นการคุยกัน 2 คน ไม่มีหลักฐาน เพราะหนูไม่เคยคิดแบล็คเมล์ วันต่อมาหนูเห็นโพสต์ของณิชา ถึงเวลาดูแลหัวใจตัวเอง เลยทำให้เรามั่นใจว่า 2 คนนี้เลิกกันแล้ว เขาบอกขอห่าง คิดกับณิชาเหมือนคนในครอบครัว เพราะอยู่ด้วยกันมานาน 

 

วันที่เขาไปหาหลานที่เชียงใหม่ เขาบอกว่าต้องไปหาหลานไปทำหน้าที่ เขาบอกว่าเขาจะกลับมาหาหนู แล้วเขาก็กลับมา มันเลยทำให้เราเชื่อ 

 

แล้ววันที่ออกงานคู่กัน 23 มี.ค. มันดูปกติ ก่อนที่เขาจะออกงานคู่เขาไปเชียงใหม่รับขวัญหลาน พี่ดน่กลับมาก่อนมาหาหนู และออกงานคู่กัน และให้สัมภาษณ์เรื่องแต่งงาน ซึ่งหนูก็ งง ว่ายังไงกันแน่ ซึ่งหนูถามคำตอบคำ เขาถามว่าเราโอเคไหม แล้วมาหาเราทันที เราก็เชื่อเขาสนิทใจ 

 

เหตุการณ์โตโน่เจอเพชร เป็นวันที่พี่โน่รู้สึกไม่โอเคเรื่องผลบอล เลยขอเจอได้ไหมหลังจากที่เสร็จจากสนาม แต่ช่วงก่อนเกิดเรื่องไม่กี่วันหนูคุยกับเพชร ด้วยความรู้สึกหนูชัดเจนกับพี่โน่ เราพร้อมที่จะแยกกับเพชรว่าเรารู้สึกไม่เหมือนเดิม เราอยู่ได้โดยที่ไม่มีเพชร ก็คือวันที่ 2 พ่อแม่เพชรมาหา ซึ่งเป็นวันเกิดแม่ ทุกครั้งที่เป็นวันเกิดหนูจะเป็นคนจัดหา เสร็จงานก็รีบไปหา เป็นช่วงที่เราจะเฟรดกันออกมา เพชรน่าจะสังเกตว่าเราไม่เหลือความรู้สึกแล้วจริงๆ 

Find My iPhone เราไม่ได้ปิด ก็เป็นไปตามที่เขาเล่า ตอนลงมาเราไม่ได้วิ่งหนี ที่ไม่คุยกลัวเขาอารมณ์ร้อน คิดว่าคุยทีละคนดีกว่า ก็กลับมาคุยกัน บอกโน่มีแฟนไหม ก็อย่างที่บอกเราให้โอกาสเพชรแล้ว ช่วงแรกไม่ได้บอกโตโน่ ทุกคนเข้าใจว่าโสด จนสนิทออกกอง 3 คน ก็เลยบอกว่ายังคุยกับแฟนเก่าอยู่ทุกวัน หลังๆคุยกับพี่โน่ทุกเรื่อง บอกว่ายังคาราคาซังกับแฟนเก่า คือโสดค่ะ แค่ยังไม่ได้ขาดกับแฟนเก่า ซึ่งพี่โน่บอกให้ไปเคลียร์ให้จบ 

แล้วตอนที่ลงมาจากห้อง เขาถามว่าเพชรคือใคร คือเราไม่เคยพูดชื่อ หรือคนไหน (เหมือนโตโน่ไม่รู้เหมือนกันนะ?) เขาไม่ใช่ชู้ค่ะ เขารู้เรายังขาดกับแฟนเก่า ที่เพชรมาในวันนั้นเขาเลยรู้สึกว่าเป็นชู้หรือเปล่า จากนั้นเขาบอกว่าจบดีกว่า ถ้ามายด์ยังไม่จบ เราก็รอให้ทุกฝ่ายใจเย็น เขาไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไร 

 

 

รู้สึกผิดแน่นอนค่ะ แน่นอนเลยคนแรกคือณิชา วันนี้ที่มายด์ออกมาอยากขอโทษณิชากับครอบครัว ที่มายด์ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ดี ขอโทษเพชรกับพ่อแม่ที่เคีลยร์ไม่จบ คือยังห่วงเขาอยู่ ขอโทษพ่อแม่ครอบครัวตัวเอง (เสียงสั่นร้องไห้) ที่ต้องตอบคำถามคนอื่น กับพี่โน่ไม่เคลียร์แล้ว ไม่อยากรู้ ไม่อยากคุย ถ้าติดต่อมาคงไม่แล้ว 

 

กับเพชรที่มีคลิปหลุดตอนแรกก็โกรธ ตลอดเวลาที่คบกันหนูทำดี อดทนมาตลอด ดูแลเอาใจใส่อย่างดี ไม่เคยนอกใจ ไม่เคยบอกเลิก อันนี้คือสิ่งที่หนูได้รับจริงๆเหรอ จริงๆใช่ไหมคะ (ร้องไห้) ได้คุยกันแล้ว เขาบอกว่าทำไปเพราะอารมณ์ ซึ่งเป็นปัญหาเดิมๆ ซึ่งตอนนี้ไม่ได้โกรธแล้ว กลับมาเป็นเพื่อนหรือสถานะเดิมไหม อย่างที่บอกตอนนี้เป็นห่วง แต่สถานะเดิมคงยาก ถ้าเป็นเพื่อนคงได้ อันนี้เป็นบทเรียนของหนู ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็นเพื่อนคงเป็นเพื่อนห่างๆ ก็ยังหวังดีกับเขา 

 

กังวลไหมวันนี้เปิดหน้า จะไม่มีคนกล้าไปจ้าง วันนี้ที่หนูกล้า เพราะโซเชียลเปิดหน้าหมดแล้ว วันนี้หนูมาด้วยความจริงใจ หนูแคร์คนรอบข้าง จริงๆคนรอบข้างเข้าใจหนู ในเรื่องการทำงานก็แล้วแต่ว่าใครจะมองหนูผิดหรือไม่ผิด หนูเคารพการตัดสินใจ หนูแค่อยากออกมาพูดด้วยความจริงใจ

 

ส่วนที่โตโน่ง้อณิชา ได้มีโอกาสเห็นข่าว อย่างที่บอกว่าตอนนี้ไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง เพราะเขาเป็นนักแสดงมั้งคะ เพราะเขาไม่ติดต่อกลับมาเลย ต่างกับที่บอกว่าเคยอยากอยู่กับเรา (เปิดแชทหวานอยากอยู่กับคุณ) ถ้าอยากง้อทำไมไม่ง้อให้ถึงที่ จะมาง้อให้คนอื่นฟังทำไม ถ้าหนูเป้นณิชาคงรู้สึกว่าเพื่ออะไร รู้สึกแปลกๆ ได้ขอโทษณิชาแล้ว ตอนนี้ตาสว่างแล้ว รู้สึกผิดกับณิชาจริงๆ