บันเทิง

ก้านกล้วย 2

ก้านกล้วย 2

02 เม.ย. 2552

อุปมาอุปไมย ‘ช้างก้านกล้วย’ ทั้งในฐานะหนังเรื่องหนึ่ง หรือตัวละครที่มีชีวิตจิตใจ ประดุจคนคนหนึ่ง เวลาที่หายไปเกือบสามปี กลับมาครั้งนี้ ‘ก้านกล้วย’ เติบโตเป็นหนุ่มใหญ่

  ร่างกายล่ำสัน แข็งแรง ขณะเดียวกันภาวะทางอารมณ์ และความคิดอ่านยังสุขุมลุ่มลึก รู้รับผิดชอบ ทั้งในฐานะปัจเจก และหน้าที่พลเมือง แต่ถ้าหันกลับมามองในฐานะหนังเรื่องหนึ่ง (แถมยังเป็นหนังแอนนิเมชั่น) ‘ก้านกล้วย’ ก็ดูจะเติบโตในด้านพัฒนาการที่หนัง(ภาคต่อ) เรื่องหนึ่งพึงมี ไม่ว่าจะเป็นงาน ‘Visual’ ที่ให้ทั้งภาพความสมจริง สีสันลวดลายอันแปลกตา รายละเอียดที่ประณีตงดงาม ไปจนถึงความยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมกันนั้นเนื้อหายังมีความลุ่มลึกคมคาย เพิ่มมิติให้แก่ตัวละคร ที่แม้จะเป็นช้าง แต่ก็ใส่อารมณ์ความรู้สึก ประหนึ่งว่า ‘ก้านกล้วย’ และ ‘ชบาแก้ว’ เป็นดั่งมนุษย์ มีเลือดเนื้อ มีหัวจิตหัวใจ อารมณ์อ่อนไหวไปกับความรัก โกรธ หลง และเสียสละ (ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ ‘ก้านกล้วย’ ภาคนี้ เต็มไปด้วยความซาบซึ้งประทับใจ)

 “ก้านกล้วย 2” ขยับขยายเรื่องราวจากภาคแรก หลังชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในศึกยุทธหัตถีบนหลังช้างเหนือพระมหาอุปราชาของสมเด็จพระนเรศวร ‘ก้านกล้วย’ ได้รับความดีความชอบ ปูนบำเหน็จเขยิบฐานะเป็นเจ้าพระยาปราบหงสาวดี ช้างศึกคู่บารมี และใช้ชีวิตในวังหลวงด้วยภาระหน้าที่ทหารกล้า จึงทำให้ไม่มีเวลาดูแลครอบครัว ซึ่ง ‘ชบาแก้ว’ ภรรยากำลังตั้งครรภ์ และด้วยความน้อยใจสามี เธอจึงหนีออกมาคลอดลูกที่หมู่บ้านหินขาวบ้านเกิด โดยที่ ‘ก้านกล้วย’ เอง ไม่สามาถตามมาดูแล เพราะต้องเตรียมรับศึกกองทัพหงสาวดี ที่ยกมาประชิดชายแดน ปล่อยให้ ‘แสงดา’ ผู้เป็นแม่ ตามมาดูแลเพียงลำพัง

 หนังอารัมภบทเรื่องราวส่วนนี้อย่างรวบรัด กระชับ และตรงประเด็น โดยเฉพาะความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของ ‘ก้านกล้วย’ จนละเลยหน้าที่ความเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี อีกทั้งยังโชว์ศักยภาพของงานกราฟฟิก แอนนิเมชั่นฝีมือคนไทย ที่แสดงให้เห็นรายละเอียดมากมายของสภาพบ้านเมือง ตั้งแต่ธรรมชาติสวยงามของป่าไม้ ลำธาร ขุนเขา ไปจนถึงปราสาทราชวังและบ้านเรือน แม้ในช่วงเปิดเรื่องหนังจะเล่าพื้นเพ ที่มาของความขัดแย้งอย่างย่นย่อ แต่กลับดูแล้วเพลิดเพลิน อีกทั้งยังขมวดเนื้อหาได้ใจความและให้ความรู้สึกของการเสียสละ ความพลัดพราก การให้ความสำคัญต่อสถาบันครอบครัว หลายๆ ฉากยังสะท้อนถึงความเอื้ออาทรต่อเพื่อนร่วมโลกและประเด็นเหล่านี้ไปในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะตอนที่ ‘ชบาแก้ว’ ตัดสินใจไม่ขับไล่ ทำร้าย ครอบครัวหนูที่แอบเข้ามาอาศัยในเรือนนอน นอกจากนี้ ‘ก้านกล้วย 2’ ยังมีลีลาของชั้นเชิงการเล่าเรื่องด้วยศิลปะภาพยนตร์ จากการสื่อความหมายด้วยภาพโดยใช้ไวยากรณ์ของภาษาหนัง โดยเฉพาะในฉากสนทนาของ ‘ชบาแก้ว’ กับ ‘ก้านกล้วย’ ที่สื่อถึงชีวิตคู่เริ่มมีปัญหา ผ่านภาพอันเลือนรางพร่ามัว ที่สะท้อนบนผิวน้ำ ระยิบระยับ

