ทิ้งทุกอย่าง 'กู๊ด เซพเทมเบอร์' ขอเปลี่ยนแปลงตัวตน | คมชัดลึก

  "อัลบั้มนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของพวกเรา ดีใจที่ได้กลับมาทำเพลง ได้ทำในสิ่งที่เรารักอีกครั้ง เพราะอัลบั้มนี้ เว้นว่างจากอัลบั้มที่แล้วไปค่อนข้างนาน แต่จริงๆ พวกเราก็ยังทำเพลงกันเรื่อยมา จนมีโอกาสได้เอาเพลงมาให้พี่โต้ง (มณเฑียร แก้วกำเนิด) และพี่เต้ง (พิชัย จิราธิวัฒน์) ฟัง แล้วพี่ๆ เขาก็ให้โอกาสพวกเรามาทำเพลงกับทางสไปร์ซซี่ดิสก์ นั่นคือการเปลี่ยนแปลงอย่างแรกของพวกเรา การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างคือแนวเพลง เมื่อก่อนเพลงของเราจะเป็นเพลงที่ฟังสบาย เย็นสบาย แต่อัลบั้มนี้แนวเพลงของพวกเราเป็นแนวบลู-อายด์ โซล ซึ่งเป็นแนวที่พวกเราบัญญัติขึ้นมาเอง เป็นการผสมผสานความเป็นป๊อป ฟังก์ โซล ดิสโก้ ไว้ด้วยกัน

 แถมอัลบั้มนี้พวกเรายังเพิ่มเสียงประกอบในทางอิเล็กทรอนิกเข้าไปอีก ซึ่งตลอดเวลา พวกเราจะเน้นการโชว์สด เล่นเสียงจากดนตรีสดๆ เท่านั้น และการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างคือนักร้อง จริงๆ ไม่ได้เรียกว่าเปลี่ยนแปลง เพราะโป้งเอง ก็ยังเป็นนักร้องนำของวงเรา แต่แค่ว่าเราดึงอั้มมาเป็นนักร้องนำอีกคนหนึ่งด้วย" เติ้งกล่าว ก่อนที่จะเสริมว่าการที่เลือก "อั้ม" เข้ามา เพราะว่า "โป้ง" ต้องไปเมืองนอก และต้องการการร้องที่แตกต่างกัน

 "จริงๆ โป้งเขาเองก็ยังอยู่กับวง แต่ในอัลบั้มนี้ เรามีนักร้องนำสองคน เพราะเราเคยทำอัลบั้มมาแล้ว อัลบั้มชุดนี้เราเลยอยากที่จะให้มีสีสันมากขึ้น เราเลยเพิ่มสมาชิกใหม่คืออั้มเข้ามา เพราะโป้งกับอั้มเสียงเขาคนละแบบเลย ซึ่งอั้มเขาเป็นโทนเสียงแหลมๆ ซ่าๆ หน่อย ส่วนโป้งเขาจะเป็นแนวนุ่มลึก โป้งเขาเลยจะเหมาะกับเพลงช้า ส่วนอั้มเขาจะเหมาะกับเพลงเร็ว ซึ่งในอัลบั้มนี้พวกเราก็ทำเพลงเร็วเพิ่มมากขึ้นด้วย เราก็จะแบ่งกันชัดเจน แต่จริงๆ ก็ดูเพลงและความเหมาะสมไปด้วย อย่างตอนนี้โป้งเขาติดงานอยู่ต่างประเทศ อั้มก็จะร้องในส่วนของโป้งด้วย เวลาเราไปโชว์คอนเสิร์ตที่ไหนที่มันไม่ใหญ่มาก แต่ถ้าในอัลบั้มจะมีสองเสียง แยกกันอย่างชัดเจน" กอล์ฟ มือเบสเล่า

 ก่อนจะเผยถึงการดึง "อั้ม" มาเป็นนักร้องนำอีกคน เพื่อเพิ่มความชัดเจนของเพลงเร็วในอัลบั้มนี้เพิ่มมากขึ้น ด้วยเนื้อเสียงของนักร้องนำคนใหม่ที่เหมาะกับเพลงเร็วอยู่แล้ว 

 "ในอัลบั้มนี้มีท่วงทำนองดนตรีที่แตกต่างจากอัลบั้มที่แล้ว อย่างที่บอกว่ามันมีเสียงซาวนด์สังเคราะห์เข้ามา ทำให้เรามีเพลงเร็วมากขึ้นกว่าอัลบั้มที่แล้ว การมีอั้มเข้ามาเติมสีสัน เพื่อให้ความกระฉับกระเฉงมันได้เพิ่มมากขึ้นและลงตัวมากขึ้นด้วย เพราะอย่างอัลบั้มชุดที่แล้ว เพลงช้าเราค่อนข้างจะเยอะ เนื้อหาจะเป็นแนวอกหัก เศร้าๆ จะเยอะ เลยทำให้เรารู้สึกว่าเวลาเราเล่นโชว์ เรามีแต่เพลงช้า ทำให้คนดูอาจจะดูนิ่งๆ เราเลยอยากให้คนดูสนุกกับเราบ้าง ชุดนี้เราเลยวางว่าเราจะเพิ่มเพลงเร็วค่อนข้างเยอะหน่อย เลยเพิ่มอั้มเข้ามาเพื่อให้มีสีสันและมีการเอ็นเตอร์เทนมากขึ้นด้วย แล้วจริงๆ เราก็เป็นเพื่อนกัน มีแจมด้วยกันตลอดอยู่แล้ว เพราะพวกเราเองก็เบื่อเสียงโป้งแหละ (หัวเราะ) เพลงใหม่ๆ จะได้มีอีกคาแร็กเตอร์หนึ่ง ซึ่งมันก็เหมาะสมแตกต่างกันไป จริงๆ เราไม่ได้มองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลง พวกเรามองว่าอั้มมาเติมเต็มในส่วนที่พวกเราไม่มีมากกว่า" เติ้งแจกแจง โดยมือกีตาร์หนุ่มของวงยังเล่าต่อถึงการที่อัลบั้มนี้ยกขบวนเปลี่ยนแปลงมากมาย เกิดจากความเบื่อ

 "พวกเราทำเพลงกันเองตลอด มันทำให้รู้สึกเหมือนว่าพวกเราทำเพลงวนอยู่กับที่ ไม่ขยับไปไหน พวกเราเลยอยากที่จะโตขึ้น เหมือนกับวงอื่นๆ ที่มีวิวัฒนาการ ซึ่งพออัลบั้มนี้ออกมาพวกเราไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่ใช่กู๊ด เซพเทมเบอร์ แต่แค่เป็น กู๊ด เซพเทมเบอร์ อีกแบบหนึ่งที่มีความแปลกใหม่ เพราะถ้าทำเหมือนเดิม มันก็ต้องเกิดความเบื่อหน่ายกับคนฟังเข้าสักวัน พวกเราเลยอยากแหวกไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีความขัดแย้งจากความเป็นพวกเราในชุดที่แล้วเลย โดย ณ วันนี้ แฟนอาจจะยังไม่เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ แต่เชื่อว่าพอได้ฟังเพลงของพวกเราแล้วจะเข้าใจในความเป็น กู๊ด เซพเทมเบอร์ รูปแบบใหม่มากขึ้นแน่นอน" กอล์ฟ มือกีตาร์กล่าว