 ...ในที่สุด ‘ชบาแก้ว’ ได้ให้กำเนิดลูกช้างฝาแฝด ‘ต้นอ้อ’ และ ‘กอแก้ว’ พร้อมๆ กับการฟูมฟักเลี้ยงดูอย่างดีของ ‘แสงดา’ ผู้เป็นย่า ท่ามกลางความห่วงหาอาทรของ ‘ก้านกล้วย’ ผู้พ่อ ที่แม้จะอยู่แสนไกล แต่ก็ยังได้ ‘จิ๊ดริด’ เพื่อนนกพิราบสื่อสาร(ตัวละครจากภาคแรก) คอยส่งข่าวคราวบอกเล่าสารทุกข์สุกดิบของลูกๆ ของเขาให้ฟังอยู่เสมอ แต่แล้วเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าหงสาวดีต้องการซ่องสุมกำลังพล เพื่อเข้าตีกรุงศรีอยุธยาเป็นการแก้แค้นที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสในสงครามยุทธหัตถี จึงสั่งทหารออกกวาดต้อนไพร่พล ชาวบ้าน สัตว์เลี้ยง กลับกรุงหงสา ซึ่งก็รวมทั้ง ‘ชบาแก้ว’ และลูกฝาแฝดของเธอ และเมื่อทราบข่าว ‘ก้านกล้วย’ จึงละทิ้งภาระหน้าที่ ช้างศึก ออกเดินทางตามหาลูกเมียเข้าไปในดินแดนข้าศึกเพียงลำพัง 

 ในซีเควนซ์นี้ หนังยังคงเล่าเรื่องได้สนุกอย่างออกรส ตั้งแต่ความน่ารัก น่าชังของลูกช้างและผองเพื่อน ที่เพิ่มตัวละครเข้ามาเป็นสีสันอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดุ๊ยดุ่ย ใบบอน ส้มจี๊ด และข้าวเม่า ที่สำคัญตัวละครช้างน้อยเหล่านี้ ยังออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายเด็กโบราณ คือมีทั้งผมแกละ ผมจุก รูปร่างสูงใหญ่ อ้วน ผอม น่ารักแตกต่างกันไป หนังสื่อความหลากหลายในอรรถรส เรียงร้อยผ่านฉากต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะเพียงแค่ฉากหลอกผีของช้างเด็กที่เรียกเสียงหัวเราะสนุกสนานแล้ว ในฉากต่อมาหนังก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นอารมณ์ระทึกขวัญเมื่อทัพพม่าบุกมากวาดต้อนผู้คน ตามด้วยฉากสะเทือนอารมณ์เมื่อลูกช้าง แม่ช้าง ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยศึก

 งานวิช่วลที่สวยมากๆ อีกฉากหนึ่งใน ‘ก้านกล้วย 2’ ก็คือ ฉากที่ ‘ก้านกล้วย’ ออกตามหาลูก-เมีย เดินผ่านทุ่งกว้างอันเวิ้งว้าง เรื่อยระไปตามพงดอกหญ้าละอองเกสรสีขาว ฟุ้งกระจายให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว ไปจนถึงการเดินทางผ่านทิวกอไผ่ ที่เอนลู่ไปตามลม พัดใบปลิดปลิวลอยละล่อง ถือเป็นฉากที่ทั้งสวยและเศร้าในคราวเดียวกัน ยากนักที่หนัง ‘ไลฟ์แอ็กชั่น’ จะทำได้แบบนี้...

 นอกจากงานโปรดักชั่นที่ถือว่าทำได้ดีกว่าภาคที่แล้วพอสมควร เนื้อหามีประเด็นให้จับต้องได้ มีแง่คิดสอนใจมากมาย ซึ่งนอกจากเรื่องครอบครัว การรับผิดชอบต่อหน้าที่แล้ว ‘มิตรภาพ’ ยังดูเป็นหัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ในหนังเด็กอยู่เสมอ และผู้ใหญ่เองก็อาจน้ำตาซึมเมื่อได้ยินเหล่าช้างน้อยพูดกับสมาชิกใหม่ในท้ายเรื่องว่า แม้ช้างอยุธยาและหงสาจะแตกต่างกัน แต่พวกเขาก็เป็นเพื่อนกันได้ไม่ใช่หรือ?

 ...นี่คือหนังที่ส่งเสียงเชียร์ได้อย่างเต็มปาก และไม่กระดากหากจะบอกว่า “ก้านกล้วย 2” เป็นหนังที่สมควรดูอย่างยิ่ง ณ เวลานี้

ชื่อเรื่อง “ก้านกล้วย 2”
ผู้เขียนบท : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย, อมราพร แผ่นดินทอง
ผู้กำกับ : ทวีลาภ ศรีวุฒิวงศ์
นักแสดง :   อรรถพร ธีมากร ให้เสียงพากษ์    ก้านกล้วย
                 แอน ทองประสม       ,,             ชบาแก้ว
                 วรุฒ วรธรรม            ,,             จิ๊ดริด
                 มนตรี เจนอักษร       ,,              พระนเรศวร
                 นนทรี นิมิบุตร          ,,              พระเจ้าหงสาวดี
                 นัฎฐา ลอยด์            ,,              แสงดา

 

"ณัฐพงษ์ โอฆะพนม"